เชื่อว่าหลายคนอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต อยากจะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ก็มีหลายอย่างหลายเหตุผลที่ฉุดรั้งคุณไว้ไม่ให้ไปไหน ที่ทำให้ชีวิตคุณย้ำอยู่กับที่นั้น แต่ในบทความนี้ได้คัดเหตุผลที่สำคัญ ๆ ในชีวิตประจำวันของเรามารวบรวมไว้ด้วยกันอยู่ประมาณ 7 ข้อด้วยกันคือ 1. การผลัดวันประกันพรุ่งขอบคุณภาพประกอบโดย fancycrave1 จาก Pixabay เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวค่อยทำ ค่อยทำวันหลัง ความคิดแบบนี้ ก่อให้เกิดการผลัดวันประกันพรุ่ง เมื่อคิดแบบนี้ ก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรสักที โดยลึกๆแล้วการผลัดวันประกันพรุ่ง มันก็มีสาเหตุอยู่ไม่กี่อย่าง อาจจะเพราะว่าขี้เกียจ เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการทำงาน วิธีแก้คือพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ หรือกลัวการลงมือทำเพราะรู้สึกว่ามันยาก วิธีแก้ก็คือ ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ 2. ใช้เวลาได้ไม่คุ้มค่าขอบคุณภาพประกอบโดย obpia30 จาก Pixabay คนเราในแต่ละวันมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ทำไมบางคนประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่ทำไมบางคนถึงย้ำอยู่กับที่ สาเหตุนึงก็เพราะว่า คนที่สำเร็จเขาใช้เวลาอย่างคุ้มค่า อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องต่อความสำเร็จในหน้าที่การงานของพวกเขา พวกเขาจะปฏิเสธไป ส่วนคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ มักจะใช้เวลาอย่างไร้สาระ ใช้เวลาไปกับอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตตัวเองนั้นดีขึ้น หรือที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตตัวเองนั้นรวยขึ้น คุณอยากจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ หรืออยากที่จะย่ำอยู่กับที่ ลองคิดดูเอาเอง 3. สนใจคนอื่นมากเกินไปขอบคุณภาพประกอบโดย billy cedeno จาก Pixabay สิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณยังย่ำอยู่กับที่อยู่ คือ คุณสนใจคนอื่นมากเกินไป คุณแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไป คุณกลัวว่าคนอื่นเขาจะคิดอย่างไรกับคุณ กลัวว่าคนอื่นจะด่าอะไรคุณ แต่คุณไม่กลัวบ้างเหรอ ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ มันกำลังทำให้คุณย่ำอยู่กับที่ คำว่าคนอื่น ให้เข้าใจแบบง่าย ๆ คือ คนที่ไม่ได้มีความสำคัญกับคุณโดยตรง ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ถ้าทำแล้วมันทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น กิจการงานของคุณดีขึ้นก็ทำไปเถอะ ไม่ต้องแคร์อะไรทั้งนั้น เอาเป็นว่า ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ได้เป็นการโกงกินผู้อื่นก็เป็นพอ 4. คบเพื่อนที่ทำให้ชีวิตคุณแย่ขอบคุณภาพประกอบโดย Barbora Franzová จาก Pixabay เพื่อนมีหลายรูปแบบ เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนตาย เพื่อนแท้ คุณสามารถเลือกคบเพื่อนแบบไหนได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเพื่อนของคุณชักนำหายนะมาสู่ตัวคุณ ไม่ได้มีส่วนช่วยในการที่จะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นคอยป้อนข้อมูลที่ไม่ดี หรือทัศนคติลบ ๆ ให้แก่คุณ คุณควรที่จะเลิกคบเพื่อนแบบนั้นออกไปจากชีวิต ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จ เพราะเพื่อนหาใหม่ได้เสมอ เพียงแค่สร้างความสัมพันธ์ พูดคุยคุยในเรื่องที่ดี ๆ หรือเรื่องที่คุณและเขากำลังสนใจอยู่ และพบเจอกับเขาบ่อย ๆ เพียงเท่านี้คุณก็ได้เพื่อนใหม่แล้ว 5. มีเป้าหมายที่มากเกินไปขอบคุณภาพประกอบโดย 15299 จาก Pixabay การที่คุณเป็นคนที่มีเป้าหมายนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่พอถึงจุดนึง จุดที่คุณมีเป้าหมายมากเกินไป มันจะทำให้คุณรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี พอมีมาก ๆ เข้า ปัญหาที่จะตามมาคุณก็จะรู้สึกขี้เกียจบวกกับการผลัดวันประกันพรุ่งเหนื่อยแล้ว มันก็เลยทำให้คุณย่ำอยู่กับที่ ฉะนั้นเมื่อมีเป้าหมายแล้ว ควรโฟกัสไปทีละประเด็น อย่าโฟกัสมากเกินไป แล้วปัญหามันจะค่อย ๆ คลี่คลายลง 6. เรียนรู้เยอะเกินไปขอบคุณภาพประกอบโดย Eli Digital Creative จาก Pixabay ข้อนี้ก็คล้าย ๆ กับข้อที่แล้ว ความรู้เป็นสิ่งที่ดี เราควรจะศึกษาหาความรู้เอาไว้มาก ๆ นั้นมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ความรู้นั้น ก็ควรที่จะเอาไปใช้ได้จริงทั้งในปัจจุบันและอนาคต ถ้าความรู้ที่เรารู้นั้น ไม่สามารถเอาไปใช้อะไรได้เลย มันจะเข้าสำนวนสุภาษิตที่ว่า “ความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด” ได้นะ เพราะการที่เรารู้มากนั้น มันจะทำให้เรารู้สึกสับสนวุ่นวาย วิธีแก้คือ ตัดความรู้ที่ไม่จำเป็นออกไป ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้น เมื่อรู้มากแล้วก็ควรคัดแยกและเรียบเรียงลำดับความรู้ ว่าจะเอาความรู้ในส่วนไหนไปใช้ก่อนดี หรือจะเอาความรู้ด้านไหนไปใช้ทีหลัง 7. ทำผิดแล้ว ไม่ยอมรับผิดขอบคุณภาพประกอบโดย Gerd Altmann จาก Pixabay ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะเป็นเจ้านายหรือลูกน้อง เมื่อทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด จะมีคนจดจำคุณในด้านที่แย่ ๆ เสมอ ถ้าคุณเป็นพนักงาน คุณก็จะไม่ได้รับงานใหญ่ ๆ โอกาสและความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของคุณ ก็จะไม่มี ถ้าคุณเป็นเจ้านาย เจ้าของกิจการ ก็จะไม่มีใครอยู่กับคุณได้นาน มันจะมีผลเสียที่เห็นชัดเจนอยู่สองข้อคือ ข้อแรกคุณจะต้องเสียเวลาเทรนพนักงานใหม่อยู่บ่อย ๆ ข้อสองคุณจะไม่มีใครที่สามารถไว้วางใจให้ทำงานสำคัญ ๆ ได้และคุณจะต้องเสียเวลาทำเองทุกครั้งไปและทั้งหมดนี้ก็เป็น 7 เหตุผล ที่ทำให้ชีวิตคุณ ย้ำอยู่กับที่ เป็นอย่างไรกันบ้าง ติดขัดในข้อไหนอยู่ก็ไปแก้ข้อนั้นก่อน และที่สำคัญปัญหามันแก้ไม่อยากถ้าเราเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็แก้ไขไปทีละประเด็น อย่าโฟกัสมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อย และนิสัยผลัดวันประกันพรุ่งจะเข้าครอบงำคุณ ฉะนั้นเมื่อรับรู้ถึงปัญหาแล้ว จงรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้ชีวิตคุณย้ำอยู่กับที่ ขอบคุณภาพประกอบหน้าปกโดย Gerd Altmann จาก Pixabay