การฝึกภาษาอังกฤษตัวเอง พูดแล้วก็คิดขึ้นมาทันทีว่าฉันจะทำได้หรอ? ทำได้ค่ะ มีหลากหลายวิธีที่เราสามารถฝึกทักษะภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เช่น ทักษะการเขียน การอ่าน การพูด ล้วนแต่สามารถฝึกได้ด้วยตัวเองทั้งสิ้น การเรียนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาแม่ แน่นอนว่ามันไม่ง่ายค่ะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเป็นไปไม่ได้ ปัจจุบันการเรียนภาษาใหม่ ๆ ด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าเราทำได้ค่ะ แต่จะมีวิธีไหนบ้างที่เราสามารถนำไปใช้ได้จริง ไปดูกันเลย 6 วิธี ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่องด้วยตัวเอง 1. ท่องคำศัพท์ที่เจอด้วยการเขียนใส่ Post-it ไม่ว่าจะเป็น Grammar หรือ คำศัพท์ ก็ล้วนต้องใช้วิธีการท่องจำทั้งนั้น และไม่ใช้เพียงภาษาอังกฤษอย่างเดียวเท่านั้น การที่เราจะสามารถพูดภาษาอื่นได้เราต้องมีคลังคำศัพท์และ Grammar ให้เยอะ ๆ ถึงจะสามารถไปถึงขั้นการพูดการเขียน การอ่านได้ค่ะ การท่องจำถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเลย ถึงแม้ว่าบางทีการท่องจำเป็นสิ่งที่ยากและน่าเบื่อ แต่ถ้าอยากพูดได้ต้องอดทน! หยิบ Post-it ขึ้นมาเขียนคำที่เราเพิ่งเคยเห็นและติดไปตามจุดที่เราใช้งานบ่อย เช่น โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องนอน ห้องน้ำ ทุกที่ที่สามารถทำให้เราเห็นและจดจำคำศัพท์เหล่านั้นได้ 2. เขียนบล็อกหรือไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ สามารถนำคำศัพท์ที่เรามี นำไปเขียนลงบล็อกหรือไดอารี่ เช่น เว็บไซต์ สื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ มากมายในปัจจุบัน เช่น Facebook Instagram สามารถเขียนถึงสิ่งที่เราได้พบเจอในแต่ละวันได้เลย วิธีนี้ยังสามารถฝึกทักษะการเขียนของเราได้ฟรีอีกด้วย ซึ่งสามารถเริ่มจากการเขียนแคปชันสั้น ๆ ใต้รูปภาพเป็นภาษาอังกฤษ แล้วค่อย ๆ พัฒนาเป็นการเขียนประโยคยาว ๆ อย่างบทความหรือไดอารี่ วิธีนี้นอกจากได้ฝึกการเขียนแล้ว ยังได้ฝึกการอ่านอีกด้วย เพราะเราจะต้องตรวจสอบว่าสะกดคำถูกไหม หรือจะใช้เครื่องมือในการแปลภาษาต่าง ๆ เช่น พจนานุกรมออนไลน์ในการช่วยก็ยังได้ค่ะ 3. การตั้งค่าโทรศัพท์ Laptop เป็นภาษาอังกฤษ เชื่อว่าทุกคนใช้โทรศัพท์ทุกวันอยู่แล้ว วิธีนี้จะเหมือนการบังคับให้เราต้องใช้ความคิดเมื่อเห็นคำเหล่านั้นว่าแปลว่าอะไร และแน่นอนว่าเราต้องค้นหาคำเหล่านั้นเพื่อให้เข้าใจโดยการแปลความหมาย และสามารถจดใส่ไว้ใน Post-it ของเราเพื่อให้จำได้ขึ้นใจ วิธีนี้ยังช่วยให้ฝึกได้รวดเร็วอีกด้วย เพราะทุก ๆ วันของเรามีการจับโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นบ่อย ๆ การที่เราเห็นคำนั้นผ่านตาบ่อย ๆ ก็จะทำให้เราสามารถจำคำศัพท์เหล่านั้นได้ง่าย เวลาที่เราไปอ่านบทความหรือข่าวสารต่าง ๆ หากเจอคำศัพท์นั้น ๆ จะสามารถนึกออกได้ทันทีว่ามีความหมายว่าอะไรนั้นเองค่ะ 4. ฝึกภาษาอังกฤษโดยอ่านสิ่งที่สนใจ การอ่านเป็นขั้นสำคัญที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาทักษะการเขียนของเราได้ค่ะ ซึ่งถ้าอยากให้อ่านได้นานขึ้น แนะนำว่าให้อ่านในสิ่งที่เราสนใจ หรือมีความชอบในสิ่งเหล่านั้น เช่น ชอบกีฬา ให้อ่าน Magazine กีฬา ในขณะที่การอ่านยังทำให้สามารถเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ได้ และสามารถใช้อุปกรณ์ช่วยแปลได้ตามสะดวกเลยค่ะ หรือจะใช้วิธีการไฮไลต์คำศัพท์ที่เราเพิ่งเคยเห็นลงบนหนังสือหรือสื่อที่เราอ่านก็ถือว่าจะได้คำศัพท์ใหม่มาเก็บไว้ในคลังอีกด้วย ใครที่ชอบอ่านข่าวสารแนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนเป็นการอ่านข่าวภาษาต่างประเทศที่เราสนใจ หรือจะเริ่มด้วยการอ่านคำคมสั้น ๆ ก่อนก็ได้ค่ะ 5. หาพาร์ตเนอร์มาสนทนาด้วย การหาพาร์ตเนอร์มาคุยในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่คนรักชาวต่างชาติ เพื่อนชาวต่างชาติ แต่หมายรวมไปถึง เพื่อนหรือคนในครอบครัว และใครก็ตามที่เราสามารถฝึกภาษาอังกฤษด้วยได้ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีแอปพลิเคชันที่เราสามารถหาเพื่อนชาวต่างชาติมาพูดคุยได้ฟรีอีกด้วย เช่น Omegle และอื่น ๆ ซึ่งการหาพาร์ตเนอร์มาสนทนาด้วยยังเป็นการฝึกในด้านการพูดทำให้ทักษะการพูดของเรามีการพัฒนาไปถึงด้านการแต่งประโยคและ Grammar อีกด้วย แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลในเรื่อง Grammar มากเกินไปเพราะถ้าเราพูดแล้วฝรั่งเข้าใจก็ถือว่าเรามีการพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ต่อมาเราก็สามารถเริ่มฝึก Grammar ให้แน่นขึ้นเพื่อให้ทักษะการพูดของเราสามารถนำไปใช้ในทางอาชีพหรือธุรกิจในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6. ดูการ์ตูน ดูหนัง ฟังเพลง แล้วจับใจความ ในชีวิตประจำวันของเรามีสื่อและสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่เราต้องพบเห็นทุกวัน เช่น เพลง การ์ตูน หนัง ซีรีส์ ละอื่น ๆ เราสามารถดูซีรีส์หรือดูการ์ตูนและพัฒนาทักษะการฟังด้วยการฟังแล้วจับใจความ หรือ การอ่าน subtitles ก็สามารถช่วยพัฒนาทักษะการอ่านได้อีกด้วย นอกจากได้อรรถรสและความสนุกในการดูแล้ว เรายังสามารถลอกเลียนแบบการพูดของเขา ทั้งการออกเสียงที่ถูกต้อง นำมาแก้และปรับใช้ให้ทักษะการพูดของเรามีการพัฒนามากขึ้น แนะนำว่าการดูการ์ตูนก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีเลยค่ะ เพื่อน ๆ สามารถหาการ์ตูนสนุก ๆ ไว้ฝึกภาษาอังกฤษได้ที่นี่เลย 4 ซีรีส์การ์ตูนแอนิเมชัน ไว้ฝึกภาษาให้ปังมากกว่าเดิมhttps://intrend.trueid.net/article/4-%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A1-trueidintrend_260855 การที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ไม่จำเป็นที่จะต้องเก่ง แค่เรามีความมุ่งมั่นและขยันที่จะ อ่าน จด แปล ท่อง แต่งประโยค และฝึก ฝึก ฝึก เราก็เป็นคนนึงที่ชอบภาษามากและฝึกด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งวิธีข้างต้นที่ได้มาแชร์ก็ยังเป็นวิธีที่ใช้ฝึกและเรียนรู้ภาษาด้วยตัวเองจริง ๆ ซึ่งได้ผลในระดับหนึ่งอยู่ที่ความตั้งใจของแต่ละคนเลย การหาพาร์ตเนอร์มาคุยถือว่าช่วยเราได้มากในการฝึกได้ดีเลยค่ะ ก่อนที่จะเริ่มฝึกภาษาอังกฤษเราเริ่มจากการหา Inspiration เพื่อให้เรามีความมุ่งมั่นและอยากเรียนรู้จริงจัง แล้วจึงสามารถเริ่มฝึกไปด้วยความตั้งใจแน่วแน่ว่าฝึกไปทำไม แล้วจึงเริ่มทำไปทีละข้อจนตอนนี้เราสามารถเข้าใจภาษาในระดับที่ดีขึ้นมาแล้ว ซึ่งอยากให้ทุกคนลองตั้งเป้าหมายที่แน่ชัดก่อนแล้วการเรียนภาษาจะไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป การดูการ์ตูนถือว่าเป็นสิ่งที่เรายังทำอยู่เรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะได้ฝึกแล้วยังได้ความสนุกอีกด้วย ลองนำไปปรับใช้กันได้เลยนะคะ ขอบคุณภาพปกจาก :Pixabay โดย libellule789 ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay ภาพที่ 1 : โดย geralt / ภาพที่ 2 : โดย StockSnap / ภาพที่ 3 : โดย LoboStudioHamburgภาพที่ 4 : โดย StockSnap / ภาพที่ 5 : โดย VisionPics / ภาพที่ 6 : โดย mohamed_hassanอัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !