ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึงซูชิ ปลาดิบ แต่ที่นั่นยังมีอาหารการกินที่แปลก!! และหายากมากๆ แถมราคาแพงจนต้องร้องเสียงหลงกันเลยทีเดียวเชียว เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากรู้ว่ามีอาหารอะไรบ้าง ที่ไม่ควรพลาดแล้วล่ะก็ ต้องอ่านให้จบนะครับ แล้วคุณจะพูดไม่ออกเลย 1. เห็ดมัตสึทาเกะ เห็ดมัตสึทาเกะไม่ได้มีเฉพาะ แค่ที่ญี่ปุ่น พวกมันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทั้งใน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ไปจนถึง ฟินแลนด์ นอเวย์ โปแลนด์ แคนนาดา และ อเมริกาเลย ด้วยความที่มันหาได้ทั่วทุกทวีปของโลกแบบนี้ คุณคงคิดว่า มันน่าจะราคาไม่กี่สิบบาทละสิ แต่นั่นไม่ใช่ในญี่ปุ่นครับ จำนวนของ เห็ดมัตสึทาเกะ ในญี่ปุ่นลดน้อยลงไปมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะติดโรค และการเก็บเกี่ยวเกินควร การลดจำนวนลงนี้ รวมกับข้อกำหนด การปลูกแบบพิเศษ ทำให้ ในญี่ปุ่น สามารถเก็บเห็ดมัตสึทาเกะ ได้น้อยกว่า 1000ตันต่อปี เห็ดมัตสึทาเกะเพียง100กิโลกรัม ราคาสูงถึง 99,400บาท แน่นอนว่า ราคานี้เป็นตอนที่ตลาดอยู่ในภาวะ ย่ำแย่สุดๆ คุณสามารถซื้อเห็ดมัตสึทาเกะได้ทั่วโลก ในราคาที่เหมาะสม แต่อาจจะต้องจ่ายเพิ่มสักหน่อย เพื่อรสชาติแบบญี่ปุ่นที่แท้จริง 2. องุ่นทับทิมโรมัน อีชิคาวะ เป็นจังหวัดเล็กๆในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู นอกจากจะเป็นจังหวัดศูนย์กลางด้านวัฒนธรรม ยังขึ้นชื่อเรื่องภูมิอากาศที่อบอุ่น และดินที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุ เมื่อรวมทั้ง 2 อย่างแล้ว ทำให้สามารถปลูกองุ่นที่เรียกว่า แพงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ องุ่นทับทิมโรมัน จะปลูกที่ไหนบนโลกไม่ได้อีกแล้ว และสามารถลูกใหญ่ ได้เท่าลูกปิงปอง!! พวกมันถูกเปิดตัวในปี 2008 ในฐานะเป็นองุ่น พรีเมี่ยม และชาวสวนก็จริงจังกับมันมากๆ โดยองุ่นแต่ละลูกจะได้รับการตรวจสอบ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อยู่ในมาตรฐานระดับสูงขององุ่น ตอนที่เปิดตัวมา มันมีราคาอยู่ที่พวงละเกือบ30,000 บาท ฮ้ะ!! หรือประมาณลูกละ 850 บาทเลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี และองุ่นที่ผ่านมาตรฐานมีจำนวนน้อยลง ทำให้พวกมันมีราคาที่แพงพุ่งทะยานขึ้นไปอีก เช่นในปี 2017 องุ่นทับทิมโรมันราคาพวงละ 350,000 บาท พระเจ้า!!! ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดที่คนเคยจ่ายให้กับองุ่นแสนอร่อยพวกนี้ พวกนึงมีองุ่น 30ลูก เพราะฉะนั้น องุ่น1ลูก ราคาประมาณ 11,000 บาทเลย โอ้โหห แพงได้ใจจริงๆเลยนะเนี่ย 3. เมล่อนยูบาริคิง ผลไม้แสนแพงอีกชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น จริงๆแล้ว มันเป็นลูกผสมระหว่าง แคนตาลูป 2สายพันธุ์ ซึ่งถือว่าเป็น1เหตุผลว่าทำไม ยูบาริคิง ถึงได้มีราคาสูงนัก อีกเหตุผลก็คือ รสชาติ และรสสัมผัส ราชาของเลม่อนนี้ มีชื่อเสียงว่ามี ทรงกลม และความเรียบเนียน ที่ สมบูรณ์แบบที่สุด หายากในหมู่เมล่อน และความหวานของมัน ก็มากพอๆกับแตงโมเดนสุเกะ ราคาโดยเฉลี่ยของ ยูบาริคิง อยู่ที่ 1,600 - 3,200 บาท แต่ก็เหมือนกับผลไม้พรีเมี่ยม อื่นๆ ของญี่ปุ่นที่สามารถเรียกราคา ได้สูงเฉียดฟ้า!! ในการประมูล ในเดือนพฤษภาคม ปี2018 เมล่อน ยูบาริคิง 2 ลูก ขายออกไปในราคาเกือบ 930,000บาท !! เราก็ไม่แน่่ใจว่า นั่นคือราคาที่แพงที่สุดในโลกไหม แต่เรามั่นใจได้เลยว่า ไม่มีใคร จ่าย ให้เมล่อน 2 ลูกในราคาที่แพงกว่านี้แน่นอน โหห เป็นเราก็กระเป๋าตังแห้งอ่ะ หือออ 4. เนื้อวัวโกเบ น่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื้อสเต็กชิ้นโต ที่ได้ชื่อเสียงจากนักบาส Kobe Bryant ที่ได้ชื่อนี้มาจาก พ่อแม่ของเขา เห็นชื่อเนื้อวัวนี้ในเมนูร้านอาหารญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าเนื้อวัวนี้ จะเป็นสัญลักษณ์ ของญี่ปุ่น แต่ก็รู้จักกันในอีกชื่อนึงว่า Wagyu การส่งออกเนื้อโกเบ เริ่มขึ้นในปี 2012 นี้เอง นั่นแปลว่า ถ้าคุณอาศัยอยู่ในประเทศอื่น นอกจากญี่ปุ่น และคุณคิดว่า คุณได้กินเนื้อโกเบแล้วก่อนปี 2012 คุณคิดผิดครับ!! อีกวิธีการที่จะตรวจสอบได้ว่า คุณได้กินเนื้อโกเบจริงๆหรือปล่าวก็คือ ถ้าคุณไม่ได้จ่ายค่าเนื้อเกิน 3,000บาท คุณกินเนื้อโกเบของปลอมครับ!! เนื้อโกเบจริงๆ จะตัดออกจากส่วนพิเศษของวัวดำญี่ปุ่น ราคาสูงถึง 1,600 บาท ต่อ 100 กรัม ตอนที่บริษัท คอตโค้ ได้รับเนื้อวากิวของจริงมาในครั้งแรก พวกเขาขายในราคา 3,500 บาท ต่อ 500 กรัม แต่คุณต้องซื้ออย่างต่ำ 5 กิโลกรัม คุณอาจจะสงสัยว่า สเต็กเนื้อชิ้นนึงจะแพงขนาดนั้นได้อย่างไร แต่สาวกผู้รักเนื้อวัว สาบานเลยว่า รสชาติมันคุ้มเกินคุ้มเลยจริงๆ เหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยหล่ะ!! 5. ฟุกุ วิดีโออาหารญี่ปุ่นจะไม่สมบูรณ์แบบเลย ถ้าไม่มีอาหารแปลกๆเข้ามาร่วมด้วย ฟุกุ คือ ปลาปักเป้า และอย่างที่ทุกคนรู้ก็คือ มันมีพิษร้ายแรงมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟุกุ เป็นอาหารอันโอชา แต่ 1จานในร้านอาหารญี่ปุ่น สามารถมีราคาสูงถึง 32,000 บาท ปลาปักเป้าต้องถูกเตรียมเป็นพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้้บริโภคกินได้แบบไม่มีพิษ วิธีการเตรียมนั้น เคร่งครัดมาก ถึงกับมีกฎระเบียบ ข้อบังคับตามกฏหมายเลย!! เฉพาะเชฟที่ได้รับอนุญาต จากรัฐบาลเท่านั้น จึงจะสามารถเสริฟฟุกุให้กับคนอื่นได้ วิธีการได้ใบอนุญาตนั้น คือต้องผ่านการมีประสบการณ์ในด้านนี้มากว่า 2 ปีแล้วเท่านั้น แต่เคล็ดลับของเหล่าเชฟก็คือ จะไม่ตัดพิษออกทั้งหมด เพราะมันจะเป็นการเสียของมากๆ เชฟจะตัดพิษออกให้พอกินเข้าไปแล้วไม่เป็นพิษ!! แต่พอให้มีความรู้สึกซ่า และชาตอนกิน นี่ถือเป็นเอกลักษณ์อันโอชาของ ฟุกุ สเน่ห์ของ ฟูกุ ไม่ได้อยู่ที่รสชาติ แต่อยู่ที่ความเป็นพิษของมัน นั่นเอง ขอบคุณรูปภาพประกอบทั้งหมดจาก freepik.com และ pixabay.com รูปประกอบที่1. pixabay.com/รูปประกอบที่2. pixabay.com/รูปประกอบที่3. freepik.com/รูปประกอบที่4. pixabay.com/รูปประกอบที่5. pixabay.com/รูปประกอบที่6. pixabay.com/