ความรู้สึกในแง่ลบสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เราไม่ได้ผิดแปลกที่จะรู้สึกแบบนั้น แต่เมื่อความรูสึกแบบนั้นเกิดขึ้นแล้ว มันก็ควรถูกจัดการ เราไม่ควรปล่อยความรู้สึกนี้ไว้กัดกินจิตใจของตัวเอง ยิ่งในช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงที่เราทั้งคาดหวังและกดดันในตัวเอง บางครั้งก็รู้สึกแย่ว่าทำไมคนรอบตัวถึงดูมีเป้าหมายชัดเจน ดูมีความสามารถ ดูเก่ง ไม่ว่าจะด้านการเรียนหรืออะไรก็ตาม มันทำให้เราหันมากดดันตัวเอง เราอยากมาแชร์เรื่องนี้เพราะตัวเราเองก็เป็นแบบนั้น การรู้สึกแย่กับตัวเองไม่ใช่สิ่งที่ใครจะชอบ แต่กลับเป็นบ่อยซะอย่างนั้น เราเป็นคนที่คาดหวังในตัวเองมาก แต่ก็เป็นคนที่ไม่ได้เก่งอะไร อยู่ระดับกลางๆอาจจะค่อนท้ายห้องด้วยซ้ำ เราคิดมาตลอดว่าเราก็ไม่ใช่คนที่แย่อะไร แต่พอขึ้น ม.ปลาย เราเจอคนที่เก่งหลายๆด้าน สิ่งนั้นมันทำให้เราได้รู้ว่าเราเป็นคนที่ไม่ได้เก่งด้านไหนเลย จะเป็นมนุษย์เป็ดก็ไม่ได้เพราะไม่ได้สามารถทำได้หลายอย่างขนาดนั้น ไม่ใช่ไปไม่สุดแต่ไม่สามารถทำได้เลยด้วยซ้ำ เราจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆแบบนั้นอยู่เป็นเดือนจนเริ่มลองหาวิธีจัดการตัวเอง เพราะเราก็รู้ตัวเองดีว่าอีกไม่นานก็ต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยแล้ว พอคิดได้เราก็เริ่มฮีลตัวเองอีกครั้ง โดยวิธีฮีลตัวเองของเราจะสรุปเป็น 5 อย่าง เผื่อมันจะช่วยคนที่เข้ามาอ่านบ้าง1.ตั้งเป้าหมายแล้วลองทำมันเอาจริงนี่เป็นสิ่งที่เราทำบ่อยมากๆ การตั้งเป้าหมายเล็กๆสักอย่าง แล้วค่อยๆทำ มันช่วยให้เราไม่รู้สึกเคว้ง แบบว่าเราก็มีเป้าหมายเหมือนกันนะ ไม่ได้ใช้ชีวิตไปวันๆสักหน่อย อาจจะเริ่มจากการ ตั้งเป้าอ่านหนังสือ อาจจะวันละ2ชั่วโมง ถ้าทำต่อเนื่องได้เป็นเวลา1สัปดาห์ จะให้รางวัลตัวเอง แล้วค่อยๆเพิ่มเวลาเพื่อให้ได้รางวัลยากขึ้น การค่อยๆปรับก็จะเหมือนเกมที่ค่อยๆเพิ่มระดับความยากมากขึ้น แต่ไม่ต้องปรับระดับโหดจนเป็นการฝืนตัวเองจนมากเกินไป ไม่งั้นก็จะกลายเป็นการทรมานตัวเองเปล่าๆแทนที่จะช่วยกลับกลายเป็นทำให้รู้สึกแย่กว่าเดิม ถ้าปรับได้จริงๆมันจะทำให้เราสนุกกับชีวิตมากขึ้น 2.ถ้ากลัวจะทำไม่ได้ลองทำตารางเวลาดูสิวิธีนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคนแต่เราเป็นคนที่จะรู้สึกแย่มากๆเวลาจัดการอะไรได้ไม่ทันเวลา หรือการตั้งเป้าหมายแล้วแต่พอได้จับมือถือที่ก็เล่นเพลิน แล้วพอคิดได้ก็กลับมารู้สึกแย่ที่ตัวเองมัวแต่เล่น กลายเป็นวงจรไม่จบไม่สิ้น การทำตารางเวลาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้อาจจะเปป้นการบังคับตัวเองไปหน่อย แต่ช่วยตัดวงจรการรู้สึกผิดซ้ำไปซ้ำมาได้ดีทีเดียว แต่ไม่ใช่ว่าทำตารางเพื่อมากดดันตัวเองขนาดนั้น ตารางควรมีความยืดหยุ่น แต่ก็ไม่หย่อนจนเกินไป เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จแต่ก้ไม่ได้เครียดจนกลับมาหมดไฟ หรือ คิดลบกับตัวเองอีก การมีตารางเพื่อสร้างขอบเขตให้เราจัดการเวลาชีวิตตัวเองได้อย่างมีระบบมากขึ้น เพื่อแบ่งสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่ต้องการ และหน้าที่อย่างชัดเจน ทำให้เรารู้ว่าควรทำอะไรตอนไหน เพื่อทำสิ่งที่อยากทำได้โดยไม่เบียด้บียนหน้าที่ของเรา3.ลองทำสิ่งที่สนใจแต่ไม่กล้าเริ่มสักทีในช่วงที่เรารู้สึกแย่การหันมาลองทำอะไรที่ไม่กล้าทำก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เราอาจจะค้นพบงานอดิเรกใหม่หรือ ค้นพบว่าสิ่งนี้ไม่ได้เหมาะกับเราเพื่อจะได้ค้นหามันต่อไป เราได้เริ่มทำขนมเพราะเฟลจากการสอบ ตอนนั้นรู้สึกว่าจากพักใจจากการสอบสักพักเลยเริ่มลองทำขนม ออกมาดีบ้างไม่ดีบ้างแต่เราก็รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกดี ตอนนั้นก็ลืมเรื่องสอบไปแล้วนั่งคิดว่าขนมจะกินได้มั้ยแทน 55 แล้วก็เราได้เริ่มทำอะไรหลายอย่างจากการเฟลครั้งนั้น เพราะเราเป้นคนที่รู้สึกว่าไม่อยากให้เวลาผ่านไปเฉยๆ ไหนๆเราก็ไม่มีไฟจะอ่านหนังสือ ก็เอาเวลามาลองทำอย่างอื่นดีกว่า ก็นั่นแหล่ะ เราได้เริ่มทำขนม ได้ลองฝึกถ่ายรูป เขียนบทความ ได้ทำหลายๆอย่างที่เราไม่ได้ลองทำเพราะก่อนหน้านี้เตรียมสอบอย่างเดียว มันอาจจะไม่ได้มีประโยชน์ขนาดนั้น แต่เราก็ชอบทำแบบนี้มากกว่าปล่อยเวลาไปเฉยๆ 4.เขียนไดอารี่บันทึกสิ่งที่พบเจอ ในช่วงเฟลมากๆ เราได้ลองเขียนไดอารี่ บันทึกเรื่องราวความรู้สึกในแต่ละวันแล้วเรารู้สึกว่ามันเวิร์คมาก การบันทึกประสบการณ์ในทุกๆวันเหมือนเป็นการระบายมันให้เพื่อนสักคนฟัง พอกลับมาไล่อ่านเราอาจจะค้นพบวิธีแก้ปัญหาจากการมองปัญหานั้นอีกครั้งก็ได้ การได้ระบายออกมามันทำให้รู้สึกดีกว่าการเก็บไว้จริงๆ บางคนอาจจะเปลี่ยนเป็นเล่าให้เพื่อนฟังก็ได้ เราอาจจะได้แนวคิดอะไรดีๆกลับมา5.ขอพักสักแปปแล้วกลับไปลุยต่อการรู้สึกแย่กับตัวเองบางครั้งก็เกิดจากการทำงาน หรือ ทำหน้าที่บางอย่างของเราไม่ว่าจะการเรียน การสอบ หรืออะไรก็ตามในวันที่สิ่งเหล่านั้นทำให้รู้สึกแย่ ลองแอบอู้สักนิดแล้วกลับไปทำต่อก็ไม่แย่ แต่ต้องมีขอบเขตเพื่อไม่ให้ต้องมาเดือดร้อนทีหลัง อาจจะแอบพักไปทำอะไรที่ชอบ อย่างการดูหนังเรื่องโปรด กินของที่ชอบ นอนพักสักหน่อย นั่งเล่นเกมสักนิด แล้วกลับมารับผิดชอบงานที่ทำ กลับมาเตรียมสอบ กลับมาอ่านหนังสือ เพื่อไม่ให้ทุกอย่างแย่ลงเพราะมัวแต่พักหรือฝืนทำไปในตอนที่ไม่ไหว การแอบพักสักนิดก็ดีเหมือนกันทั้ง 5 อย่างอาจจะใช้ได้หรือไม่ได้กับบางคน แต่เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนที่แวะเข้ามาอ่านได้มีแนวทางในการจัดการกับความรู้สึกตัวเองบทความนี้มันจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย แต่นักเขียนจะขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ไม่ว่าคุณจะเจออะไรอยู่คุณจะผ่านมันไปได้ มันอาจจะยากแต่คุณทำได้อยู่แล้วภาพปก : Hakeem James Hausley แก้ไขโดย : FLUFFYภาพประกอบ 1 : Pixabayภาพประกอบ 2 : Bich Tran ภาพประกอบ 3 : Jessica Lewis Creativeภาพประกอบ 4 : Vlada Karpovichภาพประกอบ 5 : Andrea Piacquadio7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์