อาการอ่อนเพลียเกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว เนื่องจากในชีวิตประจำวันเรามีการใช้ร่างกายอย่างหนักเพื่อทำกิจวัตรประจำวัน ส่วนมากหลายคนมักคิดว่าอาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้น แค่นอนพักให้เพียงพอ อาการดังกล่าวจะหายไป แต่มีอาการอ่อนเพลียอยู่ชนิดหนึ่งที่ไม่ว่าจะทำการพักผ่อนหรือนอนมากขนาดไหนก็ไม่ดีขึ้น ซึ่งอาการที่ว่าคืออาการอ่อนเพลียชนิดเรื้อรัง อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง หรือ Chronic fatigue syndrome (CFS) คือ กลุ่มอาการอิดโรยเรื้อรังนานกว่า 6 เดือน นอนพักเท่าไหร่ก็ไม่หายอ่อนเพลียสักที อาการอ่อนเพลียเรือรังเกิดจากความผิดปกติจากระบบกลไกของร่างกาย ซึ่งยังไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจน ทำให้มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนแรง และอาการอื่น ๆ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าใครมีอาการแบบนี้ไม่หายสักที่วันนี้เรามีวิธีแก้อาการดังกล่าวมากฝากกัน 1.งดเติมน้ำตาล การที่ร่างกายได้รับน้ำตาลหรือของหวาน เพราะความหวานจะส่งผลให้ร่างกายมีกระบวนเผาพลาญพลังงานต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับร่างกาย ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายทำงานน้อยลงจึงควรงดอาหารประเภทน้ำตาลให้น้อยลง เครดิต ภาพโดย silviarita จาก Pixabay 2.งดอาหารก่อนนอน ก่อนเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมงไม่ควรทานอาหารโดยเฉพาะอาหารหนัก ๆ รวมทั้งดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสมอยู่เข้าไป เพราะสุราและคาเฟอีนจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของสมองทำให้หลับยาก ส่งผลให้ร่างกายนอนหลับไม่สนิท ร่างกายจึงรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น เครดิต ภาพโดย Daniel Friesenecker จาก Pixabay 3.ทำสมาธิ การนั่งสมาธิจะทำให้จิตใจรู้สึกสงบไม่ฟุ้งซ่าน ซึ่งการทำสมาธิสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การนั่งสมาธิ การสวดมนต์ การฟังเพลง เป็นต้น โดยการทำสมาธิสามารถทำได้ในช่วงเวลาก่อนนอนจะทำให้การนอนหลับเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพมากขึ้น 4.ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขหรือสารเอนโดรฟินออกมาส่งผลให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมีความสุข นอกจากนั้นการออกกำลังกายยังเป็นการกระตุ้นระบบการทำงานของร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ร่างกายจึงมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา เครดิต ภาพโดย StockSnap จาก Pixabay 5.หลีกเลี่ยงความเครียด ความเครียดนับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียได้ทั้งกายและใจ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงความเครียดในชีวิตประจำวันให้น้อยที่สุด หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ให้ทำการลดความสนใจกับเครื่องที่ก่อให้เกิดความเครียดให้น้อยที่สุด เพราะการมีความเครียดจะทำให้นอนหลับไม่สนิท เพราะมีเรื่องกังวลใจ 6.กินอาหารให้ครบทุกสี อาหารที่กินในชีวิตประจำวันมีส่วนที่จะช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้ดี โดยเฉพาะอาหารประเภทผักและผลไม้ เพราะอาหารในกลุ่มนี้จะมีส่วนประกอบของกรดอะมิโน เกลือแร่และแร่ธาตุที่ช่วยให้กระตุ้นการทำงานของร่างกายให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นในการเลือกกินอาหารควรเน้นการกินผักและผลไม้เป็นหลัก และควรกินให้ครบทุกสี เช่น สีเขียว สีขาว สีแดง สีเหลือง สีม่วง เป็นต้น เพราะว่าสีของอาหารมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกัน การกินอาหารให้ครบทุกสีจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบทุกด้านนั่นเอง เครดิต ภาพโดย congerdesign จาก Pixabay 7.นอนอย่างมีคุณภาพ การนอนที่ดีจะต้องมีคุณภาพถึงจะทำให้ร่างกายหายจากการอ่อนเพลียเรื้อรังได้ ซึ่งการนอนอย่างมีคุณภาพจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คือ นอนในห้องที่มืดสนิท นอนก่อนสี่ทุ่ม นอนในห้องที่มีระบบระบายอากาศที่ดี นอนบนที่นอนที่ไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป โดยการนอนที่มีคุณภาพจะทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารที่เข้ามาช่วยในการซ่อมแซมร่างกายได้ดีขึ้น ส่งผลให้เมื่อตื่นขึ้นมาร่างกายรู้สึกสดชื่น อาการอ่อนเพลียชนิดเรื้อรังสามารถรักษาให้หายได้ ด้วยการดูแลตนเองอย่างใกล้ชิด ดังนั้นหากท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีอาการอ่อนเพลียชนิดเรื้อรังเกิดขึ้นแล้ว ให้ทำตามเทคนิคข้างต้น รับรองว่าอาการอ่อนเพลียของท่านจะหายปลิดทิ้ง