..." สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน หลายครั้งที่เรารู้สึกโกรธเรามักจะแสดงกิริยาอาการที่ไม่น่ารักออกมา ซึ่งถ้าหากเรากลับมาคิดทบทวนทีหลังแล้วก็จะทำให้เราคิดได้ว่าเราไม่น่าทำกิริยาแบบนั้นลงไปเลย ทั้งนี้สาเหตุของอารมณ์โกรธอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบุคคลและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความโกรธสามารถเกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจ, ไม่สบายใจหรือถูกทำร้ายในทางใดทางหนึ่ง โดยมักจะเกิดจากความผิดหวัง, การรบกวน, หรือขาดความเข้าใจในสถานการณ์บางอย่าง เป็นต้น ดังนั้นการเข้าใจและจัดการกับอารมณ์โกรธเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัวนะคะ การฝึกจัดการกับอารมณ์โกรธจึงเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราพัฒนาตนเองเป็นคนที่เก่งขึ้นที่สามารถจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ ซึ่งเราคิดว่ามันยากแต่ถ้าเรามีเทคนิคดีๆเราก็สามารถทำได้นะคะ "...1. สังเกตพฤติกรรม..." การสังเกตพฤติกรรมจะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับรู้และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราได้ รวมถึงความรู้สึก ความคิด และสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมต่างๆ ให้เรารับรู้ถึงอารมณ์โกรธของเราและรู้สึกต่อมันโดยตรงเมื่อมีความโกธรเกิดขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยการสังเกตและทำความเข้าใจถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตัวเรา เช่น คิดเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดความโกรธนั้นๆโดยลองถามตัวเองว่าเพราะเหตุใดเราจึงรู้สึกแบบนี้บ่อยๆ, ท่าทีไหนเรามักจะโกรธ, อารมณ์อะไรที่เป็นที่มาของความโกรธนั้น, ความโกรธของเราเกิดขึ้นที่ใดบ่อยที่สุด หรือความโกรธนี้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างไร ดังนั้นการสังเกตพฤติกรรมของตนเองจึงมีประโยชน์มากๆนะคะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยจัดการกับอารมณ์โกธรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นน๊าลองไปฝึกกันดูค่ะ "...2. การทำสมาธิ..." ในขณะที่เราโกธรแน่นอนเลยว่าใจเราจะเต้นเร็วกว่าปกติและรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างเร็วไปหมดไม่ว่าจะเป็นความคิด การพูด กิริยาท่าทาง และการกระทำต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นวิธีนี้ช่วยได้จริงๆนะคะ โดยให้เราหายใจลึกๆ ช้าๆ นั่งหรือยืนในท่าที่สบาย โปร่ง หรือนอนลงเพื่อผ่อนคลายและให้เราโฟกัสไปที่การหายใจ พยายามห้ามคิดเรื่องที่ทำให้โกรธเด็ดขาด ด้วยการวางมือบนท้อง หรือวางมือทาบหน้าอกโดยไม่ให้มือเคลื่อนไหว จากนั้นหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ นับถอยหลังจาก 1 ถึง 4 ทั้งนี้หากเราอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้เราโกรธก็ให้เราเดินออกมาจากสถานการณ์เหล่านั้นไปเลย และหาที่เงียบๆเพื่อทำให้ใจเราสงบขึ้น ดังนั้นการทำสมาธิจะทำให้จิตนิ่ง และใจเย็นขึ้น ช่วยลดความตึงเครียดและช่วยควบคุมอารมณ์ให้ดี เราลองทำเป็นประจำนะคะเพื่อพัฒนาการจัดการกับอารมณ์โกรธของเราค่ะ "...3. ให้ความสนใจเรื่องอื่น..." เมื่อเราโกรธในสมองเราก็จะคิดแต่เรื่องราวเหล่านั้นและเรื่องราวในทางลบซึ่งจะคอยกระตุ้นให้เราใจร้อนทำให้เรารีบคิดรีบตัดสินใจและกระทำการต่างๆลงไปโดยไม่คิดไตร่ตรองก่อน ดังนั้นการให้ความสนใจในเรื่องอื่นในขณะที่เราโกธรก็เพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้เราสนใจในเรื่องที่ทำให้โกธรมากจนเกินไป การให้ความสนใจเรื่องอื่นในขณะที่เราโกรธจะทำให้ลืมความโกธรเหล่านั้นลงได้พร้อมทั้งช่วยเปลี่ยนความรู้สึกเราได้เช่นเดียวกัน หากเรารู้สึกโกธรก็ให้เราลองสนใจเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นนะคะ ยกตัวอย่างเช่น เวลาผู้เขียนรู้สึกโกรธรผู้เขียนก็จะเปิดดูวาไรตี้ตลก ดูซีรี่ย์ หรือดูรอยยิ้มศิลปินที่เราชื่นชอบ หรือคนที่เราเคารพ คนที่เรารัก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ช่วยเยียวยาจิตใจที่กำลังโกรธรของเราได้นะคะ "...4. ออกกำลังกาย..." การออกกำลังกายสามารถช่วยลดความเครียดและความเกร็งที่มาพร้อมกับอารมณ์โกรธได้ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้เราผ่อนคลายจิตใจ ดังนั้นให้เราลองทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน เช่น วิ่งหรือเดินเร็ว นอกจากนี้การเล่นกีฬาหรือการทำโยคะก็เป็นวิธีที่ดีในการควบคุมอารมณ์และเสริมสร้างความสบายใจให้เราได้เช่นกันค่ะนอกจากจะช่วยพัฒนาจิตใจไม่ให้โกธรไม่ให้เครียดแล้วยังช่วยทำให้สุขภาพร่ากายแข็งแรงอีกด้วย "...5. การพูดคุย..." การพูดคุยกับคนที่ไว้วางใจก็เป็นทางเลือกอีกทางนะคะที่ช่วยให้เราไม่ตกอยู่ในอารมณ์โกธรนั้น เพราะคนที่เราไว้ใจเวลาคุยด้วยแล้วเราจะรู้สึกสบายใจ มีการเปิดใจสอบถามเพื่อให้เข้าใจถึงที่มาของอารมณ์ คนเหล่านั้นจะรับรู้ถึงควารู้สึกของเรา เขาสนใจเราและเขาอาจจะช่วยเหลือเราได้ เขาจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการโต้เถียงที่ไม่จำเป็น และจะคอยเปิดโอกาสให้เราพูดออกมาเพื่อเข้าใจมุมมองของเราได้ดีขึ้น ซึ่งบุคคลเหล่านั้นอาจจะเป็นพ่อแม่, พี่น้อง, ญาติ, คนรัก,เพื่อนรู้ใจ, คนที่เราเคารพนับถือ, คนที่เรารัก หรือผู้ที่มีประสบการณ์มีความรู้และเชี่ยวชาญ เป็นต้น "...6. การคิดบวก..." การคิดบวกนี้จะช่วยให้เราเปลี่ยนมุมมองทางความคิดได้ดีขึ้น พยายามมองมุมมองอื่นๆ และเข้าใจสาเหตุของอารมณ์โกรธ เพื่อลดความเครียดลงได้ ดังนั้นการคิดบวกจะทำให้เราคิดอย่างมีเหตุผล คิดในด้านดีมากกว่าด้านลบ สามารถมองเห็นโอกาสในปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เข้าใจในความแตกต่างมากยิ่งขึ้น หาวิธีแก้ไขปัญหาได้ดี ไม่ใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา ยกตัวอย่างเหตุการณ์เช่น เรากับพื่อนทะเลาะกันเรื่องความคิดที่ต่างกัน หากเรามองว่าความชอบหรือความคิดของแต่ละคนที่ต่างกันล้วนเกิดจากเหตุและผลส่วนตัว, นิสัย, บุคลิก และการศึกษา เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนก็เจอประสบการณ์ทั้งดีทั้งร้ายแตกต่างกัน จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราได้รู้จักนิสัยใจคอของเพื่อนมากยิ่งขึ้น เข้าใจความคิดของเพื่อน และอาจเป็นสิ่งที่ช่วยตัดสินใจในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีต่อไปในอนาคตได้หรือจะพยายามไม่ให้มีเหตุการณ์ทะเลาะเกิดขึ้นอีกหากเราเห็นสมควร "...7. หากิจกรรมที่ชอบทำ..." ให้เราทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น การฟังเพลง, อ่านหนังสือ, ดูหนังเพื่อผ่อนคลาย, ดูซีรี่ย์น่ารักโรแมนติก, ดูวาไรตี้เกมส์โชว์, ดูตลก, เต้นประกอบเพลง, เล่นกับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เราลืมความโกรธได้ และทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ร่าเริง มีความสุขเพราะได้ทำในกิจกรรมที่ชื่นชอบและสนุกสนานไปกับมันจนลืมเรื่องราวที่ทำให้โกธรได้ดีเลยทีเดียว "......" เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ การควบคุมความโกรธมีผลดีทั้งต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายของเรานะคะ ช่วยลดความเครียดและความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าได้ หากเรามีการจัดการความโกธรได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะช่วยให้เราคิดได้อย่างชัดเจนและวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติ ทั้งนี้หากเรามีปัญหาทางอารมณ์และจมอยู่กับความโกธรอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์รอบข้างได้ ซึ่งการที่เรารู้วิธีควบคุมจะช่วยให้เราได้พัฒนาทักษะการปรับตัว ทำให้เราสามารถเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายได้อย่างมีสติสัมปชัญญะนะคะ สุดท้ายนี้ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย พบกันใหม่ในบทความหน้าสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ "... เครดิต1. ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดโดย Masukaza (เจ้าของบทความ)2. ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดออกแบบโดย Canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !