ไหนใครอยากเรียนคณะเภสัชศาสตร์บ้างขอมือหน่อย! โห ยกเต็มเลย ฮ่าๆๆ ไหนๆ ก็อยากเรียนเภสัชแล้วก็มาทำใจ เอ้ย มาฟังกันดีกว่าว่าด่านสุดหินไหนที่คิดว่ากว่าจะจบเภสัชได้ก็ปาดเหงื่อไปครั้งใหญ่เหมือนกัน แต่ก๊อตเชื่อว่าไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ อย่าเพิ่งท้อแท้หรือเครียด ขอให้ข้อมูลนี้เป็นการบอกกล่าวเนิ่นๆ ให้ฮึดสู้ผ่านมันไปให้ได้ต่างหาก เพระทุกคณะก็มีความยากของมันอยู่ แล้ว 6 ด่านสุดหินที่เด็กเภสัชต้องเจอมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!1. การแข่งขันสูง ด่านแรกคือการสอบเข้านั่นเอง ถ้าพูดถึงคณะ top 5 สายการแพทย์ที่สอบเข้ายากที่สุดก็ต้องมีคณะเภสัชศาสตร์เข้าชิงแน่นอน การสอบใช้วิชาพื้นฐานทุกวิชา อาจจะไม่ต้องเก่งวิชาเคมี หรือชีววิทยาขั้นเทพ ขอแค่ไม่เกลียดก็พอแล้ว ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ใช้ตอนสอบ ตอนเรียนเรียนพื้นฐานบ้าง พอปีสูงขึ้นก็ไม่ได้เรียนแล้ว เน้นไปทางการคำนวณเกี่ยวกับยามากกว่า ขอบอกเลยว่าก๊อตเข้าคณะเภสัชได้เพราะวิชาภาษาอังกฤษช่วยด้วยแหละ ฮ่าๆๆ แต่อย่าทิ้งวิชาอื่นๆ จนเกินไปนะ เพราะส่วนใหญ่กำหนดคะแนนขั้นต่ำเหมือนกัน2. เรียนกับอาจารย์ใหญ่ นอกจากบางมหาวิทยาลัยจะให้ผ่ากบแล้ว ทุกมหาวิทยาลัยยังต้องเรียนกับร่างของอาจารย์ใหญ่ในวิชากายวิภาควิทยาด้วย แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะไม่ถึงกับลงมือผ่าเองเหมือนคณะแพทย์ หรือทันตแพทย์ แค่ศึกษาอวัยวะร่างกายที่ผ่านการชำแหละเป็นชิ้นส่วนมาให้แล้ว ใครที่กลัวก็ขอให้อดทน พอผ่านพ้นวิชานี้ไปแล้วก็ไม่เจอแล้วจ้าาา3. สอบบ่อย ถึงแม้จะไม่ได้สอบบ่อยและถี่มากเท่าแพทย์ ทันตแพทย์ แต่ก็ถือว่าต้องอ่านหนังสือ ติวกับเพื่อนบ่อย ๆ เช่นกัน เชื่อว่าถ้าช่วยกันติว อ่านหนังสือบ้างก็ไม่ยากเกินความสามารถหรอกนะ 4. สอบใบประกอบวิชาชีพระหว่างเรียน และช่วงจะจบ อย่างที่รู้กันว่าเภสัชกรเป็นวิชาชีพที่ต้องสอบเอาใบประกอบวิชาชีพ มีทั้งข้อเขียน และข้อปฏิบัติเป็นฐานๆ ครอบคลุมวิชาที่เรียนทั้งหมด สอบ 2 ครั้งคือประมาณปี 3-4 และใกล้จบปี 6 บางมหาวิทยาลัยสอบที่คณะตัวเอง มีอาจารย์คณะเป็นผู้ให้คะแนนอาจไม่เกร็งมาก แต่บางที่ต้องไปสอบศูนย์สอบอื่น แต่ไม่ต้องห่วงเพราะถ้าติวกับเพื่อน อ่านหนังสือจัดการเวลาดีๆ มีสติเวลาสอบ รับรองผ่านฉลุยแน่นอน ใครกลัวตกก็มีสอบซ่อม ไม่ต้องกังวลจ้าาา5. ฝึกงานสุดโหด เด็กเภสัชจำเป็นต้องฝึกงานเพื่อเก็บชั่วโมงตามที่สภาเภสัชกรรมกำหนด 2 ครั้ง กินเวลาหลายผลัด หลายเดือน สายโรงงานอาจฝึกงานไม่ยากเท่าสายโรงพยาบาล มีทั้งฝึกงานบังคับ เช่น ฝึกโรงพยาบาล ร้านยา และผลัดเลือกแล้วแต่มหาวิทยาลัย บางมหาวิทยาลัยใช้วิธีจับฉลากเลือกแหล่งฝึกถ้าที่ไหนคนเลือกมากเกินโควต้า แนะนำว่าถามรีวิวจากรุ่นพี่ดีๆ ถ้าเลือกที่ฝึกงานเข้มข้น หรือเข้มงวดมากๆ ร่างกายจะอดหลับอดนอนไม่ไหวเอาได้นะ ตอนฝึกงานสนุกตรงที่เราจะได้เจอเพื่อนต่างมหาวิทยาลัย แถมได้ฝึกคล้ายทำงานจริง และได้ใช้ชีวิตต่างจังหวัดอีกด้วย บางมหาวิทยาลัยมีโครงการให้ฝึกงานในต่างประเทศด้วยนะ น่าสนใจใช่ไหมล่ะ6. ทำงานวิจัยก่อนจบ ใครเกลียดการเขียนงานวิจัยก่อนจบขอบอกเลยว่าหนีไม่พ้น กว่าจะออกมาเป็นรูปเล่มต้องผ่านการีวิวงานวิจัยหลายสิบชิ้น รวมถึงใช้เวลาในการเก็บข้อมูล มาลงข้อมูลในโปรแกรมวิเคราะห์ ใครที่ไม่ชอบอาจเลือกงานวิจัยที่เก็บง่ายๆ วิเคราะห์ง่ายๆ ส่วนใหญ่จะมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยช่วยแนะนำ รับฟังงานวิจัยเราตลอด ไม่ต้องห่วง อีกอย่างยังได้จับคู่กับเพื่อนในคณะทำด้วยนะ ช่วยๆ กันทำทีละนิดรับรองผ่านแน่นอนจ้า ถึงคณะเภสัชศาสตร์จะเป็นคณะที่ใช้ความจำเยอะ และมีกิจกรรมให้ทำอีกมาก แต่ถือเป็นคณะที่สนุกคณะหนึ่ง ไม่ได้เรียนหนักมากเท่าแพทย์แต่จบมาก็มีคุณค่าในตัววิชาชีพไม่ต่างจากคณะสายสุขภาพอื่นๆ และเชื่อว่าไม่ยากเกินความสามารถของน้องที่สนใจแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้ และสมหวังในคณะนี้นะครับ สวัสดีครับ เครดิตภาพภาพประกอบทั้งหมดจาก Pexels ดังนี้ภาพปก โดย Edward Jennerภาพประกอบ ภาพที่ 1 โดย Pixabay, ภาพที่ 2 โดย cottonbro, ภาพที่ 3 โดย Andy Barbour, ภาพที่ 4 โดย RF._.studio, ภาพที่ 5 โดย EVG Kowalievska, ภาพที่ 6 โดย Zen Chung อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !