9 คำตอบ คลายความสงสัย ทำไมต้องมีเหรียญโปรยทาน???- เหรียญโปรยทานคืออะไร - ทำไมต้องทำเหรียญโปรยทาน- เหรียญโปรยทานใช้งานไหนได้บ้าง- จริงหรือไม่ที่เก็บเหรียญโปรยทานแล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต- จริงหรือไม่ที่ทำบุญด้วยเหรียญโปรยทานมากยิ่งได้บุญมาก ทำน้อยได้บุญน้อย- ทำไมงานเหล่านั้นต้องมีเหรียญโปรยทาน ไม่มีได้หรือไม่- ทำบุญด้วยเหรียญโปรยทานได้บุญจริงหรือไม่- ทำเหรียญโปรยทานเองกับซื้อเหรียญโปรยทาน แบบไหนได้บุญมากกว่ากัน- เหรียญโปรยทานทำได้อย่างไร ทำยากหรือไม่เคยสงสัยเกี่ยวกับเหรียญโปรยทานเหมือนคำถามเหล่านี้บ้างหรือเปล่าคะ ถ้าเคยสงสัย วันนี้ผู้เขียนได้ไปศึกษาข้อมูลมาเล่าสูกันฟัง พร้อมแล้วติดตามกันเลยภาพประกอบ 1 บทความนี้ เกิดจากความสงสัยของผู้เขียนตอนไปตลาดเช้าแห่งหนึ่ง แต่จริงๆก็ไปสายๆหน่อยนะคะ อิๆๆ เพราะตื่นสาย วันนั้นนอกจากมีตลาดให้เลือกซื้อของแล้ว ยังมีพิธีงานบวชด้วย เพราะตลาดอยู่ในบริเวณวัด แล้วผู้เขียนก็หันไปเห็นแม่ค้าคนหนึ่งนั่งพับเหรียญโปรยทานขาย และมีเหรียญโปรยทานรูปแบบต่างๆ มากมายให้เลือก จึงเกิดคำถามต่างๆมากมาย และได้ไปหาคำตอบแก้ข้อสงสัยจากผู้รู้และสืบค้นข้อมูลต่างๆ จนเข้าใจ ก็เลยคิดว่าคำตอบเหล่านั้นน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่สนใจ ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง 1. เหรียญโปรยทานคืออะไร เหรียญโปรยทาน หรือดอกบุญ เป็นวัตถุอย่างหนึ่ง ที่ทำจากกระดาษ กระดาษสา กระดาษแก้ว และริบบิ้น เพื่อห่อเหรียญในรูปแบบต่างๆที่สวยงามและเหมาะสมกับงานที่จะนำไปใช้ 2. ทำไมต้องทำเหรียญโปรยทานการทำเหรียญโปรยทานหรือมีเหรียญโปรยทานไปใช้ในงานต่างๆ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจ และส่วนใหญ่เชื่อว่าแสดงถึงความเสียสละ แบ่งปันเป็นทานไม่หวังผลตอบแทน ทั้งนี้ความเชื่อต่างๆอยู่ที่ลักษณะการนำเหรียญโปรยทานไปใช้ในงานต่างๆ3. เหรียญโปรยทานใช้งานไหนได้บ้างเหรียญโปรยทานส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในงานบุญ งานบวช งานแต่งงาน และงานศพ- งานบวช ทำไมงานบวชต้องมีเหรียญโปรยทานด้วย???? เคยสงสัยมั้ยคะ นั่นเพราะว่าพิธีบวชนาค ก่อนนาคจะบวชเป็นพระ ต้องมีการโปรยทานก่อนเข้าโบสถ์คะ นาคจะโปรยทานหลังจากนาคเวียนเทียนรอบโบสถ์จนครบ 3 รอบ แล้วนาคจะมาอยู่หน้าโบสถ์ เพื่อโปรยทานให้แขกที่มาร่วมงาน ก่อนที่นาคจะเข้าไปประกอบพิธีต่อหน้าพระประธานต่อไป ซึ่งเหรียญโปรยทานจะมีรูปแบบต่างๆห่อด้วยกระดาษสา กระดาษแก้ว หรือริบบิ้นก็ได้ เพื่อให้มองเห็นชัดเจน เนื่องจากเมื่อก่อนโปรยทานด้วยเหรียญธรรมดาไม่มีการห่อเหรียญ ทำให้ผู้ที่รอเก็บหาเหรียญไม่เจอ บางคนเก็บเข้ากระเป๋าสตางค์ทำให้รวมกับเหรียญอื่นๆที่ใช้จ่ายทั่วไป ภายหลังจึงมีการห่อเหรียญขึ้นมาเป็นรูปแบบต่างๆให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น จนกระทั่งปัจจุบันมีธุรกิจพับเหรียญโปรยทานขาย ในงานบวชการโปรยเหรียญโปรยทาน แสดงถึงการสละปล่อยวางทางโลก แบ่งปันเป็นทานไม่หวังผลตอบแทน เชื่อว่าเป็นการโปรยผลบุญของการบวชแก่ผู้ที่มาร่วมงาน เหรียญโปรยทานที่นาคโปรยเป็นเงินที่มีความบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ หากใครได้เก็บไว้ จะมีความเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้น ไม่ว่าจะเก็บไว้ที่บ้านหรือเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ก็ดี ผู้คนจึงนิยมเก็บไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเอง โดยส่วนใหญ่งานบวช จะใช้เหรียญโปรยทานสีเหลืองทอง สีส้ม บางงานมีหลากสีแล้วแต่ชอบ- งานแต่งงานงานแต่งงานก็ใช้เหรียญโปรยทานด้วยหรือ???? จริงๆแล้วเราจะรู้จักกันในรูปแบบ “ซองมงคล” ซึ่งถือว่าเป็นเหรียญโปรยทานอีกประเภทหนึ่ง (เพราะนำเงินใส่ในซอง เหมือนห่อเหรียญกับกระดาษหรือริบบิ้นนั่นแหละค่ะ แต่จะนิยมใช้สีสันสดใสเย็นตา เช่น สีแดง สีชมพู และสีอื่นๆ) โดยฝ่ายเจ้าบ่าวจะยื่นให้กับคนที่มากั้นประตู ก่อนเจ้าบ่าวจะไปหาเจ้าสาว คุ้นๆกันบ้างมั้ยคะ- งานศพสำหรับงานศพ เป็นงานที่โศกเศร้า ก็นำเหรียญโปรยทานมาใช้ค่ะ เชื่อกันว่า “เป็นการซื้อทางให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อได้ผ่านทางอย่างราบรื่น ไม่มีสิ่งใดติดขัด” คล้ายกับการโยนเหรียญไปตามถนนขณะเคลื่อนย้ายศพ เพื่อเป็นการขอทางให้กับวิญญาณผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับเหรียญโปรยทางในงานศพ จะนำไปทำบุญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และจะได้บุญกุศลนี้ด้วย ส่วนเหรียญโปรยทานที่ใช้ส่วนใหญ่นิยมสีขาว และสีดำภาพประกอบ 24. จริงหรือไม่ที่เก็บเหรียญโปรยทานแล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสำหรับคำถามนี้ ขอตอบว่าอยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ ผู้เขียนเชื่อ เพราะว่าเป็นชาวพุทธ และนับถือศาสนาพุทธอยู่แล้วค่ะ เคยไปร่วมงานบวชอยู่เหมือนกัน และได้ไปเก็บเหรียญโปรยทานใส่ไว้ในกระเป๋าเพื่อเป็นสิริมงคลของตัวเอง ผู้เขียนเชื่อว่าอยู่ที่ความคิด การกระทำสิ่งดีๆ บวกกับความเชื่อส่วนตัวของเราเอง ก็ย่อมส่งผลเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอย่างแน่นอนค่ะ5. จริงหรือไม่ที่ทำบุญด้วยเหรียญโปรยทานมากยิ่งได้บุญมาก ทำน้อยได้บุญน้อยคำถามนี้ขอตอบในมุมมองของผู้เขียนนะคะ ผู้เขียนเชื่อว่า การทำบุญจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับความพร้อม ความสะดวกของแต่ละคนมากกว่า อย่างทำบุญด้วยเหรียญโปรยทานนี้ก็เช่นกัน ต้องทำเท่าไรถึงจะได้บุญ หรือที่คิดว่าทำมากจะได้บุญมากนั้น ไม่น่าจะเกี่ยวกัน (แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน) การทำบุญด้วยเหรียญโปรยทานไม่จำกัดจำนวนค่ะ แล้วแต่ความสะดวก หรือกำลังความศรัทธา แค่มีจิตใจมุ่งมั่น และบริสุทธิ์ที่จะทำขึ้นมาก็ทำให้ได้บุญแล้ว 6. ทำไมงานเหล่านั้นต้องมีเหรียญโปรยทาน ไม่มีได้หรือไม่งานบวช งานแต่งงาน และงานศพ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลและแต่ละงานเป็นธรรมเนียมประเพณีของไทยมาแต่โบราณ ตลอดทั้งมีความเชื่อทางพระพุทธศาสนาด้วย ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าจำเป็นต้องมีเหรียญโปรยทานในงานต่างๆ7. ทำบุญด้วยเหรียญทานได้บุญจริงหรือไม่สำหรับคำถามนี้ ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าอยู่ที่ความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละบุคคลเช่นเดียวกัน ถ้าเราเชื่อว่าได้บุญ เราก็จะได้บุญ แต่ถ้าใจเราคิดว่าไม่ได้บุญ เราก็จะไม่ได้บุญ จะได้บุญจริงหรือไม่ได้จึงขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล8. ทำเหรียญโปรยทานเองกับซื้อเหรียญโปรยทาน แบบไหนได้บุญมากกว่ากันได้ขึ้นชื่อว่าทำบุญ ไม่ว่าจะทำแบบไหน ทำอย่างไร ทำมากน้อยแค่ไหน ผู้เขียนเชื่อนะคะว่าได้บุญเหมือนกัน มากน้อยแค่ไหนอยู่ที่ความมุ่งมั่น และความศรัทธามากกว่า การทำบุญด้วยเหรียญโปรยทานนั้น อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละคน บางคนทำเหรียญโปรยทานเป็นอยู่แล้ว มีเวลาว่างในการทำ ได้แบบที่ต้องการ และประหยัดค่าใช้จ่าย จึงทำขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่บางคนทำเหรียญโปรยทานไม่เป็น ไม่มีเวลาที่จะทำขึ้นมา ยอมจ่ายเงินมากกว่า ได้ใช้เร็ว ถือว่าคุ้มค่า จึงซื้อเหรียญโปรยทานในรูปแบบต่างๆตามที่ตัวเองต้องการ เพราะมันสะดวกกว่า ทั้งนี้การทำเหรียญโปรยทานหรือซื้อเหรียญโปรยทาน แบบไหนได้บุญมากกว่ากัน จึงขึ้นอยู่กับจิตตั้งต้นของคนทำบุญมากกว่า9. เหรียญโปรยทานทำได้อย่างไร ทำยากหรือไม่เหรียญโปรยทานมีหลายรูปแบบ เช่น ห่อด้วยกระดาษสา กระดาษแก้ว และห่อด้วยริบบิ้นในรูปแบบต่างๆ ผู้เขียนขอแนะนำการพับเหรียญโปรยทานที่ทำริบบิ้นนะคะ ถามว่าทำเหรียญโปรยทานยากหรือไม่ อยู่ที่คนสนใจทำมากกว่าค่ะ เรามาดูวิธีการทำเหรียญโปรยทานกันว่าทำได้อย่างไร สำหรับผู้เขียนคิดว่าไม่ยากค่ะ ลองมาทำตามนี้ดูภาพประกอบ 3ก่อนอื่นเราต้องเตรียมอุปกรณ์ก่อน 1. ริบบิ้นยาว 12 นิ้ว จำนวน 4 เส้น ซึ่งริบบิ้นมีลักษณะ 2 เนื้อ คือ - ริบบิ้นเนื้อมัน จะมีลักษณะเนื้อมันวาว สีสันสดใส - ริบบิ้นเนื้อทราย จะมีลักษณะเนื้อนิ่มกว่าริบบิ้นเนื้อมัน สีจะเนียนกว่า และริบบิ้นเนื้อทรายจะพับง่ายกว่าเนื้อมันทั้งนี้ควรเลือกขนาดของริบบิ้นให้เหมาะสมกับแบบที่ต้องการพับด้วยนะคะ2. กรรไกร มีไว้สำหรับตัดแต่งริบบิ้น3. ไม้บรรทัด มีไว้วัดความยาวของริบบิ้นที่ต้องการ4. เหรียญ ซึ่งจะใช้เหรียญ 1 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท หรือจะใส่เท่าไรก็ได้ตามต้องการ อุปกรณ์มีแค่ 4 อย่างเท่านั้นเอง หาไม่ยากเลย ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันว่าเหรียญโปรยทานมีวิธีพับกันอย่างไรบ้าง1. หยิบริบบิ้นทั้ง 4 เส้น ให้หัวของริบบิ้นเสมอกัน แล้วพับครึ่งริบบิ้น โดยใช้มือบีบให้มีรอยพับครึ่งชัดขึ้น สังเกตุที่หัวริบบิ้นมันเสมอกัน เวลาเราสอดปลายริบบิ้นอาจจะแตกที่ปลายได้ ให้เราใช้กรรไกรตัดเฉียง เพื่อให้ปลายเล็กเเหลมหน่อย จะได้สอดในช่องของตัวชิ้นงานได้ง่ายขึ้น2. นำริบบิ้น 2 เส้น ในที่นี้ผู้เขียนเลือกใช้ริบบิ้น 2 สี สีละ 2 เส้นนะคะ ปรับใช้กันได้นะ นำริบบิ้น 2 เส้น ที่พับครึ่งแล้ว ถือเส้นที่หนึ่งไว้ แล้วนำเส้นที่ 2 สวมเข้าไปให้เส้นที่ 1 โดยให้เส้นที่ 1 อยู่ข้างใน แล้วนำเส้นที่ 3 สวมเส้นที่ 2 จากด้านล่างให้ปลายชี้ขึ้นด้านบน แล้วก็นำเส้นที่ 4 สวมเส้นที่ 3 หันปลายไปด้านซ้าย สอดปลายแหลมไปในเส้นที่ 1 แล้วดึงริบบิ้นให้แน่นขึ้นจนเป็นรูปสี่เหลี่ยมภาพประกอบ 4 3. นำเหรียญที่เราจะห่อ ใส่ไว้ด้านบนของริบบิ้น แล้วพับริบบิ้นเส้นทางขวาไปหาทางซ้าย พับริบบิ้นเส้นที่อยู่ด้านล่างขึ้นข้างบน พับริบบิ้นเส้นทางซ้ายไปหาทางขวา และพับริบบิ้นเส้นด้านบนลงมาด้านล่างแต่นำปลายสอดไว้ในช่องด้านล่าง เพื่อล็อคเหรียญให้อยู่ในช่องนั้น ภาพประกอบ 54. แล้วพลิกริบบิ้นไปอีกด้าน เพื่อล็อคเหรียญอีกชั้น โดยนำริบบิ้นเส้นแรกด้านบนทางขวา พับลงมาแล้วสอดปลายในช่องด้านล่าง แล้วหมุนอีก 3 ด้าน เพื่อพับริบบิ้นและสอดปลายในช่อง จนครบทั้ง 4 ด้าน จะเห็นว่าปลายริบบิ้นจะมีริบบ้ินซ้อนกันด้านละ 2 เส้น คือเส้นสั้นอยู่ด้านบน เส้นยาวอยู่ด้านล่าง ให้เราดึงให้เรียบร้อยภาพประกอบ 65. พลิกเหรียญไปอีกด้าน เพื่อทำดอก โดยให้เราเริ่มจากพับริบบิ้นทางซ้าย เพื่อไม่ให้ริบบิ้นแตก ใช้หัวแม่มือจับริบบ้ิน โดยให้หัวแม่มือเราอยู่ใต้ริบบิ้น บิดริบบิ้นให้นิ้วชี้อยู่ล่าง หัวแม่มืออยู่บนริบบิ้น แล้วสอดปลายริบบิ้นในช่องด้านบน เสร็จแล้วดึงปลายริบบิ้นเบาๆให้เรียบร้อย ถ้าดึงแรงเกินไปจะทำให้ริบบิ้นแตกได้ แล้วก็จะได้กลีบดอกหนึ่งกลีบ ทำแบบนี้จนครบทั้ง 4 ด้าน ภาพประกอบ 7 6. ทำกลีบดอกอีกด้านให้ครบ โดยเริ่มจากริบบ้ินทางซ้าย เเต่ใช้เส้นที่อยู่ด้านล่าง ใช้หัวแม่มือพับริบบิ้นทางซ้ายเหมือนเดิม จับริบบิ้นให้หัวเเม่มืออยู่ด้านบนและนิ้วชี้อยู่ด้านล่างของริบบิ้น แล้วนำปลายสอดไว้ใต้ช่องที่อยู่ด้านบน แล้วปลายริบบิ้นจะออกไปทางด้านบนใต้ดอกกลีบบน แล้วหมุนวนทำแบบนี้จนครบทั้ง 4 ด้านภาพประกอบ 8 7. ให้เราตัดตกแต่งใบหรือริบบิ้นที่เหลือให้สวยงาม หรือตัดเป็นแบบเฉียงๆ ง่ายๆ ก็ได้ ออกแบบได้ตามที่ชอบภาพประกอบ 9เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับความรู้ การตอบคำถาม ที่ช่วยคลายความสงสัยเกี่ยวกับเหรียญโปรยทาน ความเชื่อต่างๆ ทั้งนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ ผู้เขียนก็มีความเชื่อในแบบของผู้เขียน จึงเล่าสู่กันฟังในมุมมองของผู้เขียนเอง ถ้าหากมีข้อบกพร่องประการใด ก็ติชม แนะนำ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เล่าสู่กันฟังได้ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่อ่าน ได้เนื้อหาสาระความรู้ ได้เห็นประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้ถ่ายทอด รวมทั้งวิธีการทำเหรียญโปรายทานอย่างง่าย ที่คิดว่าใครๆก็ทำได้ ไม่ยากเลย เอามาแบ่งปันในแบบที่เข้าใจได้ง่าย ซึ่งวิธีทำเหรียญโปรยทานอย่างง่าย ใครมีผลงานเป็นอย่างไรส่งมาให้ผู้เขียนชมบ้างนะคะ แต่ถ้าเพื่อนๆอยากเห็นวิธีทำที่ชัดเจนกว่านี้ สามารถคลิกชมที่ https://youtu.be/Vb_qZNQEr94 ได้เลยค่ะ และถ้ามีคำถาม หรือติชม แนะนำ ติดตามได้ที่ Youtube : ช่อง K. wealthy หรือคลิกที่ https://youtu.be/Vb_qZNQEr94 FB เพจ : เหรียญโปรยทาน งานริบบิ้น By Mamขอบคุณภาพประกอบ 1 - 9 ของผู้เขียน จากโปรแกรม InShotขอบคุณภาพหน้าปกของผู้เขียน และตกแต่งจาก canva.com