อาชีพข้าราชการ เป็นอาชีพในฝันของผู้คนจำนวนมาก เพราะเป็นอาชีพที่มีเกียรติมีความมั่นคง แต่การก้าวเข้าไปสู่เส้นทางสายนี้จะต้องผ่านหลาย ๆ ด่าน กว่าที่จะผ่านเข้าไปได้ และด่านแรกที่สำคัญที่สุด ก็คือการ สอบ ก.พ. ภาค ก ซึ่งหมายถึง การคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าไปทำงานกับหน่วยราชการ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ) เป็นผู้คัดเลือก ซึ่งผู้ที่สอบนั้น ต้องบอกเลยว่า เป็นการแข่งกับตัวเอง หากว่าสามารถทำคะแนนได้ตามที่ถูกกำหนดไว้ ก็จะสอบผ่าน มีโอกาสกับด่านต่อ ๆ ไป ของคัดเลือกจากหน่วยราชการต่าง ๆสำนักงาน ก.พ. ได้แบ่งการสอบออกเป็นวิชาย่อย 4 วิชาคือ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี ซึ่งวิชาสุดท้ายนั้น เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ ส่วน 3 วิชาแรก เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายถึงมัธยมศึกษาตอนต้น เรียกว่าเราผ่านการสอบกับเนื้อหาแบบนี้กันมาแล้ว แต่เขาออกข้อสอบมาอย่างไร ถึงได้ยากจัง ? สอบ กพ. ภาค ก เท่าที่ติดตามผลการสอบมาในแต่ละปี เห็นเลยว่าสอบผ่านกันน้อยมาก แต่หากว่าเราเข้าใจวิธีการทำข้อสอบอย่างถูกต้อง ก็จะผ่านได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ มีหนังสือ คู่มือการสอบ ก.พ. ออกมาจำหน่ายมากมาย ทั้งยังมีการสอนใน Youtube ด้วย เรียกว่ามีเทคนิคต่าง ๆ มีตัวอย่างข้อสอบมากมายให้ลองทำกัน เพราะฉะนั้นเมื่อเตรียมจะสอบ ก.พ. ก็ตั้งใจให้เต็มที่ และ มาดูกันเลยว่า 5 เทคนิค ที่จะทำให้การสอบ ก.พ. ของคุณผ่านฉลุยมีอะไรบ้าง1. ทำความเข้าใจกับโครงสร้างข้อสอบในภาพรวมวิชาที่สอบมี 4 วิชาคือ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี เมื่อเห็นโจทย์แบบนี้ เชื่อเลยว่าหลายคนจะประเมินในใจกันแล้วว่าอะไรที่ถนัด อะไรที่ไม่ถนัด ข้อนี้เก็บไว้ในใจก่อน และลองศึกษาโครงสร้างของข้อสอบกันก่อนว่าเราต้องสอบอะไรบ้าง โดยศึกษาจากคู่มือการสอบ หรือเรียนรู้จากคลิปใน Youtube ใช้คำค้นว่า สอบก.พ, ติวสอบ ก.พ จะมีให้เลือกมากมาย ก็จะได้รู้ว่าแต่ละวิชาจะต้องสอบอะไรบ้าง เช่น วิชาภาษาไทย ข้อสอบจะสอบเกี่ยวกับ การเรียงประโยค การจับใจความสำคัญของบทความ ฯลฯ วิชาคณิตศาสตร์ ข้อสอบมักจะไม่สอบในหัวข้อที่เป็นสูตรตายตัว เราจะไม่ได้เห็นสูตรวงกลมเพื่อหาคำตอบจากสูตรนั้น แต่จะต้องหาคำตอบจากความเข้าใจ จากความคิดแบบไหนก็ได้ที่เราจะคิดได้ในแบบของรา เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูก หรืออย่าง วิชาภาษาอังกฤษ สิ่งสำคัญคือต้องรู้คำศัพท์ ถ้าแปลคำศัพท์ได้ ก็จะเข้าใจคำถาม เข้าใจตัวเลือกในคำตอบได้ ถ้าเข้าใจสิ่งเหล่านี้ในเบื้องต้นแล้ว การเตรียมตัวจะชัดเจนในแนวทางมากขึ้น2. วิชาภาษาไทย และ วิชาภาษาอังกฤษ อยู่ที่ "ความเข้าใจ"เราไม่ควรจะตีความทันทีที่รู้ว่าจะต้องสอบว่า ภาษาไทยง่ายเพราะเราอ่านภาษาไทยได้ หรือภาษอังกฤษยากเพราะเราไม่เก่ง เพราะทั้ง 2 วิชา มีแยกย่อยหัวข้อในการสอบออกไป เราต้องอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบในส่วนนั้น ๆ วิชาภาษาไทย เป็นวิชาที่เราคาดเดายากมากว่าเนื้อหาที่นำมาออกข้อสอบจะเป็นอะไร เพราะเนื้อหาวิชานี้กว้างมาก แนวข้อสอบที่เห็นบ่อย ๆ คือจะมีบทความมาให้อ่าน แล้วให้จับใจความ เช่น บทความนี้ผู้เขียนมีจุดประสงค์อะไรในการเขียน อ่านแล้วคิดว่าทรรศนะคติของผู้เขียนเป็นอย่างไร อะไรคือใจความสำคัญของบทความ แต่ละบทความที่นำมาเป็นข้อสอบนั้นจะใช้ตอบคำถาม 2-3 ข้อ ซึ่งถ้าเข้าใจในบทความ จะสามารถเก็บคะแนนได้หลายคะแนนจากในส่วนนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องฝึกทำข้อสอบในการจับใจความมาก ๆ เราจะทำความเข้าใจข้อสอบได้เร็วขึ้น ไม่เสียเวลาไปมากเกินไปกับการสอบ วิชานี้จะเน้นในการวิเคราะห์มากกว่าการท่องจำ จึงไม่ยากเกินไป ขยันฝึกทำข้อสอบเก่า ๆ มาก ๆ หน่อยวิชาภาษาอังกฤษ เนื้อหาที่ออกข้อสอบบ่อย ๆ คือ บทสนทนา การอ่าน หลักไวยากรณ์ คำศัพท์ ซึ่งทุกหัวข้อจะไม่ยากเกินไป เพราะใช้ความรู้ระดับพื้นฐาน แต่ประมาทไม่ได้เลย โดยเฉพาะคนที่รู้ตัวว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษ ทันทีที่คิดว่าจะสอบก็เริ่มฝึกเลย อย่ารอเวลาใกล้ ๆ จะสอบแล้วถึงเริ่มอ่าน เริ่มฝึกทำข้อสอบเพราะไม่ทันแน่ ๆ เราต้องอ่านคำศัพท์และจำคำศัพท์คำแปลให้ได้มากที่สุด จำคำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกัน ฝึกทุกวันก็จะจำได้ การฝึกทำข้อสอบจะช่วยได้มาก หัวข้อ บทสนทนา ข้อสอบจะจำลองสถานการณ์ในสถานที่ต่าง ๆ และจะมีหัวข้อสนทนา เราต้องตอบคำถามจากหัวข้อเหล่านี้ บางโจทย์จะเว้นที่วางเพื่อให้เติมคำตอบ ซึ่งภาพรวมก็คือ เราต้องรู้คำศัพท์ รู้คำแปล ต้องท่องจำ เน้นว่าต้อง ท่อง ! ต้อง จำ! 3. คณิตศาสตร์ ต้องฝึกทำโจทย์คณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลาย ๆ คน (รวมทั้งเรา^^) วิชานี้มีความสำคัญมาก เพราะคะแนนจะมีผลต่อการสอบผ่านมากที่สุด มีสัดส่วนข้อสอบในแต่ละเรื่องมากกว่าวิชาอื่น และที่สำคัญคือมีหลักการคิดคำนวณแบบคงที่และตายตัว หัวข้อที่ต้องฝึกทำข้อสอบ อาทิ อนุกรม สัญลักษณะของความสัมพันธ์ของตัวเลข การทำข้อสอบคือต้องหาความสัมพันธ์ของตัวเลขให้พบ ก็จะหาคำตอบได้ ในบรรดาข้อสอบคณิตศาสตร์ทั้งหมดสำหรับเรา "อนุกรม" ง่ายที่สุดแล้ว โอเปอเรชัน เป็นโจทย์ที่ไม่มีหลักการที่ตายตัว เราต้องสังเกตข้อมูลที่โจทย์ให้มา ต้องหาความสัมพันธ์ของตัวเลข ต้องเดาความสัมพันธ์นั้นให้ออก ดังนั้นเราต้องฝึกทำแบบฝึกหัดบ่อย ๆ ตาราง สอบหัวข้อนี้เป็นส่วนที่ทำคะแนนได้ดีสำหรับเรา เพราะตัวเลขในตารางเกี่ยวกับการหาเปอร์เซนต์ หรือ ร้อยละ เกี่ยวกับการหาอัตรส่วน ปัญหาสำหรับการสอบหัวข้อนี้ก็คือตัวเลขเยอะ ทำให้เสียเวลา บางครั้งทำข้อสอบแล้วคำตอบที่เราได้มาไม่ตรงเป๊ะกับคำตอบ เราก็จะเลือกจากคำตอบที่ใกล้เคียงที่สุดนอกจาก 3 หัวข้อโจทย์ที่กล่าวมาก็ยังมีเรื่องของ คณิตศาสตร์พื้นฐาน เช่น ค่าเฉลี่ย เศษส่วน การแก้สมการ ฯลฯ , สดมภ์, เงื่อนไขสัญลักษณ์ = ≠ > <&nbsp; ≥ ≤ ≯ ≮ ต้องฝึกข้อสอบแนวนี้มาก ๆ การทำคุ้นเคยกับโจทย์ในประเภทเดียวกันบ่อย ๆ จะทำให้เรามีความชำนาญมากขึ้น จำหลักการได้แม่นขึ้น4. ข้อสอบ ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี เป็นเรื่องใหม่ต้องศึกษาให้ดีใครที่ได้สอบ ก.พ. ปี 2563 ก็คือการสอบ "ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี" ครั้งแรก เชื่อว่าหลายคนยังเดาทิศทางกันไม่ออก เพราะเป็นเรื่องใหม่ เป็นการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถ สิ่งที่ต้องทำคือต้องอ่านและจำข้อกฏหมายให้ได้ ย้ำเลยว่าเราต้องอ่านเองและจำเอง เพราะการติวไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นทั้งหมดที่เราจะได้ เราอาจจะได้ใจความสำคัญเพื่อเป็นแนวทางเท่านั้น แต่ข้อสอบจะลึกลงไป ว่าแล้วก็โหลดมาอ่านกันเลยค่ะ- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม- พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม- พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพิ่ม- ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 ในส่วนของความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ- พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539- พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 25625. การตัดสินใจระหว่างสอบกว่าที่จะมานั่งอยู่ในห้องสอบ ก็ผ่านความเครียดจากการเตรียมตัวมาแล้ว ดังนั้นการที่เราเข้ามานั่งในห้องสอบแล้ว ควรจะเข้าสอบด้วยความผ่อนคลาย ไม่เครียด แค่บอกกับตัวเองว่าตั้งใจทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว สำหรับเราเวลาที่สอบ เมื่ออ่านโจทย์แล้ว ถ้าคิดว่าจะตอบอะไร เราจะกากบาทไว้ที่คำตอบก่อน ถ้ามั่นใจแบบสุด ๆ ว่าใช่แน่เราจะฝนคำตอบเป็นสีดำทีบทันที ส่วนข้อไหนที่โจทย์ยาวมาก อ่านเข้าใจยากก็จะข้ามไปก่อน แล้วค่อยวนกลับมาทำ ส่วนข้อไหนไม่ได้จริง ๆ ยังไงก็ต้องเดาก็จะคิดหาเหตุผลให้ตัวเองว่าทำไมเราถึงเดาข้อนี้ อย่าเลือกที่จะเดาคำตอบแบบเลือกข้อใดข้อหนึ่งทั้งหมด คำตอบ 5 ข้อ ที่ต้องเลือก คนออกโจทย์ ไม่ออก ก. ไก่ ทุกข้อ หรือ ข. ไข่ทุกข้อแบบติด ๆ กันหรอก ถ้าจะต้องเดาจริง ๆ ก็เลือกกระจาย ๆ กันไป สิ่งหนึ่งที่เราคิดตอนสอบก็คือหากว่าสอบครั้งนี้ไม่ผ่าน เราจะต้องใหม่ในโอกาสต่อไป หากมีเวลาก็อ่านข้อสอบ ข้อที่เราตอบไม่ได้ เพื่อไปหาคำคอบที่ถูกในภายหลัง เราจะได้รู้ว่าเราพลาดอะไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะส่งกระดาษคำตอบต้องดูทุกข้อว่าเราฝนคำตอบหมดแล้วหรือยังสอบ ก.พ. ให้ผ่านในครั้งเดียว เป็นความฝันของทุกคนที่เตรียมตัวสอบ แต่จะเป็นเรื่องที่แค่ง่าย ๆ หรือเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมของตัวเราเอง ความขยันในการฝึกทำข้อสอบ ความขยันในการท่องคำศัพท์...ขอให้โชคดีในการสอบนะคะทุ๊กกกคน ขอบคุณภาพประกอบจากภาพ 1- ฉันท์ชมา ผู้เขียนPixaboy :: 2, 3, 4, 5, 6, 7https://intrend.trueid.net/post/291056บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ - แชร์ 5 เทคนิคทําข้อสอบภาษาอังกฤษ ก.พ. พร้อมตัวอย่างแนวข้อสอบ- แชร์เทคนิคสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนปัง ๆ พร้อมเคล็ดลับวิธีเตรียมตัวสอบ- รีวิวสอบ IELTS Computer-delivered ศูนย์สอบ British Council ฉบับ Onenightmiracle ✨ พร้อมทริคต่าง ๆ ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!