ความรู้สึกของคนเรานั้นเอาอะไรมาตัดสินคงไม่ได้ บางคนก็แสดงออกมา บางคนก็ไม่แสดงอะไรออกมาเลย ความซับซ้อนนี้ บางคราวก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน อารมณ์คนก็มีจังหวะ และท่วงทำนองไม่ต่างไปจากเสียงเพลง บางครั้งหัวใจกำลังล่องลอย พอได้เห็นสายฝนพรำ ก็สั่นไหวเอาได้ง่าย ๆ บางครั้งขับรถไปมองสายฝนพร่างพรมลงบนกระจก หัวใจก็เตลิดไปถึงไหน ๆ ได้เหมือนกัน แล้วเสียงฝนกับเสียงของบทเพลงบางเพลง มันก็ช่างเข้ากันได้อย่างดีซะด้วยสิ พอได้ฟัง ภาพต่าง ๆ ก็หล่นเข้ามาในจินตนาการ ภาพความสุข ภาพความเศร้า ภาพบางคน วนมาฉายซ้ำ ๆ จนเราเองก็ไม่รู้ว่าที่เปียกหน้านั้น เป็นน้ำฝน หรือน้ำตา ยิ่งเข้าหน้าฝนด้วยแล้ว บรรยากาศขรึม ๆ อึน ๆ กับบทเพลงในความทรงจำก็ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง ขยับเข้ามาฟัง 8 เพลงรัก หัวใจหล่น ในวันฝนพรำ ให้ซึ้ง ๆ ด้วยกันเลยดีกว่า1. Rain คลิกฟังเพลง ♫เพราะสายฝนเปรียบดั่งความรักของเธอ Madonna เจ้าของฉายา Queen of POP ที่ร้องเพลงไหนก็โด่งดังฉุดไม่อยู่ และช่วงเวลาหน้าฝนแบบนี้ก็ทำให้คิดถึงเพลง Rain ที่แม้จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังฟังได้ตลอด เนื้อเพลงเพราะ ภาษาสวย "Rain, feel it on my finger tips, Hear it on my window pane, Your love's coming down like, Rain, wash away my sorrow, Take away my pain, Your love's coming down like rain" ความรักของเธอหล่นพรมพลิ้วพรายดั่งสายฝน และล้างความโศกเศร้า ทำให้ความเจ็บปวดของฉันหมดไป เธอบอกลาฉันในวันฝนโปรยแล้วให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาเมื่อท้องฟ้าแจ่มใส เมื่อพายุฝนผ่านพ้นไปแล้ว ฉันจึงเฝ้ารอคอยการกลับมาของเธอเหมือนการรอคอยแสงสว่าง รอดวงตะวันที่โผล่พ้นขอบฟ้าในอีกเช้า2. Have you ever seen the rain? คลิกฟังเพลง ♫เพลงสุดฮิตของ CCR หรือ Credence Clearwater Revival ในปี 1970 ดังต่อเนื่องจนถึงปี 1971 หรือในบ้านเราก็ปี 2513 นับไปนับมาก็ 50 ปีแล้ว ถึงแม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงความไพเราะและทันสมัย เนื้อเพลงเปรียบ Rain เป็นเหมือนปัญหา เวลาเรากำลังมีความสุขกับฟ้าใส แดดจ้า ล้อมวงเฮฮากันอยู่ ปรากฏว่าฝนตกมาซะงั้น เหมือนท้องฟ้าจะสงบก่อนที่จะมีพายุ เหมือนในเพลงบอกไว้ "Someone told me long ago, there's a calm before the storm, I know, It's over, so they say, It'll rain a sunny day, I know, Shinning down like water" เนื้อเพลงโดยรวม ๆ พูดถึงการใช้ชีวิตที่ผ่านเรื่องราว ปัญหาอุปสรรค และนำเอาฝน แสงแดด พายุ มาเปรียบเทียบ วัฏจักรของชีวิตที่ไม่อาจมีใครหยุดยั้งได้ และย้อนถามกลับไปยังผู้คนว่าคุณเคยเจออะไรแบบนี้บ้างมั้ย นอกจาก Version ของ CCR แล้ว ก็ยังมีของ Joan Jett & The Blackhearts หรือของ Rod Stewart ก็เพราะไม่แพ้กัน แต่ถ้าจะให้สุด ๆ เลยก็ต้องของ CCR เท่านั้น3. Rhythm of the rain คลิกฟังเพลง ♫เพลงของคนอกหักที่ร้องไห้ท่ามกลางสายฝน และอยากให้ฝนตกไปเรื่อย ๆ อยากร้องไห้โง่ ๆ ไปพร้อมกับสายฝนพรำอยู่อย่างนั้น แล้วก็ตัดพ้อถึงคนรักที่ทิ้งไปโดยไม่สนใจใยดี แต่ก็ยังมีแรงฮึดที่จะหาคนใหม่มาแทนอยู่ด้วยเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่รู้ตัวว่าทำไม่ได้เพราะความรักที่มีต่อเธอยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ก็คงเป็นอารมณ์สับสน เศร้า เหงา หลาย ๆ ความรู้สึกยามที่ต้องผิดหวังนั่นเอง Rhythm of the rain ของ The Cascades เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ถูกสาวคนรักทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ก็เลยอยากฝากสายฝนไปบอกเธอว่าเขายังรักเธออยู่ "Listen to the rhythm of the falling rain, Telling me just what a fool I've been, I wish that it would go and let me cry in vain and let me be alone again" นอกจากท่วงทำนอง เนื้อหาโดนใจคนอกหัก เศร้า เหงา เพลงนี้มีช่วงอินโทรที่เป็นเสียงฟ้าร้อง แล้วตามด้วยจังหวะใส ๆ น่ารัก ทำให้ต้องนิ่งฟังกันจนจบเพลง4. Crying in the rain คลิกฟังเพลง ♫เพลง crying in the rain พยายามบอกว่า ฉันจะไม่มีวันให้เธอรู้ว่าใบหน้าที่เปียกชื้นของฉันนั้นเป็นน้ำฝนหรือน้ำตา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ จะไม่มีวันให้เธอได้รับรู้ว่าฉันเจ็บปวดจากการถูกเธอทิ้งนั่นเอง Crying in the rain ของ The everly brothers เป็นเรื่องของการยืนยันศักดิ์ศรีของคนที่ถูกหักอก ถูกคนรักทอดทิ้ง และจะไม่มีทางให้รู้ถึงความผิดหวังอันมากมายนั้น ฉันก็จะเก็บซ่อนมันเอาไว้ไม่ให้เธอรับรู้ว่าฉันโศกเศร้าและเจ็บปวดเพียงไหน และในยามที่ฝนตก เธอก็จะไม่รู้เลยว่าใบหน้าที่เปียกชื้นของฉันนั้นมันคือฝนหรือหยาดน้ำตา และนั่นคือวิธีที่ฉันเก็บมันเอาไว้ และได้แต่รอวันที่ฉันจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้ รอวันที่แสงแดดเจิดจ้าและฉันจะได้กลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง "I'll never let you see, the way my broken heart is hurting me, I've got my pride and I know how to hide, all my sorrow and pain, I'll do my crying in the rain"5. Raining in my heart คลิกฟังเพลง ♫Buddy Holly เรียกว่าเป็นผู้บุกเบิกดนตรีร็อคแอนด์โรล และเป็นผู้มีอิทธิพลต่อความคิดสร้างสรรค์ของ The Beatles, Rolling Stone, Bob dylan รวมถึง Eric Clapton และเป็น Rock & Roll Hall of Fame ในปี 1986 อีกด้วย นอกจากนั้น ยังมี Buddy Holly Statue on the Lubbock Walk of Fame อีกด้วยเช่นกัน ฝนตกในใจ ทำร้ายกันเกินไปแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าฉันโศกเศร้า ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอได้จากฉันไปแล้ว ทุกอย่างยังคงเป็นปกติเหมือนเช่นเคย พระอาทิตย์ยังส่องแสงสดใส ท้องฟ้ายังสว่างสวย ไม่มีก้อนเมฆมาบดบัง แต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยว่าฉันกำลังโศกเศร้า เหมือนฝนกำลังตกในใจของฉัน ซึ่งก็หมายถึงเก็บน้ำตาเก็บความเศร้าไว้ในหัวอกนั่นเอง ทั้งหมดฉันพยายามอดทนที่จะไม่ให้ใครรับรู้ จะไม่แสดงมันออกมาให้ใครได้เห็น ทั้งที่น้ำตาพร้อมจะไหลอยู่ตลอดเวลา "The sun is out, the sky is blue, There's not a cloud to spoil the view, But it's raining, raining in my heart, ....I tell my blues they mustn't show, But soon these tears are bound to flow, 'Cause it's raining, raining in my heart" นอกจาก Version ของ Buddy Holly ที่คงความอมตะเป็นต้นฉบับแล้ว ยังมี Version ของ Leo Sayer ที่เพราะไม่แพ้กัน ลองหาฟังกันได้ ฝนตกในใจ ท้องฟ้ายังสดใสได้ยังไงกัน ห๊ะ6. It never rain in Southern California คลิกฟังเพลง ♫เพลง It never rain in Southern California เรียกว่าเป็นเพลงประจำตัวของ Albert Hammond ซึ่งเป็นนักร้องชาวอังกฤษที่ข้ามฟากมาดังที่อเมริกากันเลย เพลงนี้พูดถึง Southern California ที่เป็นพื้นที่แห้งแล้งกึ่งทะเลทราย ไม่ค่อยมีฝน ถ้าจะเปรียบเทียบบ้านเราก็คล้าย ๆ กับทุ่งกุลาร้องไห้นั่นเอง ก็เลยเป็นการประชดประชันได้เหมือนกัน ประกอบกับ California เป็นที่ตั้งของ Hollywood เมืองของนักขุดทอง สวรรค์ของคนหนุ่มสาว เนื้อเพลงก็สร้างสรรค์จากความหมายนี้ ก็คือการมุ่งหน้าไปขุดทองอะไรทำนองนั้น แต่ก็กลับไม่ประสบความสำเร็จเหมือนคำร่ำลือ ต้องล้มเหลว ก็เลยเปรียบเทียบกับฝนที่ไม่เคยตกที่ Southern California หรือจะพูดอีกความหมายหนึ่งก็คือไม่มีความสำเร็จใดที่เราจะได้มาโดยง่ายดาย เหมือนกับสายฝนที่ไม่เคยตกในยามที่เราต้องการ โดยเนื้อหานอกจากคำว่า Rain แล้ว ยังใช้คำว่า Pour ที่หมายถึงมรสุม ก็คือไม่ใช่แค่ฝน แต่มันเจอมรสุมแบบเต็ม ๆ เลยทีเดียว "Seems it never rains in Southern California, Seem I've often heard that kind of talk before, It never rains in California, But girl, don't they warn ya? It pours, man, it pours"7. Raindrop keep falling on my head คลิกฟังเพลง ♫เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Butch Cassidy and the Sundance Kid (1969) ร้องโดย B.J. Thomas ที่ฟังแล้วก็รู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจ ที่แม้จะเปรียบฝนเป็นเหมือนอุปสรรค แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ ขอเพียงแค่เราแข็งแรง ไม่หวั่นไหวหรือยอมแพ้ต่อปัญหาหรือสิ่งรอบตัว หากจะแปลแบบทางศาสนาหน่อยก็คือ ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขก็ล้วนอยู่ที่ใจเรานั่นเอง "But there's one thing I know, The blues they send to meet me, Won't defeat me, it won't be long, Till happiness steps up to greet me" หรืออารมณ์เพลงก็อาจจะเหมาะกับคนเมืองที่ฝนตกทีไรก็บ่นว่าทำไมฝนตกเนี่ย ไม่อยากให้ฝนตกเลย ทำนองนั้น8. Laugher in the rain คลิกฟังเพลง ♫มาฟังเพลงเกี่ยวกับฝนที่สมหวังกันบ้าง เพลง Laugher in the rain ร้องโดย Neil Sedaka เป็นเพลงรักหวานชุ่มฉ่ำท่ามกลางสายฝนในวันฝนตก การได้อยู่กับคนรัก มีช่วงเวลาที่อบอุ่นร่วมกัน ไม่กังวลกับฝนที่เทกระหน่ำลงมา มือจับมือ ส่งสายตาแสดงความรักต่อกัน มีเพียงเสียงหัวเราะให้กันและกันเพียงเท่านั้น "Oh, I hear laughter in the rain, Walking hand in hand with the one I love, Oh, I love the rainy days and the happy way I feel"แรงบันดาลใจจากสายฝนที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เกิดบทเพลงมากมายเกี่ยวกับฝนที่มีทั้งเรื่องราวของความรักที่ผิดหวัง ถูกทิ้ง เหงา เศร้า อกหัก รวมถึงความรักที่สมหวังด้วย นอกจาก 8 เพลงที่นำเสนอ ยังมีเพลงเกี่ยวกับฝนที่อยู่ในความทรงจำอีกมากมาย ที่บางเพลงก็เปรียบเทียบเป็นการจุดไฟในสายฝน Set fire to the rain ของ Adele ที่ถึงแม้จะทำได้ยาก แต่ต้องทำให้ได้ หรือบางเพลงก็มีเนื้อหาปลอบประโลมและให้กำลังใจตัวเองว่ามันเป็นแค่ฝนไม่ใช่น้ำตาอะไรหรอก ไม่ได้โศกเศร้าอะไรสักหน่อย หรือบางครั้งก็นำสายฝนมาเปรียบเทียบเป็นอุปสรรคที่จะต้องยืนหยัด ฝ่าฟัน และใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ ทุกสิ่งมีข้อดีข้อเสีย เพียงแต่เราจะสามารถพลิกกลับให้เป็นด้านดีต่อเราให้เสมอได้อย่างไรเท่านั้นเอง ขอบคุณภาพปก Noah Silliman ขอบคุณภาพประกอบจาก Official Page Madonna / Credence Clearwater Revival / The Cascades / The Everly brothers / Buddy Holly / Albert Hammond / B.J. Thomas / Neil Sedaka บทความเกี่ยวกับเพลงของ เจ้าแก้วหน้อย 9 เพลงรักฝันหวานข้ามกาลเวลา 10 เพลงรักวัยฝันฉันและเธอ10 Playlist เพลงที่เหมาะกับ Work From Homeมองโลกผ่านเพลง The Greatest love of allมองโลกผ่านเพลง What a wonderful worldBob Dylan ผู้ก้าวข้ามพรมแดนวรรณกรรม