8 วิธี ออกกำลังกายสลายไขมัน การออกกำลังกายเพื่อการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพนั้น สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งเน้นไปที่การผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (cardiovascular) และการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ นั่นก็คือการเสริมความแข็งแรงของหัวใจและปอดให้สามารถนำออกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น ไม่รอช้ามาดูเคล็ด(ไม่)ลับเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าเดิม เสริมสร้างร่างกายให้ห่างไกลจากโรคไปพร้อมๆกัน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ แค่เริ่มแล้วเพิ่มตารางกิจวัตรประจำวันของคุณได้ตามความเหมาะสม ดังนี้1.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ (Consult a healthcare professional) : ก่อนเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกายใหม่ๆ จำเป็นต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีปัญหาหรือข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นการตรวจความพร้อมของร่างกายเพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ จะได้เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดยังไงละครับ2.กำหนดเป้าหมายที่เป็นจริง (Set realistic goals): กำหนดเป้าหมายการลดไขมันของคุณและตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงนั้น จำไว้ว่าการลดน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมักจะอยู่ที่ 2-3 วันต่อสัปดาห์ อย่าหักโหมเกินไปนะ เดี๋ยวร่างกายรับไม่ไหว จะเกิดอาการบาดเจ็บเอาง่ายๆ3.การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardiovascular exercises) : มีส่วนร่วมช่วยในการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจการเผาผลาญแคลอรี่ และช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ -วิ่งหรือจ๊อกกิ้ง (Running or jogging): ออกไปข้างนอกหรือการวิ่งบนลู่วิ่งก็จะทำให้เลือดสูบฉีดได้เป็นอย่างดี -ขี่จักรยาน (Cycling): ไปขี่จักรยานกลางแจ้งหรือใช้จักรยานอยู่กับที่ก็ได้ -ว่ายน้ำ (Swimming): เพลิดเพลินกับการออกกำลังกายทั่วร่างกายที่มีแรงกระแทกต่ำในสระ - การออกกำลังกายสลับความหนักเบา (High-intensity interval training (HIIT) ): เป็นการออกกำลังกายแบบสลับผ่อนหนักผ่อนเบาในช่วงเวลาสั้นๆ (เช่น ท่ากระโดดตบ ท่าเบอร์พี) เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นในช่วงเวลาสั้นๆ4.การฝึกความแข็งแรง (Strength training) : การสร้างกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น ควรมีการฝึกความแข็งแรงของร่างกายอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ มาดูกันว่ามีท่าอะไรบ้างที่จะทำให้ประสิทธิภาพมากที่สุด - ท่า Squats: กำหนดเป้าหมายร่างกายส่วนล่างของคุณ squats บริหารกล้ามเนื้อต้นขา เอ็นร้อยหวาย และบั้นท้าย -ท่าลันจ์ Lunges: บริหารขาและบั้นท้ายให้แข็งแรงด้วยการทำท่าลันจ์ไปข้างหน้าหรือย้อนกลับ - ท่าวิดพื้น (Push-ups) : บริหารหน้าอกและไหล่ของคุณโดยการวิดพื้นบนพื้นหรือพิงกำแพง - ท่าแพลงก์ (Planks) : บริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวด้วยการค้างท่า Plank เป็นระยะเวลาหนึ่ง - การยกน้ำหนัก (Weightlifting): เพื่อกำหนดกลุ่มกล้ามเนื้อที่เฉพาะเจาะจง5.สม่ำเสมอ (Stay consistent): ความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการเผาผลาญไขมัน เราควรที่จะตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบแอโรบิกหรือแบบหนักปานกลางต้องให้ได้อย่างน้อย 150 นาที หรือจะออกกำลังกายแบบออกแรงหนัก 75 นาทีต่อสัปดาห์ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแกร่ง6.ควบคุมอาหาร (Monitor your diet): การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะเผาผลาญไขมัน เราควรใส่ใจกับอาหาร โดยเน้นไปที่อาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ควบคุมปริมาณอาหาร และเพิ่มปริมาณแคลอรีที่ขาดไป รวมถึงการออกกำลังกายให้เข้ากับสารอาหารที่รับในแต่ละวันเพื่อให้เกิดความสมดุลและเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 7.ดื่มน้ำให้เพียงพอ (Stay hydrated): การดื่มน้ำมากๆ ตลอดทั้งวันนอกจากจะช่วยให้ร่ายกายสดชื่นแล้ว ยังช่วยสนับสนุนให้กับกิจกรรมการออกกำลังกายในแต่ละวันของเรามีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีผลต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย 8.พักผ่อนให้เพียงพอ (Get enough rest): ให้ร่างกายของคุณฟื้นตัวและซ่อมแซมโดยการนอนหลับให้เพียงพอและรวมวันพักผ่อนเข้ากับตารางการออกกำลังกายของคุณด้วย สิ่งนี้ช่วยป้องกันการบาดเจ็บและส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีโดยรวม เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายที่ผ่านการรับรองจะเป็นประโยชน์เสมอ ซึ่งสามารถแนะนำเราเกี่ยวกับรูปแบบที่เหมาะสมและปรับแต่งโปรแกรมการออกกำลังกายให้ตรงตามความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของคุณได้เป็นอย่างดีภาพประกอบทั้งหมด : https://pixabay.com/ภาพหน้าปก : pixabay โดย StockSnapภาพประกอบ1 : pixabay โดย TotalShapeภาพประกอบ2 : pixabay โดย voltamaxภาพประกอบ3 : pixabay โดย irinakeinanenภาพประกอบ4 : pixabay โดย Pexelsภาพประกอบ5 : pixabay โดย StockSnapภาพประกอบ6 : pixabay โดย luottoni17 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !