เชื่อว่าทุก ๆ คนล้วนอยากออกกำลังกายเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ่นที่ตัวเองใฝ่ฝันหรือจุดมุ่งหมายที่เราตั้งเป้าเอาไว้ แต่เมื่อเริ่มออกกำลังกายแล้วไม่ได้ผลที่เร็วอย่างที่คิด อาการท้อแท้และหมดกำลังใจก็เริ่มตามมา บางคนเจอหนทางเพื่อจะไปต่อแต่บางคนก็เลือกที่จะยอมแพ้ มาดูเคล็ดลับเหล่านี้แล้วคุณจะไม่หยุดออกกำลังกายกลางทางแน่นอน credit: https://pixabay.com/photos/weight-lifting-fitness-gym-1284616/ 1. การออกกำลังกายต้องมาพร้อมกับความสุข ไม่แปลกเลยที่คนเราจะเริ่มรู้สึกท้อกับสิ่งที่ตัวเองทำหากมันไม่ทำให้เรามีความสุข การออกกำลังกายก็เช่นกัน คุณต้องหาการออกกำลังกายที่คุณทำแล้วคุณรู้สึกสนุกไปกับมัน คนเรานั้นมีความชอบแตกต่างกัน ไม่ว่าคุณคิดจะเล่นเวท วิ่ง กระโดดเชือก หรือว่ายน้ำ การออกกำลังกายมีหลายวิธีให้คุณเลือกสรร อย่ากำหนดว่าการออกกำลังกายต้องเข้าฟิตเนสเท่านั้น ถ้าคุณคิดจริงจังกับการออกกำลังกายจริง ๆ นั้น แม้แต่อยู่ที่บ้านคุณก็ยังทำได้ หาสิ่งที่คิดว่าใช่สำหรับคุณมากที่สุด เพราะคุณจะทำมันได้นาน และไม่รู้จักเหนื่อยเลย 2. สร้างความท้าทาย คุณเคยเผชิญกับความท้าทาย ที่ทำให้เราอยากก้าวข้ามมันไปให้ได้ไหม ตอนนั้นคุณรู้สึกอย่างไร และคุณก้าวข้ามมันมาได้อย่างไร ความท้าทายนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เราพัฒนาศักยภาพ และรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ดังนั้นทุกครั้งที่คุณออกกำลังกายคุณต้องสร้างความท้าทายขึ้นมาเรื่อย ๆ เพื่อทำให้มันไม่น่าเบื่ออย่างเช่น ถ้าหากคุณชอบวิ่ง คุณควรบอกกับตัวเองว่า สัปดาห์นี้ฉันจะวิ่งได้วันละ 5 กม. และสัปดาห์หน้าเพิ่มเป็นวันละ 6 กม. เพิ่มความยากขึ้นมาในแต่ละสัปดาห์ เพื่อที่คุณจะได้รู้สึกมั่นใจกับความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างความท้าทายนี้ก็เหมือนกับการตั้งเป้าหมายเพื่อให้คุณมีแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายนั้นเอง 3. การเข้าใจว่าการออกกำลังกายไม่ได้เห็นผลทันที คุณต้องเข้าใจว่าการออกกำลังกายต้องใช้เวลาสักระยะนึงจึงจะเห็นผล ความสม่ำเสมอและวินัยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เชื่อเถอะว่าในช่วงแรก ๆ คุณอาจจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ถ้าคุณทำไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว การออกกำลังกายจะเป็นผลดีต่อร่างกายของเราแน่นอนอยู่แล้ว คิดซะว่าดีกว่าหยุดออกกำลังกายเพราะ จะไม่ทำให้ร่างกายของคุณดีขึ้นอย่างแน่นอน Credits: https://pixabay.com/photos/bodybuilder-weight-training-stress-646482/ 4. ตั้งเป้าหมาย การมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการออกกำลังกายจะช่วยให้เรารู้ทิศทาง และมีแรงบันดาลใจมากขึ้น คุณต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณออกกำลังกายไปเพื่ออะไร ลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรง สุขภาพ หรือเพียงอยากโชว์ซิกแพ็กให้คนอื่นเห็น ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายแบบไหน มันสามารถช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจได้ทั้งสิ้น ถ้าหากคุณยังไม่มีเป้าหมายละก็ ลองหาไอดอลสักคนนึงสิ เพื่อจะทำให้เป้าหมายของคุณชัดเจนขึ้น 5. จัดเวลาให้เหมาะสม คุณควรจะวางแผนในแต่ละวันว่าวันหนึ่งคุณจะทำอะไรบ้าง เพราะแต่ละคนมีเวลาว่างไม่เท่ากัน และการออกกำลังกายในวันนึงคุณควรใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที เพื่อการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ ลองวางแผนว่าในหนึ่งอาทิตย์คุณว่างกี่วันอาจจะเพียงอาทิตย์ละ 1-2 วัน วันละ 30 นาทีหรือ ถ้าคุณคิดว่า 30 นาทีมันนานไปก็แบ่งออกเป็น 15 นาทีสองเวลาก็ได้เช่นกัน ขอเพียงให้คุณยังมีการออกกำลังกายในแต่ละสัปดาห์ ในระยะยาวคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน!! 6. หาเพื่อนออกกำลังกายสักคน หากคุณคิดว่าการออกกำลังกายคนเดียวนั้นมันช่างน่าเบื่อ และไม่สนุกเอาซะเลย คุณควรจะหาเพื่อนสักคนนึง ที่ชอบออกกำลังกายเหมือนกันมาเป็นแรงบันดาลใจ การมีเพื่อนออกกำลังกายถือว่าเป็นวิธีที่ดีมากทีเดียว เพราะคุณจะรู้สึกว่ามีคนคอยช่วยเหลือแถมมีเพื่อนคุยอีกด้วย! อีกทั้งจะทำให้ความขี้เกียจหายไปและออกกำลังกายได้นานขึ้น Credits: httpspixabay.comphotosweights-lifting-power-male-gym-664766 การออกกำลังกายนั้นมีแต่ข้อดีต่อสุขภาพของเราทั้งนั้นยิ่งเราทำมันได้นานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย เราอยากให้ทุกคนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี หวังว่าวิธีทั้งหมดนี้จะช่วยให้ทุก ๆ คนมีกำลังใจในการออกกำลังกายมากขึ้นนะครับ