หลายคนคงเคยได้ยินได้ฟังประโยคนี้กันมา (แต่คิดว่าทุกคนนะที่ต้องได้ยิน) “ไม่เลือกงาน ไม่อยากจน” แต่บางทีและหลายต่อหลายครั้ง...งานก็เลือกคนนะจ๊ะ! ใช่แล้วก็เพราะว่างานเลือกคนนั่นเอง เราจึงต้องมีเครื่องมือเด็ด! ไว้ให้งานเลือกเรา ภาษาอังกฤษเป็นคุณลักษณะเด่นอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เสมือนเป็นเจ้าของภาษาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งงานหรือรายได้ ก็จะมีมาไม่ขาดสายเลยทีเดียว แต่ต้องรู้จักเดินไปหาแหล่งรายได้ด้วยนะDesigned by jcomp / Freepik" /> ขอบคุณภาพต้นฉบับจาก Designed by jcomp Freepik ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ทุกคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ใช้กัน ทั้งเป็นภาษาหลักและภาษาที่สองของใครหลาย ๆ คน ไม่แม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนเอง ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างไม่ต้องง้อเจ้าของภาษาเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงอยากจะแชร์วิธีการเรียนภาษาอังกฤษและเทคนิคที่สามารถเรียนได้ด้วยตัวเองแบบฟรี ๆ เพียง 5 ขั้นตอนเท่านั้นมาแชร์ ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ฝึกมาจากสิ่งเหล่านี้แหละค่ะ แต่ต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเองพอสมควร ขั้นแรก คือ การเปิดใจเพราะเป็นสิ่งแรกที่ตัวเราต้องทำ เพราะถ้าหากใจปิดไม่เปิดรับมีอคติต่อสิ่งที่เรากำลังจะเรียนแล้วละก็ คือจบเกมตั้งแต่เริ่มต้นเลยละ... ดังนั้นเราก็ต้องบอกตัวเองก่อนว่า ฉันพูดภาษาอังกฤษได้ เหมือนเป็นการสั่งสมองว่า “เตรียมพร้อมด้วยนะจ๊ะ ฉันจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษแล้ว” พร้อมจินตนาการว่าเรากำลังพูดภาษาอังกฤษอยู่กับเจ้าของภาษาหรือชาวต่างชาติ หรือเหตุการณ์อะไรก็ได้ที่เราคิดว่าฉันจะเป็นแบบนั้นให้ได้ จิตนาการมันต้องชัดเจนมาก ๆ unsplash-logoChang Duong" /> ขอบคุณภาพต้นฉบับจาก Photo by Chang Duong on Unsplash ขั้นที่สอง คือ การฟังหรือการดู เลือกสิ่งที่เราชอบออกมาในรูปแบบของการฟังหรือการดู ไม่ว่าจะเป็นการฟังข่าว ฟังเรื่องเม้าท์มอยหอยสังข์ของแม่บ้าน ใต้เตียงดารา บลา บลา บลา... หรือเป็นหนังซีรีย์ เรื่องสั้นที่เราชอบที่มันเป็นไลฟ์สไตล์ของเรา จงทำมันค่ะ ฟังมันเข้าไปดูมันเข้าไป รู้เรื่องไม่รู้เรื่องก็จงทำมันต่อไปอย่าหยุด (ถ้าใครเคยติดตามลิซ่า Blankpink นะ จะมีประโยคหนึ่งที่น้องบอก “ไม่ต้องสนใจว่าใครจะว่าเราอย่างไร เราสนใจตัวเราว่าเรากำลังทำอะไร และจงทำมันต่อไป” ชอบน้อง ความสามารถมากมายขนาดนี้ แถมคิดดีและบวกมาก ๆ ) ช่วงเวลาที่เราฟังไม่รู้เรื่อง ฟังไม่ทันฟังไม่ออก มันมีมาแน่นอนแต่ใจเราต้องบอกตัวเองไว้เสมอว่า “เดี๋ยวเราจะเข้าใจและฟังรู้เรื่อง” คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง ไปค่ะ ฟังเข้าไป! ดูเข้าไป! (หากคุณชอบดู วิธีการดูมันก็จะดีกว่าการฟัง เพราะเราได้เห็นบริบท อารมณ์ สถานการณ์ของตัวละคร ทำให้เราสามารถเข้าใจได้ว่าประโยคนี้เหมาะใช้กับสถานการณ์แบบไหน แล้วถ้าจะให้ดีควรออกเสียงตามแบบ เป๊ะ ๆ ด้วยจะยิ่งดีมาก ๆ ) ขั้นที่สาม ขั้นตอนนี้จะคล้าย ๆ กับข้อที่สอง แต่เพิ่มเติมมาอีกนิดนึง นั่นก็คือเริ่มอ่านจร้า! อ่านในสิ่งที่เราชอบ ไลฟ์สไตล์ที่เราเป็น ยิ่งตอนนี้มีนักเขียน content จากเว็บไซต์หลายที่หลายสำนักจากต่างประเทศมากมาย ที่มีบทความภาษาอังกฤษให้เราเลือกไปอ่านกัน ให้เข้ากับความสนใจของตัวเรา พอเราไปเจอคำศัพท์ที่เราไม่รู้จัก ธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากรู้และไม่ละความพยายามจะไปหาความหมายของคำศัพท์นั่น ๆ มาอธิบายขยายความให้เข้าใจด้วยตัวเอง ยิ่งด้วยเทคโนโลยีในปี 2020 นี้แล้ว อะไร ๆ ก็ง่ายไปหมด ถ้าหากเราไม่ละความพยายาม เมื่อเราทำแบบนี้บ่อยๆ เป็นประจำสม่ำเสมอ เราก็จะมีคลังคำศัพท์ในสมอง พร้อมเรียกใช้งานอย่างอัตโนมัติได้เลยค่ะ ขั้นที่สี่ เป็นการทำงานระหว่างข้อสามและข้อที่สี่เข้าด้วย เมื่อเรามีคลังคำศัพท์ สมองที่มีหลักการทำงานอันแสน อัจฉริยะก็จะทำการจัดระบบของคำศัพท์ให้ทำงานเข้าด้วยกัน คือจำว่าคำศัพท์คำนี้ออกเสียงแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ สะกดแบบนี้ มีความหมายอย่างนี้นะ คือเหมือนเราได้จำลองสถานการณ์ไว้แล้วและพอเราจะเอามันออกมาใช้ แล้วสามารถใช้ได้จริงใช้ได้เลย (ขั้นตอนนี้ เมื่อเรารู้จักหน้าตาคำศัพท์แล้วเราอ่านไม่ได้ หรือกลัวว่าจะอ่านไม่ออก ควรใช้ Dictionary ออนไลน์ มาช่วยอ่านออกเสียงให้ถูกด้วยนะคะ เพราะเมื่อเราจำอย่างถูกต้อง เราก็จะนำมันออกมาใช้ได้อย่างถูกต้องเหมือนกันค่ะ) ขั้นที่ห้า ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ คืออย่าหยุดทำ อย่ายอมแพ้ ทำต่อไปมีวินัยทำทุกวัน ตั้งเป้าไว้เลยว่าจะเริ่มทำวันไหนตอนไหน กี่นาทีกี่ชั่วโมง ขั้นตอนที่หนึ่งถึงขั้นตอนที่ห้า กำหนดเลยว่าในแต่ละวันใช้กี่นาที ตอนกี่โมง เพราะมันจะช่วยให้เราเดินทางไปถึงฝั่งฝันได้เร็วยิ่งขึ้น อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับระเบียบวินัย ความอดทน มานะ จงบอกตัวเองยามเมื่อท้อ “หลับตานึกถึงภาพนั้น จงอย่าหยุด จงทำมัน ทำมันต่อไป” แล้วเราจะรู้ว่าทำมันได้จริง เมื่อวันนั้นคือวันที่เราฝันเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ในฝันก็จะเหมือนว่าเราพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของเลยค่ะ เหตุการณ์อยู่ในสภาพเป็นภาษาอังกฤษ ขอบคุณภาพต้นฉบับจาก Photo by Kevin Wolf on Unsplash สุดท้ายการเรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีที่กล่าวมาจากข้างต้น จะสำเร็จได้หรือไม่นั่นขึ้นอยู่กับตัวท่านเองล้วน ๆ เพราะว่ามันฟรี จึงไม่ได้มีใครมาคอยควบคุมหรือบังคับว่าต้องให้ทำนะ เหมือนกับที่เราต้องเสียเงินเรียนเอง “อย่าขี้เกียจนะ ต้องอดทนนะ” ตัวท่านเองล้วน ๆ ที่จะทำให้ภาษาอังกฤษที่คุณจินตนาการเอาไว้สำเร็จได้ อย่าท้อ อย่าหยุดฝัน จงทำมัน ทำต่อไป เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ