ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นภาพการรณรงค์เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนกันมามากมายผ่านสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต หรือโซเชียลมีเดีย ซึ่งทุกสื่อล้วนมีจุดประสงค์เป็นไปทางเดียวกัน คือ สร้างความตระหนักให้เกิดแก่ประชากรโลกทั่วทุกคนว่า ปัจจุบันโลกของเรากำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นมาก เห็นได้ชัดจากภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงและสร้างความเสียหาอย่ามหาศาลในทุกพื้นที่ของโลก รวมถึงฤดูกาลและปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลกที่กำลังเข้าขั้นวิกฤติ ถึงแม้ว่าการแก้ปัญหาและลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนนั้น จะไม่สามารถสำเร็จได้ภายในวันสองวันและไม่สามารถทำได้โดยกำลังคนเพียงหยิบมือเดียวหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เราในฐานะหนึ่งในประชากรของโลก เพียงแค่เราลองปรับทัศนคติที่มีต่อปัญหานี้ และต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ แล้วลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างเพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยปกป้องโลกของเราได้มากแล้ว สิ่งเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันที่เราเปลี่ยนได้เพื่อโลก มีดังนี้ 1. พกแก้วน้ำส่วนตัว ที่มา : https://www.pexels.com หากคุณเป็นหนึ่งคนที่จะต้องซื้อเครื่องดื่มหรือกาแฟทุกวันอยู่แล้ว ลองเปลี่ยนมาใช้แก้วของเราเองที่สามารถใช้ซ้ำได้ก็จะดีไม่น้อย อาจจะเป็นแก้วที่ทำจากสแตนเลส พลาสติกแข็ง หรือซิลิโคนก็ได้ เพราะการดื่มกาแฟเพียงหนึ่งแก้วของเรา จะสร้างขยะให้กับโลกนี้อย่างน้อย ๆ ก็ 4 - 5 ชิ้นต่อแก้ว (แก้ว หลอด ฝาครอบ หูหิ้ว ทิชชู่ ) สำหรับกาแฟที่เราดื่มมันเพียงแค่ไม่ถึง 20 นาที แต่กลับสร้างขยะไว้บนโลกถึงห้าชิ้นและใช้เวลาย่อยสลายเป็นเวลาหลายร้อยปี (ชนิดที่ว่าแม้เราตายไปแล้วแต่แก้วกาแฟของเรานั้นยังคงอยู่) ยิ่งถ้าเราดื่มทุกวัน ดื่มกันแทบทุกคน แทบไม่ต้องเดาเลยว่าจะมีปริมาณขยะที่มาจากแก้วกาแฟของเรา เพิ่มขึ้นบนโลกมากเพียงใดในทุก ๆ ปี ปัจจุบันมีการผลิตและจำหน่ายแก้วน้ำสำหรับพกพาและใช้ซ้ำได้ออกมากันเป็นจำนวนมาก มาพร้อมกับลวดลายที่สวยงามให้ได้เลือกใช้ตามแต่รสนิยมของแต่ละบุคคล นับว่าเป็นหนึ่งเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมไม่น้อยสำหรับคนยุคนี้ การพกแก้วน้ำส่วนตัวนอกจากจะช่วยลดการเกิดขยะพลาสติกแล้ว บางร้านยังมีส่วนลดให้กับลูกค้าที่นำแก้วมาเองอีกด้วย นับว่าได้ประโยชน์สองต่อเลยทีเดียว หากใครยังไม่เคยใช้แก้วส่วนตัวในการซื้อเครื่องดื่มเลย ขอแนะนำว่าควรเริ่มต้นและลองดูสักครั้ง เพราะการได้เป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องโลกนั้นจะทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาอีกหนึ่งขั้น จากสิ่งเล็ก ๆ ที่คุณทำในทุก ๆ วัน 2. ใช้บริการขนส่งสาธารณะ ที่มา : https://pixabay.com ข้อดีของการขับรถส่วนตัวไปทำงานทุกเช้า คงจะเป็นการที่ไม่ต้องรอหรือต้องแออัดยัดเยียดกับผู้คนที่มาใช้บริการรถเมล์หรือรถไฟฟ้า แต่เมื่อมองถึงความแตกต่างด้านต้นทุนที่แท้จริง จะเห็นได้ชัดเลยว่า เราต้องจ่ายทั้งต้นทุนด้านเวลาที่ต้องเสียไปกับการติดแหงกอยู่บนท้องถนนวันละเฉลี่ย 1-2 ชั่วโมง หรือจะเป็นต้นทุนที่เป็นตัวเงิน ทั้งที่มองเห็นและที่แอบแฝงอยู่ ซึ่งคุณต้องจ่ายนับตั้งแต่ถอยเราออกจากประตูบ้าน ค่าน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่หยุด ค่าบำรุงรักษา ค่าประกันอุบัติเหตุและอื่น ๆ ที่สำคัญคือต้นทุนทางสิ่งแวดล้อม เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงและปล่อยออกมาทางท่อไอเสียรถ เป็นตัวการหลักที่ก่อให้เกิดปรากฏการเรือนกระจก ส่งผลให้โลกของเราร้อนขึ้นทุกวัน และยังปัญหาฝุ่นควันในอากาศที่เป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ หากคุณเริ่มเล็งเห็นถึงต้นทุนที่แตกต่างแล้ว อาจจะลองเปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะดูบ้าง ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เห็นโลกในมุมใหม่ ๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากขึ้นและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องและฟื้นฟูโลกใบนี้ 3. ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ที่มา : https://pixabay.com มาถึงข้อนี้หลายคนคงนึกสงสัยแล้วว่า การบริโภคเนื้อสัตว์ของเรา ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนได้ด้วยหรือ? ความจริงแล้วเราสามารถบริโภคเนื้อสัตว์โดยไม่ส่งผลต่อโลกได้ หากเนื้อสัตว์นั้นมาจากแหล่งผลิตตามธรรมชาติที่ไม่ใช่จากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ เพราะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อุตสาหกรรมปศุสัตว์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในทุกภูมิภาคของโลก จากความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่มากขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมประเภทนี้มีความต้องการใช้พื้นที่จำนวนมากในการเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ จากผลการสำรวจพื้นที่การเกษตรทั่วโลกพบว่า เป็นการใช้พื้นที่สำหรับปลูกพืชเพื่อผลิตอาหารสัตว์ถึง 80% อาทิเช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี เป็นต้น มีการบุกรุกพื้นที่ป่าและเผาป่ามากขึ้นเพื่อทำการเกษตรลักษณะนี้ ดังเช่นกรณีไฟป่าที่ทำลายพื้นที่ป่าอเมซอนไปอย่างมหาศาล ที่เป็นข่าวสะเทือนใจคนทั้งโลกเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้เนื้อสัตว์ที่ได้จากฟาร์ม ยังต้องนำมาผ่านกระบวนการแปรรูปในโรงงานอุตสาหกรรมอีกหลายขั้นตอน เกิดการเผาพลาญพลังงานและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ได้อาหารสำเร็จรูปที่เรารับประทานในทุก ๆ วัน การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอัตราการบุกรุกพื้นที่ป่าและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย ในยุคที่เทรนด์รักสุขภาพเองก็มาแรงไม่แพ้เทรนด์รักษ์โลก คงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถรักษ์โลก รักสุขภาพและ ประหยัดเงินในกระเป๋าได้ในคราวเดียวกัน 4. พกถุงผ้า ที่มา : https://www.pexels.com กระแสการรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกนั้นมีมานานพอสมควรแล้ว บางคนบางกลุ่มก็ยึดปฏิบัติกันอย่างจริงจัง แต่สำหรับบางคนอาจจะยังไม่เห็นความสำคัญเท่าที่ควร อาจจะเห็นเป็นเรื่องที่ลำบากเกินไปที่จะพกถุงผ้าไปไหนมาไหน แทนที่จะรับถุงพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อได้เลย แต่ในทางปฏิบัติจริงๆแล้วสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เช่น คุณอาจจะมีถุงผ้าที่สามารถม้วนเก็บไว้ในซอกของกระเป๋าที่ใช้เป็นประจำหรือเก็บไว้ในที่เก็บของในรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์และหยิบมันออกมาใช้เมื่อจำเป็น ปัจจุบันมีการผลิตกระเป๋าผ้าที่มีดีไซน์และลวดลายที่สวยงาม ทันสมัยให้ได้เลือกซื้อกันตามชอบ ทำให้การมีส่วนร่วมลดโลกร้อนนั้นไม่ตกยุคตกเทรนด์อีกต่อไป ทั้งราคาถูก จุของได้เยอะและลดการใช่ถุงพลาสติกได้ด้วย 5. พกกล่องหรือปิ่นโตสำหรับใส่อาหาร หากจำเป็นจะต้องทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ ถ้าพอจะมีพื้นที่ว่างในกระเป๋าหรือในรถ คงจะดีไม่น้อยเมื่อเราต้องสั่งอาหารกลับบ้านหรือไปทานที่ทำงาน แล้วเรามีกล่องหรือปิ่นโตของเราเองให้ทางร้านใส่อาหารให้ หรือแม้แต่อาหารที่ทานเหลือ แทนที่จะขอถุงพลาสติกหรือกล่องโฟมจากทางร้าน เปลี่ยนมากล่องหรือปิ่นโตของเราเอง จะช่วยลดขยะที่เป็นพลาสติกและโฟมได้เป็นจำนวนมากทีเดียว 6. ปลูกต้นไม้ในบ้าน ที่มา : https://pixabay.com มีพืชหลายชนิดที่สามารถนำมาปลูกในบ้าน หรือแม้แต่ในห้องนอนได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และพืชเหล่านี้สามารถฟอกอากาศและดูดซับสารพิษภายในบ้านให้สดชื่น โดยไม่จำต้องเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศด้วยซ้ำ อากาศที่ปนเปื้อนสารพิษหรือฝุ่นควันนั้นมีอยู่ทุกที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งในบ้านของคุณ เช่น สารเคลือบที่มากับเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ล้วนแล้วแต่เป็นสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากได้รับสารนั้นเป็นเวลานาน แต่มีพืชหลายชนิดที่มีสรรพคุณช่วยดูดซับสารพิษและทำให้บ้านของคุณสดชื่นมีชีวิตชีวาขึ้นได้ เช่น เศรษฐีเรือนใน หรือ Spider Plant ซึ่งองค์การนาซาได้ทำการวิจัยแล้วว่า สามารถดูดซับสารพิษในอากาศ เช่น สารฟอร์มาดีไฮด์ ที่มากับวัสดุก่อสร้างหรือเครื่องใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งทางเดินหายใจได้ถึง 90% หรือจะเป็น ต้นเดหลี ต้นตีนตุ๊กแกฝรั่ง ว่านหางจระเข้ เป็นต้น พืชเหล่านี้นอกจากจะช่วยเรื่องฟอกอากาศและดูดซับสารพิษแล้ว ยังให้ความสดชื่น สวยเก๋และมีสไตล์ให้กับมุมต่าง ๆ ในบ้านให้คุณ หากมองว่าการลดภาวะโลกร้อนนั้นเป็นปัญหาระดับโลก ซึ่งดูจะเป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกำลังของคนธรรมดาอย่างเรา ๆ แต่ถ้าลองมองในสเกลที่เล็กลงมา คุณอาจพบว่าแท้จริงแล้วปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราทุกคนและมันมีวิธีที่จะช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพียงเล็กน้อย แล้วคุณจะค้นพบว่า สิ่งเล็กน้อยที่คุณทำ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้มากเพียงใด