นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัส covid-19 ทำให้หลายคนตกงาน กิจการต้องหยุดชะงัก ขาดแคลนเงินทองของใช้ อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้มีการก่ออาชญากรรมมากขึ้น บรรดาผู้ร้ายขโมยขโจรไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ผู้เขียนจึงอยากจะชี้ให้เห็นว่า ถ้าท่านกระทำความผิดแล้วถูกศาลพิพากษาให้จำคุก ต้องเข้าไปเป็นนักโทษในเรือนจำ มี 5 สิ่ง ที่ท่านต้องทนกับความขาดแคลนมากกว่าตอนที่อยู่กับโลกภายนอก ไม่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาในอดีตนั้น โลกภายนอกจะเคยตกอยู่ในสภาวะเช่นไรก็ตามผู้ต้องหาหลายรายอ้างว่า " ตกงาน ขาดแคลนรายได้ " จึงต้องมาก่อคดีฉกชิงวิ่งราวขอเปรียบเทียบให้ทราบว่าการขาดแคลนของโลกภายนอก กับการขาดแคลนในเรือนจำนั้นเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร ในเรื่องใดบ้าง เผื่อผู้ที่กำลังลังเล กำลังคิดจะกระทำผิดกฎหมาย จะได้คิดใหม่ คิดให้รอบคอบ ในโลกนี้นั้น สิ่งใดจะเป็นสิ่งสูงค่า มีประโยชน์ มีความหมาย หรือจะด้อยค่าไม่มีราคา มองไม่เห็นประโยชน์นั้น มักจะต้องมีสิ่งหรือสภาวะอื่นเปรียบเทียบเสียก่อน คือต้องมีความสัมพัทธ์กับสิ่งอื่นเสียก่อนจึงจะมองเห็นได้ชัดเจนด้วยเหตุที่ผู้เขียนทำงานเป็นผู้คุมมานานในเรือนจำหลายแห่ง จึงทำให้เห็นความจริงของเรื่องนี้มาตลอด ในเรือนจำนั้นไม่ว่าอะไร จะมีคุณค่า มีความหมายความสำคัญกับนักโทษแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางรูปธรรมหรือนามธรรม เงินทองสิ่งของเล็กๆน้อยๆ หรือแม้แต่เรื่องของน้ำใจน้ำจิตมิตรภาพ เพราะนักโทษในคุกนั้นเป็นผู้อยู่ในภาวะขาดแคลนแทบทุกอย่าง โดยผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างพอให้เห็นเป็นสังเขปว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้ ข้อ 1 ขาดอิสระ เพราะนักโทษนั้นไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามใจตัวเอง แม้แต่พื้นที่ภายในเรือนจำ นักโทษก็ต้องอยู่เฉพาะในที่-ที่กำหนด มีที่ห้ามไป ห้ามเข้า และห้ามเข้าเด็ดขาด! ที่ห้ามไปก็เช่น การออกไปนอกแดนที่ตนถูกคุมขังอยู่ เพราะในเรือนจำนั้นแบ่งย่อยออกเป็นแดนต่างๆ เช่น แดนโทษสูง แดนพยาบาล แดนแรกรับ แดนขังหญิง เป็นต้น ที่ห้ามเข้านั้นก็เช่นสถานที่หรือห้องทำงาน ห้องพักเวรของเจ้าพนักงาน และที่ที่ห้ามเข้าอย่างเด็ดขาดก็คือแดนหญิง และนักโทษหญิงก็ห้ามเข้าหรือแอบเข้ามาในแดนนักโทษชาย ที่ห้ามเด็ดขาดอีกที่หนึ่งก็คือบริเวณนอกรั้วลวดหนามหรือรั้วตาข่ายที่กั้นรอบเรือนจำด้านในทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษเข้าไปใกล้กำแพงชั้นนอก จะเขียนด้วยสีแดงเป็นอักษรตัวใหญ่ว่า "ห้ามเข้าเขตอันตราย" การเล็ดลอดเข้าไปในที่ห้ามเข้าเด็ดขาดนั้น ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน นักโทษจะต้องถูกลงโทษทางวินัยและเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะถือว่าเป็นการจงใจหลบหนี หรือหากเล็ดลอดข้ามไประหว่างแดนขังหญิงกับแดนขังชายก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในบริเวณนี้ หรือว่านักโทษคนนั้นอยู่ในความควบคุมของตน ก็จะถูกสอบสวนด้วย นี่คือความขาดแคลนในด้านอิสรภาพที่ยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบให้เห็นว่า การถูกกักตัว ติดเคอร์ฟิว หรือการที่ถูกขอความร่วมมือให้อยู่กับบ้านนั้นมันแตกต่างกันแค่ไหน กับการที่คิดจะทำผิดกฎหมายแล้วต้องมาติดอยู่ในเรือนจำข้อ 2 ขาดเงิน แม้ใครจะมีเงินมีทอง เคยครอบครองทรัพย์สินเป็นร้อยล้านพันล้านก็ตาม นักโทษจะไม่มีโอกาสได้ใช้จ่ายเงินตามอำเภอใจ ไม่มีโอกาสได้ใช้จ่าย ปรนเปรอบำเรอความอยากอีกแล้ว เพราะทุกเรือนจำในประเทศไทย กำหนดให้ใช้เงินได้แค่วันละไม่เกิน 300 บาท และต้องใช้เป็นคูปองหรือเรียกในเรือนจำว่า " บุ๊ค " ไม่มีการใช้เงินสดในเรือนจำ เพราะเงินสดเป็นสิ่งของไม่อนุญาตให้นำเข้ามาเก็บไว้ในเรือนจำ ตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 แม้แต่เจ้าพนักงานเรือนจำก็นำเข้าไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากใครกระทำผิดกฎหมาย แล้วถูกลงโทษจำคุก เงินที่ได้มานั้นก็แทบจะไม่ได้ใช้ ส่วนทรัพย์สินสมบัติข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นนั้นมิต้องพักกล่าวถึงข้อ 3 ขาดแคลนสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว แม้แต่ของชิ้นเล็ก ๆ ที่ข้างนอกไม่ได้หายาก หรือมีราคาค่างวดอะไร แต่ในเรือนจำนั้นแสนจะหายาก และมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก เช่น มีดตัดเล็บ กระจกส่องหน้าอันเล็ก ๆ แม้แต่เสื้อผ้าก็อนุญาตให้สวมแต่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดและให้มีได้คนละ 5 ชุดกับรองเท้าฟองน้ำ 1 คู่เท่านั้น ใครจะเอากางเกงยีนส์ตัวละหมื่นห้ามาสวมใส่ในเรือนจำนั้นอย่าได้หวังทีเดียว ที่เก็บทรัพย์สินในชีวิตนักโทษนั้น เป็นเพียงล็อกเกอร์ช่องเล็ก ๆ คนละช่อง ทรัพย์สมบัติทั้งมวล ทั้งเสื้อผ้า ยาสระผม ผ้าขาวม้า แป้ง ยาสีฟัน สบู่ทาตัว จะต้องรวมอยู่ให้ได้ในล็อกเกอร์เพียงใบเดียว หรือแม้แต่จดหมายจากทางบ้าน รูปถ่ายของครอบครัว หรือของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซื้อมาจากร้านสงเคราะห์ด้วยคูปอง ก็จะต้องจัดวางไว้ให้ได้ในล็อกเกอร์ที่กว้างคูณยาวคูณสูงประมาณ 30 x 40 x 60 เซนติเมตรในช่องเดียว เสื้อผ้าข้าวของเล็ก ๆ น้อย ๆ กระจุกกระจิกต่าง ๆ จึงต้องมีวิธีจัดวางอย่างเรียบร้อย มิเช่นนั้นจะวางไม่หมดข้อ 4 ขาดอาหารที่เคยชอบ นักโทษจะได้กินแต่เฉพาะอาหารที่ทางเรือนจำปรุงขึ้นเองภายในเรือนจำเท่านั้น เพราะปัจจุบันนี้กรมราชทัณฑ์ออกระเบียบไว้ ห้ามญาตินักโทษ ส่งอาหารหรือสิ่งของเครื่องใช้ใด ๆ มาให้นักโทษโดยเด็ดขาด ห้ามส่งของหรือพัสดุภัณฑ์ทุกชนิด เจ้าพนักงานทุกคน ทุกระดับ หรือบุคคลภายนอกที่มีเหตุต้องเข้ามาในเรือนจำ เช่นพวกช่างระบบไอที ช่างแอร์ ผู้ส่งอาหารดิบ หรือใครก็แล้วแต่ จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ประตูค้นตัวก่อนเข้าเรือนจำอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกครั้ง ไม่มีใครสามารถนำอะไรมาให้นักโทษได้เลย แม้แต่ยาแก้ไข้พาราเซตามอลเพียงเม็ดเดียว ก็เอามาให้ไม่ได้ จึงมิพักต้องกล่าวถึงพวกอาหารการกินต่าง ๆ ซึ่ง ผิดกับเมื่อ 20 ปีก่อนที่อนุญาตให้ญาติผู้ต้องขังส่งพัสดุ ส่งข้าวปลาอาหาร เครื่องใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้นักโทษได้ ปัจจุบันนี้ห้ามเด็ดขาด! เพราะญาติบางรายลักลอบเอายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งที่ห้ามนำเข้ามาในเรือนจำอื่น ๆ ปะปนเข้ามากับของฝากเหล่านี้ข้อ 5 อันนี้สำคัญที่สุด คือ นักโทษจะขาดแคลนความรัก เพราะต้องห่างเหินกับครอบครัว พ่อแม่ลูกเมีย ญาติสนิทมิตรที่รัก เพราะนักโทษกับคนภายนอกนั้น เรียกได้ว่าแทบจะอยู่กันคนละโลกที่เดียว เป็นภาวะการขาดแคลนทางนามธรรม ทางจิตใจ ขาดความรักความอบอุ่นใจ ที่เป็นเรื่องความรู้สึกภายใน การวางจิตวางใจของตัวนักโทษเองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง นักโทษคนไหนวางใจไม่เป็น คิดฟุ้งซ่านห่วงกังวลกับโลกภายนอกเกินไป ผู้นั้นจะเกิดความเครียด ความหงุดหงิดงุ่นง่าน เพราะทุกสิ่งจะไม่ได้ดั่งใจ ในเรือนจำนั้นเต็มไปด้วยระเบียบวินัย การกิน การนอนหลับ การพักผ่อน การทำงาน จะถูกเข้มงวด นักโทษทุกคนจะมีความเสมอภาคกันหมด ไม่มีทั้งนายพล นายพัน หรือนายแพทย์ มีแต่ผู้คุมกับนักโทษเท่านั้นในสถานการณ์โรคระบาดของไวรัส covid-19 ที่เป็นมาเกือบ 2 ปี ประชาชนคนรากหญ้าทั่วโลก ตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนเหมือนๆกัน ทุกคนต้องอยู่ใต้คำสั่ง หรือในกฎหมายภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ไปไหนมาอาจจะต้องติดเคอร์ฟิว ติดล็อกดาวน์ ขาดการท่องเที่ยวพักผ่อน ไม่ได้สังสรรค์รื่นเริงบันเทิงใจ ต้องห่างเหินกับญาติสนิทมิตรสหาย ขาดเงินขาดทองข้าวของเครื่องใช้ หลายๆคนอาจถูกกักบริเวณ แต่ก็ยังมีอิสระภาพมากกว่า ไม่ต้องอยู่ในระเบียบวินัยเคร่งครัดเหมือนกับอยู่ในเรือนจำ และชีวิตของนักโทษนั้น ทุกๆสิ่งในชีวิตจะถูกตัดไปเกือบทั้งหมด แทบจะเหลือไว้เพียงแต่ลมหายใจ เพื่อให้มีชีวิตที่ได้แต่เพียงแหงนมองท้องฟ้ากับดวงดาว เพราะมีกำแพงกั้นสายตาหมดทุกด้าน บุคคลภายนอกผู้ใดกำลังหาทางบรรเทาการขาดแคลนเงินทองในทางมิชอบ ควรต้องคิดให้ดี ๆ นะครับ อาจจะทำให้ชีวิตยิ่งวิบัติขึ้นไปอีก หลายคนคงจะเยาะอยู่ในใจ ว่าจะเอาคนในคุกมาเปรียบเทียบกับคนนอกคุกได้ยังไง ทุก ๆ อย่างนั้น ถ้ามีการเปรียบเทียบก็จะทำให้เห็นภาพได้ชัดยิ่งขึ้น เมื่อเห็นความยากลำบากในเรือนจำ ก็อาจยับยั้งใจไม่ให้เกิดการกระทำผิดได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นเยาวชนของชาติที่ยังคึกคะนอง และสุจริตชนพลเมืองดีที่ไม่ได้คิดจะกระทำผิด ก็จะได้เกิดกำลังใจขึ้น เมื่อได้รู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่ลำบากยากไร้ขาดแคลนยิ่งกว่า ตอนนี้ทุกๆคนบนโลกกำลังเจอความทุกข์ร่วมกัน เป็นภัยพิบัติใหญ่หลวงในสังคม ศาลอาจจะลงโทษบทหนักในความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์ เพราะถือว่าเป็นการซ้ำเติมสังคมให้ได้รับความเดือดร้อนมากขึ้นไปอีก มนุษย์ทุกคนควรหันมาช่วยเหลือกันดีกว่า อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย เพราะล้วนแต่เป็นเพื่อนผู้ร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เรือนจำจังหวัดตรังที่ผู้เขียนทำงานอยู่นั้นอยู่ใกล้กับสนามบิน ทุกครั้งที่นั่งเครื่องบินแล้วมองลอดหน้าต่างลงไปเบื้องล่าง ก็จะเห็นเรือนจำอย่างชัดเจน เมื่อเครื่องไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ก็มองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องล่างผสมกลมกลืนปนเปกันไปทั้งหมด เห็นตึกรามบ้านช่องเหมือนรังมดรังปลวก และเมื่อสูงขึ้นไปอีกจนแลเห็นเส้นขอบฟ้าจึงได้รู้ว่า แท้ที่จริง โลกทั้งใบก็คือคุกนั่นเอง เป็นดาวคุกดวงใหญ่ เราทุกคนต่างล้วนติดอยู่ในคุกเหมือน ๆ กัน และเราที่เป็นนักโทษในคุกต่างต้องโทษประหารชีวิตด้วยกันแล้วทั้งนั้น เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าตนเองจะถูกประหารวันไหน มีเพชฌฆาตเงื้อดาบจ้องฟันคออยู่ทุกเวลา ตอนที่ยังไม่ถูกประหารก็แย่งชิงสิ่งที่สมมุติกันขึ้นมาเองทั้งนั้น รบราฆ่าฟัน ออกลูกออกหลาน ทั้งตายทั้งเกิดกันอยู่ข้างล่างนั่นเอง ผู้ที่อยู่บนที่สูง อาจจะมองเหล่ามนุษย์ที่ยั้วเยี้ยเหมือนฝูงมดปลวกข้างล่างด้วยความอนาถใจ เหมือนกับที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ บอกว่า " ธรรมมะนั้นมีอยู่ทุกหย่อมหญ้า ถ้าเรามีปัญญาก็สามารถมองเห็นได้นั่นเอง " คุกใหญ่นี้ เป็นคุกที่กักขังจิตวิญญาณทุกดวง น้อยคนนักที่ตั้งใจฝึกตน เพื่อจะแหกคุกแห่งนี้ออกไปให้ได้ เพราะจิตถูกดึงดูดเอาไว้ด้วยแรงโน้มถ่วงแห่งตัณหาอุปาทาน ที่คอยโน้มใจให้ติดรสอร่อยของโลก ทำให้ต้องวนเวียนอยู่ในคุกแห่งนี้ แต่นักโทษทุกคนต่างก็ยินดีที่จะอยู่ในคุกนี้ให้ยาวนานที่สุด เพราะมีสังโยชน์อันเป็นยางเหนียวแห่งกิเลสรึงรัดมัดจิตของสรรพสัตว์ให้จมอยู่ในวัฏฏะ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในคุกแห่งนี้มาไม่รู้แต่กาลไหน หาต้นไม่ได้หาปลายไม่เจอ เขียนโดย พระยมอมยิ้มภาพปก ภาพถ่ายจากผู้เขียนภาพประกอบที่ 1 ภาพถ่ายโดย MART PRODUCTION จาก Pexelsภาพประกอบที่ 2 ภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexelsภาพประกอบที่ 3 ภาพถ่ายโดย Paula จาก Pexelsภาพประกอบที่ 4 ภาพถ่ายโดย Cats Coming จาก Pexelsภาพประกอบที่ 5 ภาพถ่ายจากผู้เเขียนภาพประกอบที่ 6 ภาพถ่ายโดย Ivan Samkov จาก Pexelsภาพประกอบที่ 7 ภาพถ่ายโดย Valentin Antonucci จาก Pexels ขอบคุณที่อ่านบทความของพระยมอมยิ้มครับFacebook : Ajarn.JarunCorrect Youtube : youtubeร่วมเสพบทความ หนัง เพลง และซีรีส์ใหม่ ๆ สุดเพลิดเพลิน โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !