เวลาออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะร้านอาหาร ห้างดังที่คนเดินกันเยอะแยะจนแทบจะชนกัน วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เพราะการเผชิญเข้าสู่วิกฤติไวรัสที่เราทุกคนต่างรู้ดีว่ามันร้ายแรงแค่ไหน แต่สิ่งที่เราว่ามันรุนแรงมากกว่าไวรัสก็คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเราทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ธุรกิจท่องเที่ยวและการเดินทางต่างซบเซา ร้านอาหารที่ไม่มีบริการ Food Delivery ต่างค่อยล้มหายกันไปเพราะปรับตัวไม่ทัน บริษัทต่าง ๆ เริ่มมีการ Laid Off พนักงานเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทไว้ ซึ่งนี้คือสิ่งที่เราที่เราเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก แต่สิ่งที่เราอาจจะยังไม่เคยได้สังเกตกันจริง ๆ คือสภาวะจิตใจของเราที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้ ย่อมส่งผลต่อความเครียดความกดดันอย่างแน่นอนโดยเฉพาะคนที่เป็นพนักงานประจำที่อาจจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าอาจจะต้องได้ออกจากงาน รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ยอดตก แต่มีรายจ่ายบังคับที่ต้องจ่ายกันทุกเดือน วันนี้เรามีเคล็ดลับที่ช่วยจัดการความเครียดในช่วงวิกฤติ Covid-19 มาฝากกันค่ะ ภาพถ่ายโดย Lisa Fotios จาก Pexels 1. เสพข่าวอย่างพอประมาณและมีสติ เคยเป็นกันไหมคะ ที่เวลาเราอยู่กับข่าวมาก ๆ โดยเฉพาะข่าวในแง่ลบ จะทำให้เรารู้สึกหดหู่อย่างไรบอกไม่ถูก แถมไม่พอ ทักษะในการแยกแยะข่าวในจริงข่าวในปลอมของเรามันก็ไม่ทำงานซะด้วย นั้นเพราะในตอนนั้นเรามีภาวะหวาดกลัวและตื่นตระหนก ทำให้เวลาที่เรารับข่าวมาจึงมักจะเชื่อทุกข่าวที่เข้ามาในตอนนั้น ดังนั้นการเสพข่าวที่มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ และไม่เยอะจนเกินไปจะทำให้เราไม่เครียดและตื่นตระหนกกันมากเกินไปด้วยคะ ภาพถ่ายโดย Agung Pandit Wiguna จาก Pexels 2. ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเพื่อนฝูงให้มากขึ้น จะมีเวลาไหนที่ดีไปกว่าการที่เราได้ใช้เวลามาดูแลตัวเองและคนที่เรารักเท่ากับช่วงเวลานี้ แม้หลายคนจะแย้งว่า ภาวะแบบนี้ เราคงไม่มีอารมณ์มาเอ็นจอยหรือมีความสุขเท่าไหร่นัก แต่การเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสดี ๆ มองหาเรื่องที่คุณไม่เคยได้มีเวลาได้ทำเลยในช่วงที่ยังไม่เกิดวิกฤต คุณจะพบว่าเรื่อง ๆ หนึ่งที่คุณอาจจะแทบไม่ค่อยได้ทำเลยรวมทั้งตัวเราเองด้วยคือ การคุยกับเพื่อนและครอบครัวได้มากขึ้นกว่าที่เคย เพราะเราต่างเห็นอกเห็นใจกันในช่วงเวลาแบบนี้ และมันจะทำให้คุณได้รู้ว่า ใครกันคือคนที่จะอยู่กับคุณในช่วงเวลาลำบากแบบนี้ไม่จากไปไหน ภาพถ่ายโดย Humphrey Muleba จาก Pexels 3. คิดไอเดียหารายได้เสริม ในวิกฤตมักจะมีโอกาสเสมอสำหรับคนที่หมั่นสังเกตและเห็นความเปลี่ยนแปลงจนสามารถเกิดเป็นธุรกิจและบริการในการช่วยเหลือผู้คนแบบนี้ แทนทีจะเอาเวลามานั่งวิตกกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ลองใช้เวลาในช่วงนี้คิดถึงไอเดียหารายได้เสริมที่คุณสามารถนำมาเป็นรายได้ให้กับตัวเอง เช่น คุณมีความสามารถด้านงานกราฟิก หรืองานออกแบบ อาจจะขายภาพเพื่อตกแต่งห้อง เพราะคนไม่ออกจากบ้านเมื่ออยู่แต่ห้องก็อยากดูของสวยงาม หรือทำคอร์สออนไลน์สอนคนตกงานที่อยากหารายได้เสริมไหม ซึ่งไอเดียต่าง ๆ เหล่านี้ใช้เพียงความสามารถของคุณเท่านั้น การลงทุนด้วยเงินแทบจะเป็น 0 แทบยังช่วยเหลือคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย Photo by Lesly Juarez on Unsplash 4. พัฒนาตนเอง หาความรู้เพิ่มเติม ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะไปกว่าการเรียนรู้พัฒนาตนเองในช่วงนี้อีกแล้ว ลองคิดดูว่าหากผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปแล้ว ทักษะอะไรบ้างที่องค์กรหรือธุรกิจในอนาคตจะต้องการจากคุณ ดังนั้นก่อนที่จะถึงช่วงเวลานั้น การศึกษาหาความรู้เพื่อเป็นคนที่ “พร้อม” อยู่เสมอ จะทำให้คุณอยู่รอดได้จากภาวะนี้และที่สำคัญช่วยให้คุณไม่เครียดจากเรื่อง Covid-19 อีกด้วย Photo by Anthony Tran on Unsplash 5. นั่งสมาธิหรือ ดูหนัง ฟังเพลงเพื่อผ่อนคลาย เราอยู่กับข่าวและเรื่องภายนอกมากกว่าการอยู่กับตัวเองซะอีก การนั่งสมาธิ อ่านหนังสือหรือดูหนัง ฟังเพลง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราผ่อนคลายจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้ การรับรู้ข่าวและป้องกันตัวเองเป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ดีอยู่แล้วในช่วงเวลาแบบนี้ (เพราะไม่มีใครอยากจะติดเชื้ออยู่แล้ว) แต่การดูแลสุขภาพใจภายในของเราเองก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเช่นเดียวกันค่ะ ลองฟังเสียงลมหายใจ อยู่กับตัวเอง ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ว่าเราได้ละเลยหรือประมาทกับชีวิตอะไรไปหรือเปล่าจึงทำให้เราเครียดแบบนี้ ลองตั้งสติ และหาทางตั้งรับกับปัจจุบันและวางแผนสำหรับอนาคตจะดีกว่าค่ะ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้เคล็ดลับส่วนตัวที่เรานำมาใช้กับตัวเองเพื่อคลายความเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันนะคะ สติและความเข้มแข็งเท่านั้นที่จะนำพาเราให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจจนก้าวผ่านไปได้ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ภาพถ่ายโดย Keenan Constance จาก Pexels