...สัญญาของผมเป็นสัญญาเสมอ... "สัญญาของผมเป็นสัญญาเสมอ" เป็นคำพูดติดปากของโกโบริ ที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าช่างเป็นประโยคที่แสนสั้น แสนจะเรียบง่าย แต่กลับสามารถทำให้รับรู้ได้ถึงความเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ และความจริงใจที่สะท้อนออกมาให้เราสัมผัสได้ผ่านตัวอักษร จากภายในนวนิยายที่เป็นอมตะอย่างเรื่อง คู่กรรม ซึ่งเป็นผลงานของคุณหญิงวิมล เจียมเจริญ เจ้าของนามปากกา ทมยันตี ที่ได้ถ่ายเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาเป็นผลงานให้เราได้อ่านได้เข้าใจถึงเรื่องราวชีวิต เรื่องราวความรักที่ลึกซึ้งของ อังศุมาลิน หญิงสาวชาวไทยกับนายทหารหนุ่มสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง โกโบริ ที่ได้เดินทางมาประเทศไทยในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักมีอุปสรรคนานับประการไม่ว่าจะเป็นสงคราม สังคม การดำรงชีวิต และหน้าที่ที่พึงต้องกระทำอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตและหัวใจที่มีก็ตามแต่ ซึ่งเมื่อได้อ่านเรื่องคู่กรรมจบทั้ง 2 เล่มเเล้วทำให้เรารู้สึกได้ว่าเราอยากจะแบ่งปันเรื่องราวความรักที่ลึกซึ้งและเเสนเศร้า ชีวิตที่เหมือนจะทุกข์แต่ก็ผสมรวมกับความสุขได้อย่างลงตัว รอยน้ำตาที่ค่อย ๆ เลือนหายไปแต่กลับยังคงได้ด้วยความทรงจำอันแสนล้ำค่า ซึ่งเราจะมาบอกถึง 5 เหตุผลที่คุณควรจะลองอ่านหนังสือเรื่องคู่กรรม ที่สามารถให้ข้อคิดต่าง ๆ มากมายนอกเหนือจากความสนุกของเนื้อเรื่องอย่างแน่นอน1. เสน่ห์ชวนให้หลงรักตัวละครเอกภายในเรื่องอย่าง ''โกโบริ" และ "อังศุมาลิน" ทมยันตี สร้างตัวละครเอกของเรื่องได้มีเสน่ห์มากจริง ๆ โกโบริที่ภายในเรื่องได้ถูกเรียกว่า พ่อดอกมะลิ ซึ่งเป็นดอกไม้สีขาวที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เปรียบดั่งนิสัยของเขาที่มีความเข้มเเข็ง มีความซื่อสัตย์ และมีหัวใจรักมั่นบริสุทธิ์ต่อหญิงสาวชาวไทยที่ชื่ออังศุมาลิน โดยมองข้ามผ่านเชื้อชาติ นอกจากนี้ยังสร้างตัวละครที่ความขัดแย้งในตัวเองสูงอย่างอังศุมาลิน ที่ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ ฮิเดโกะ ซึ่งมีความหมายว่าพระอาทิตย์ ให้เป็นผู้หญิงที่มีความรักในความเป็นไทยรวมทั้งมีอคติกับชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาสร้างความลำบากให้แก่ครอบครัวของเธอและประเทศชาติ นอกจากนี้ยังเป็นเด็กมีปมที่ตั้งแต่ยังเล็ก ต้องเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากพ่อได้หย่าร้างกับแม่ของเธอแล้วไปแต่งานกับหญิงที่มีฐานะทางครอบครัวที่ดีกว่า ทำให้เธอเป็นคนที่ใจเข็ง สู้ชีวิต เชื่อมั่นในตนเอง ไม่ยอมเชื่อใจใครง่าย ๆ แม้กระทั่งในเรื่องความรักที่กว่าจะรู้ใจตนเอง และยอมรับว่ารักโกโบริก็แทบสายเกินไปเสียแล้ว 2. การใช้ภาษาที่มีความสละสลวย ลึกซึ้งกินใจ ถ้าอยากทราบว่าทมยันตีใช้ภาษาในการบรรบายเรื่องราวได้ดีถึงขนาดไหน ก็จะขอนิยามไว้สั้น ๆ เลยว่า "ดีจนน้ำตาร่วง" ซึ่งนำพาให้เราทั้งรัก ทั้งสงสารในชีวิตของคนทั้งคู่ จนสามารถร้องไห้ตามไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ3. วางโครงเรื่องไว้ดีมาก แต่ก็ทำให้เราเศร้ามากเหมือนกัน หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคุณหญิงวิมล เจียมเจริญ ได้เเรงบันดาลในในการแต่งนวนิยายเรื่อง คู่กรรม จากการได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนสุสานนานาชาติ ณ จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ฝังร่างของเหล่าทหารในช่วงสมัยสงครามโลก จากแรงบันดาลที่ใจที่แสนเศร้า สู่ผลงานอันทรงคุณค่าที่จะตราตรึงหัวใจของผู้ที่มีโอกาสได้อ่านไว้อย่างมิรู้ลืม4. ความสามารถในการร้อยเรียงถ้อยคำภายในเรื่องได้อย่างกลมกลืน ซึ่งสอดแทรกไปด้วยความรู้ในช่วงสมัยสงครามโลก วิถีชีวิตของผู้คนที่ผสมผสานเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงและจินตนาการได้อย่างลงตัว จนแทบจะแยกไม่ออก ทำให้เราเผลอคิดไปว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ตัวละครก็มีชีวิตจริง ๆ ไม่ได้ถูกสมมุติขึ้นมา5. ถ้อยคำบางส่วนที่ถูกสอดแทรกไว้ในเรื่อง ได้มีการแฝงความนัยไว้ให้เราได้คิด ขอยกตัวอย่าง เช่น"...ลมหายใจหยุด ไฟมิมีลมเป่า...ดับ...ร่างเย็นชืด น้ำกับดิน แยกจากกัน...เน่า...ทำลาย ใครเคยโกงสิ่งใดจากโลกไปได้บ้าง...?" (คู่กรรม : หน้า 182)หรือคำพูดที่คุณยายเคยสอนอังศุมาลินไว้ว่า "มันก็เหมือนกับเสื้อผ้าเก่าแหละลูก ถอดทิ้งแล้วก็แล้วไป มันก็เท่านั้น เสื้อเก่าขาด หนูทิ้งแล้วไม่เสียดายยังไง สังขารผุ ๆ ทรุดโทรม มันก็เหมือนกัน" (คู่กรรม : หน้า 182)ซึ่งสอนให้เราเข้าใจความเป็นไปของชีวิตมากขึ้น ว่าไม่มีใครหลีกเลี่ยงหนีความตายไปได้ ทุกคนเกิดมาก็มีหน้าที่ที่จะต้องตายในวันใดวันหนึ่งกันทุกคน สิ่งเหล่านี้ถูกสอดแทรกและผสมผสานไว้อย่างลงตัว ความรู้สึกของเราหลังจากอ่านเรื่อง คู่กรรม จนจบเรารู้สึกเศร้ามากและร้องไห้หนักมากเพราะอินไปกับเนื้อเรื่อง แม้จะยังไม่เคยดูภาพยนต์แต่ก็พอจะรู้เรื่องราวคร่าว ๆ มาบ้างว่าเนื้อเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับอะไร รู้ว่าโกโบริจะต้องเสียชีวิต แต่เราก็อยากที่จะลองอ่านสักครั้ง แล้วทมยันตีก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยจริง ๆ เรารู้สึกคุ้มค่ามากที่ได้อ่านจนจบ ทำให้เราได้รับความรู้และเข้าใจในเรื่องบางเรื่องได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แล้วถ้าคุณอยากจะรู้เรื่องราวที่นอกเหนือจากนี้ แล้วอยากที่จะสัมผัสกับเรื่องราวของหนังสือเรื่องคู่กรรมนอกเหนือจากการบอกเล่าเเล้วละก็ อย่าลืมลองอ่านด้วยตัวของคุณเองนะคะ เราว่านวนิยายเรื่องนี่ต้องประทับใจใครหลาย ๆ คนไปอีกนานอย่างแน่นอน