วันนี้ตื่นมาตอนตี 5 คิดว่าออกมาเดินเล่นสักหน่อย เพราะตอนนั้นทุกคนยังหลับอยู่ น่าจะเงียบดี แต่งตัวเสร็จแล้ว เก็บกระเป๋าแล้ว ก็ออกไปเดินข้างนอก บรรยากาศเงียบมาก เพราะไม่มีใครเดินอยู่เลย มีแต่เสียงสัตว์รอบๆโรงแรม แมลงบ้าง นกบ้าง แมวบ้าง (ใช่ ที่นี่ก็มีแมวเหมือนกัน) พอออกมาเดินสักพักก็กลับเข้าห้องไปเพราะว่าอากาศหนาว แล้วก็นึกถึงเพื่อนคนเดินที่ผมคุยก่อนมาตุรกีเนี่ย เขาบอกว่าอากาศคล้ายๆตอนที่ไปออกซฟอร์ดเมื่อปีที่แล้ว (อากาศสบายๆ 19-21 องศา มีลมนิดหน่อย) แล้วตัดภาพมาที่ผมตอนนี้ - Heat tech 1 ตัว - T-shirt 1 ตัว - Columbia jacket 1 ตัว - ถุงมือหนา 1 คู่ - หมวกไหมพรม - กางเกงขายาว - ถุงเท้า ทั้งหมดนั่นคือที่ใส่วันนั้น แล้วผมก็คิดว่า “เพื่อน อันนี้คือไม่หนาวเนอะ 555555” (เมื่อวันก่อนได้คุยกับเขา เขาก็บอกว่าที่เขาไปเที่ยวก็ไม่ค่อยหนาวนะ แค่ -10 องศาเอง ผมแบบ “เราไปสวิสลบแค่ 3 ยังจะแข็งตายละ เพื่อนไม่หนาวเลยเหรอ 55555”) หลังทานอาหารเช้าเสร็จ ก็มารอรถบัสที่ล็อบบี้ ผมก็ไปเดินเล่นตรงร้านขายของฝาก เห็นว่าแม็กเน็ตขายอันละ 2 ผมก็คิดว่า “เห้ย 2 ลิร่าเอง (~12 บาท) ทำไมถูกกว่าร้านข้างนอกอีกอ่ะ” พอดูไปดูมา ถึงได้เห็นว่าเขาขาย 2 แต่ว่าไม่ใช่ 2 ลิร่า.... 2 ยูโร... -_- (แล้วคือป้ายที่ติดไว้นี่ตัวหนังสือก็บางจัง เกือบหยิบมาสัก 4-5 อันละ) ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว แล้วก็นั่งรถไปที่ปามุคคาเล่ ระหว่างนั่งไป สองข้างทางก็เห็นบอลลูนลอยอยู่บนฟ้า ผมก็มองแล้วคิดในใจว่า “ใจเย็นๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้ขึ้นแล้ว” ถึงปามุคคาเล่แล้ว ไกด์เราก็ปล่อยให้พวกเราเดินรอบๆ เอาเท้าแช่บ่อน้ำพุร้อน แล้วก็ชมวิวรอบๆ มองไปด้านล่างก็เห็นเมือง มองไปด้านบนก็เห็นบอลลูน รอบๆ ก็บรรยากาศเงียบสงบ คือตรงที่ไปนั่งตอนนั้นมันไม่มีคนเลย อยากนั่งเอาเท้าแช่น้ำไปทั้งวันมาก ;-; หลังจากนั้นก็ตีรถยาวไปถึงเมืองคอนย่า (คอนย่านะ ไม่ใช่เคนย่า 555555) เพื่อที่จะไปพิพิธภัณฑ์ที่สมัยก่อนเป็นมัสยิด แล้วเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียน (หรือไม่ก็อีกทางนึงนี่แหละ ไม่แน่ใจ 555) แล้วตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ข้างในผมจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง จำได้แค่ว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งที่ใหญ่ประมาณตัวผม เดินรอบๆ ไปสักพัก ก็ได้เวลาขึ้นรถบัสต่อ แต่ระหว่างเดินไปที่รถบัส ก็เจอร้านขายของฝาก อารมณ์พวกแม็กเน็ต สร้อยคอ พวงกุญแจ ผมก็ดูของไปเล่นๆ แล้วอยู่ดีๆ ก็ได้ยินคนพูดว่า “สร้อยอันละ 3 ลิร่า, 2 อัน 5 ลิร่า” ผมก็งงแล้วนึกว่าใครสักคนในกลุ่มผมเขาพูด พอเงยหน้าขึ้นมาถึงรู้ว่า คนขายชาวตุรกีนี่แหละ ที่เป็นคนพูด แล้วพูดสำเนียงชัดด้วยนะ ผมก็งงไปแปปนึง แล้วก็ดูของต่อ ดูไปประมาณ 2 นาทีแล้วก็ตัดสินใจได้ว่า “เอาแม็กเน็ตสัก 4-5 อันละกัน ราคาก็ไม่ได้แพง (3 อัน 5 ลิร่า)” ผมก็ถามเขาว่า “4 อัน 5 ลิร่าได้ไหม” เขาบอกว่าไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เขาก็เอาแม็กเน็ต 3 อันใส่ให้ผม แต่ก่อนผมไป เขาก็บอกให้รอก่อน แล้วก็เขี่ยแม็กเน็ตอันที่ 4 ลงถุงผม แล้วก็บอกว่า “OK” ผมก็แบบ “อ่ะๆ โอเค ได้อันที่ 4 มาแบบงงๆ 5555” แล้วก็นั่งรถไปอีกหลายชั่วโมง เพื่อที่จะไปเมืองคาปปาโดเคีย เข้าพักที่โรงแรม MDC Cave hotel จากที่ไกด์ผมบอก ทุกๆ ห้องของโรงแรมนี้จะหน้าตาต่างกัน เพราะเขาสลักห้องจากภูเขาที่ตั้งอยู่ก่อนหน้านี้ ที่นี้ปัญหาเล็กๆของผมคือ ตรงที่เป็นโต๊ะให้นั่งจะมีซุ้มประตู (เขาเรียกแบบนั้นเปล่านะ...) แล้วคือซุ้มมันเตี้ย ผมเดินไปทีก็ต้องก้ม ไม่แค่นั้น ตรงที่เป็นพื้นต่างระดับนั้น เพดานก็ดันสูงแค่เลยหัวผม อันนั้นยังไม่เท่าไร แต่ว่าโรงแรมเขาติดแอร์ไว้ตรงเพดานนั้น ฉะนั้นเวลาผมเดินในนั้น หัวผมก็จะไปโขกแอร์ (แอร์เขาไม่พังก็โชคดีละ 55555) พอจัดกระเป๋าเสร็จแล้ว ก็รีบอาบน้ำแล้วนอน เพราะพรุ่งนี้ถ้าจะขึ้นบอลลูน จะต้องพร้อมที่หน้าโรงแรมตอนตี 4:45 “งานนี้ขึ้นไปขนาดนั้น มีหนาวแน่... เอาหลายๆชั้นไปละกัน” ผมคิดระหว่างจัดกระเป๋า