ใครที่กำลังเป็นคุณแม่มือใหม่ในช่วงนี้ ก็ขอแสดงความยินดีกับลูกน้อยที่กำลังจะเกิดขึ้นมาด้วยนะครับ และเป็นที่แน่นอนว่าสิ่งคุณแม่มือใหม่จะต้องเจอ คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกร้อน เหงื่ออกง่าย อ่อนเพลีย ขนาดของหน้าท้องและเต้านมที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายที่กล่าวมานี้ ก็เป็นผลมาจากฮอร์โมนต่างๆภายในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งฮอร์โมนต่างๆจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติเมื่อคุณแม่เข้าสู่ช่วงหลังคลอดนั่นเอง เราจะมาทำความรู้จักกับฮอร์โมนและการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายกันครับ 1. Human chorionic gonadotropin (HCG) ตรวจพบหลังจากการปฏิสนธิประมาณ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยในระยะนี้สามารถตรวจพบระดับฮอร์โมนนี้สูง แล้วจะลดลงเมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป ฮอร์โมนนี้จึงเป็นฮอร์โมนใช้ในการตรวจการตั้งครรภ์ และฮอร์โมนนี้ก็มีผลทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือที่เราเรียกกันว่าอาการแพ้ท้องนั่นเอง เมื่อภายหลัง 3 เดือน อาการแพ้ท้องก็จะลดลงตามระดับฮอร์โมนที่ลดลง2. Estrogen (เอสโตรเจน) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ผลิตขึ้นมาโดยธรรมชาติ ถ้าคุณแม่อยู่ในระยะการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็จะมีปริมาณที่สูขึ้น ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในหญิงตั้งครรภ์ ได้แก่ช่วยในการเจริญเติบโตและการทำงานของมดลูกโดยจะเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อมดลูกทำให้มดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นกระตุ้นในมีการสะสม melanin pigment ทำให้สีผิวเข้มขึ้น เช่น บริเวณใบหน้า ลานนม อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก และบริเวณเส้นกลางลำตัว (linea nigra) เมื่อคุณแม่คลอดบุตร สีผิวที่เข้มขึ้นก็จะจางหายไปกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำนม หัวนม ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีอาการคัดตึงบริเวณเต้านมลดการหลั่งน้ำย่อย HCL และ pepsin ทำให้อาหารไม่ย่อย เกิดอาการคลื่นไส้ จุกเสียดยอดอก3. Progesterone (โปรเจสเตอโรน) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ผลิตขึ้นมาโดยธรรมชาติเช่นเดียวกับเอสโตรเจน มีหน้าที่สำคัญในการมีประจำเดือน โดยในระหว่างการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนนี้จะมีผลกระตุ้นการเจริญเติบโตของเยื่อบุผนังมดลูกเพื่อรองรับการฝังตัวของทารกกระตุ้นการเจริญของต่อมและท่อน้ำนม ทำให้เต้านมคัดตึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้หญิงตั้งครรภ์อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายมีผลต่ออุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้น ทำให้รู้สึกร้อน เหงื่อออกง่ายลดการสร้างและหลั่งน้ำนม4. Prolactin hormone (โปรแลคติน) เป็นฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตลอดการตั้งครรภ์ จะทำหน้าที่เตรียมการสร้างน้ำนมให้กับเซลล์น้ำนมของเต้านม แต่ไม่สามารถออกฤทธิ์ต่อการสร้างน้ำนมได้ เพราะถูกยับยั้งจากโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจน จนกระทั่งในระยะหลังคลอด ปริมาณเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดลงลงฮอร์โมนโปรแลคติน จึงสามารถกระตุ้นการสร้างน้ำนมได้5. Oxytocin (ออกซิโทซิน) เป็นฮอร์โมนที่สำคัญในช่วงระยะการคลอดบุตร มีผลให้มดลูกหดรัดตัว ก่อให้เกิดการเจ็บครรภ์และเร่งคลอด ระดับฮอร์โมนจะสูงสุดขณะเบ่งคลอด และเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการกระตุ้นการหลั่งน้ำนม คุณแม่มือใหญ่นั้น มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงควรดูแลตนเองให้ดี ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอาหาร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย ให้เกิดมาด้วยร่างกายที่แข็งแรงขอบคุณภาพจากภาพปก /ภาพประกอบ ภาพ1/ภาพประกอบ ภาพ2 /ภาพประกอบ ภาพ3