ภาพปกโดย Shiny Diamond จาก pexelsปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการดูแลผิวหน้าถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิง ด้วยสภาวะอากาศ แสงแดด มลภาวะที่เผชิญในแต่ละวันล้วนแล้วแต่มีผลเสียต่อผิวหน้าของเรา ในท้องตลาดจึงมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า (Skin Care) ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการในการดูแลผิวหน้าของแต่ละบุคคล แต่หลายๆ คนคงจะสงสัยใช่ไหมครับว่าแล้วจะเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าอย่างไรให้เหมาะกับตนเองที่สุด เพราะหากเลือกผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดปัญหากับผิวตามมาได้ วันนี้จึงนำเคล็ดลับในการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ามาฝาก ดังนี้ครับ1. เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง มีแนวทางในการเลือกง่ายๆ ดังนี้ผิวแห้ง: ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อเข้มข้น เนื้อครีม มีสารให้ความชุ่มชื้นในปริมาณมาก ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เพราะผู้ที่มีผิวหนังจะมีโอกาสเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าคนอื่น การล้างหน้าควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่แห้งตึงจนเกินไป เพราะจะยิ่งเป็นการทำร้ายผิวให้แย่ไปกว่าเดิมผิวมัน: ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อบางเบา เช่น โลชั่นบางเบา เจล ซีรัม ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Water Base) เนื้อไม่เข้มข้นจนเกินไป ไม่เพิ่มความมันบนใบหน้า เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันเป็นสิวได้ผิวผสม: ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อไม่เข้มข้นและไม่บางเบาจนเกินไป ในบางครั้งอาจต้องแยกเนื้อผลิตภัณฑ์สำหรับทาในแต่ละบริเวณ โดยบริเวณที่มีผิวแห้งให้ทาด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อเข้มข้น ส่วนบริเวณที่มีผิวมันให้ทาด้วยผลิตภัณฑ์ที่เนื้อบางเบาผิวธรรมดา: ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อไม่เข้มข้นและไม่บางเบาจนเกินไป มีสารให้ความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ผิวแพ้ง่าย: ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ สี น้ำหอม สารกันเสียพาราเบน (Paraben) รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดการแพ้ ระคายเคืองลงได้ภาพโดย Nika Akin จาก Pixabay2. อ่านรายละเอียดและส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์การอ่านรายละเอียดของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าจะทำให้เราทราบว่าผลิตภัณฑ์นี้เน้นแก้ปัญหาผิวอย่างไร เช่น เน้นให้ความชุ่มชื้น ช่วยลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้หน้ากระจ่างใจ ไม่อุดตันรูขุมขน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เป็นต้น ซึ่งเราควรเลือกประเภทผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับปัญหาสภาพผิวหน้าของเราส่วนการอ่านส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ก็มีประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยบอกสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันผู้ผลิตเครื่องสำอางจะเขียนรายละเอียดส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์โดยเรียงลำดับตามปริมาณจากมากไปหาน้อย ซึ่งสามารถนำข้อมูลส่วนประกอบต่างๆ ไปศึกษาข้อมูลก่อนได้ว่าสารตัวนี้ช่วยแก้ปัญหาสภาพผิวอย่างไร นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในกรณีที่เราแพ้สารบางชนิด ทำให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี สารกันเสียพาราเบน ก็จะช่วยลดโอกาสการแพ้ ระคายเคืองลงได้ตัวอย่างส่วนประกอบบนบรรจุภัณฑ์ครีมภาพถ่ายโดยนักเขียน3. ไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพงเสมอไปผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าโดยส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบหลักคล้ายๆ กัน เช่น สารให้ความชุ่มชื้น สารช่วยลดการระเหยของน้ำออกจากผิว สารช่วยให้ผิวกระจ่างใส สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพงอาจมีส่วนประกอบอื่นเพิ่มเติมที่แตกต่างออกไป ดังนั้นหากมีงบประมาณจำกัด การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่สูงจนเกินไปถือเป็นทางเลือกที่ดี4. ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กมาลองใช้ก่อนก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใด ควรซื้อขนาดเล็กมาลองใช้ก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง อุดตัน เป็นสิว โดยแนะนำให้ทดลองทาที่ท้องแขน คอ ด้านข้างกราม หลังใบหู และทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ทำติดต่อกัน 2 วัน หากไม่มีอาการแพ้ คัน แดง ระคายเคือง ก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเราสามารถใช้ผลิตภัณฑ์นั้นได้5. ดูวันหมดอายุก่อนซื้อแนะนำให้ดูวันหมดอายุที่ฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ ในกรณีที่ไม่ระบุวันหมดอายุไว้ โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าจะมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ผลิต ทั้งนี้ขึ้นกับส่วนประกอบ ลักษณะบรรจุภัณฑ์ และการเก็บรักษาด้วย เช่น หากเก็บไว้ในที่ร้อนอาจทำให้หมดอายุเร็วกว่าปกติ เป็นต้นตัวอย่างวันเดือนปีที่ผลิต ที่ระบุบนปลายหลอดครีม คือวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ.2019ภาพถ่ายโดยนักเขียนเป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ 5 เคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามนะครับ เพียงเท่านี้ใบหน้าของคุณก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเลยล่ะ