ในวันที่เหนื่อยล้าจากสิ่งต่างๆ มากมาย สิ่งที่หลายคนทำกัน ก็คงจะหนีไม่พ้นการทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสบายๆ และหาเพลงที่ผ่อนคลายเปิดบรรเลงเพื่อให้กำลังใจตัวเองกัน แต่แน่นอนครับว่าไม่ใช่ทุกเพลงที่จะพาให้เราได้ผ่อนคลายจริงๆ มีการค้นพบและงานวิจัยมากมายที่ยืนยันในเรื่องของผลกระทบจากบทเพลงและท่วงทำนองที่เราได้ฟัง บทเพลงมากมายมักมีเนื้อหาที่พาให้ตัวเราจมลงไปในอดีตของความทรงจำที่เจ็บปวด ท่วงทำนองต่างๆ ที่บางครั้งก็พาให้ตัวเราเหนื่อยล้าลงไปมากกว่าเดิมโดยที่เราเองก็ยังไม่มีโอกาสได้รู้ตัว วันนี้ผมจึงมีบทเพลงที่สามารถเพิ่มกำลังใจ หรือช่วยผ่อนคลายเราจากความเหนื่อยล้าจากวงดนตรีที่นิยามแนวเพลงของตนว่าเป็นเพลงเพ่งเรื่องชีวิตมาให้ได้ลองเข้าไปรับฟังกันดูครับ 1. Something Goodเริ่มต้นด้วยเพลงฟังสบายที่พาให้เราได้เข้าใจความเป็นจริงมากขึ้น แน่นอนว่าในวันที่เราอยากจะพักผ่อนหย่อนใจ อยากจะพักกายจากความเหนื่อยล้าทั้งหลายที่ลุมเล้า นั่นอาจแสดงว่าวันนั้นมันคงไม่ใช่วันที่ดีสักเท่าไร หลายครั้งที่ใครต่อใครบอกให้เรามองโลกในแง่ดีเข้าไว้ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรก็ในเมื่อเราพบแต่เรื่องร้ายๆ เสียจนหาเรื่องดีๆ ไม่เจอ ถ้าใครที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่ ผมอยากให้ลองกดเข้าไปลองฟังเพลงนี้ดู แล้วความคิดของคุณอาจเปลี่ยนไป " วันดีๆ ไม่ได้มีทุกวี่ทุกวันไม่รู้ว่ามันจะผ่านมาตอนไหนแต่วันเลวๆ ก็ไม่ได้มีทุกวี่ทุกวันประมาณว่ามันสลับกันไป " อย่างที่เนื้อเพลงนี้บอกไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวันที่ดี หรือวันที่เลวร้ายขนาดไหน แต่เชื่อเถอะครับว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกวันอย่างแน่นอน หากว่าวันนี้เราผิดหวังเสียใจจากอะไรบางอย่าง ถ้าเราไม่สามารถมองให้มันเป็นเรื่องที่ดีได้จริงๆ เพลงนี้ก็แค่ขอให้เราลองมองมันดูเสียใหม่ ไม่ใช่มองให้มันดี แต่เป็นมองให้มันสนุกได้ไหม ถึงแม้ว่าเราจะต้องเสียใจ ก็คิดเสียใหม่ว่าสิ่งที่เสียไป เป็นเพียงค่าเทอมในการเรียนรู้ของเราหลายครั้งที่เราไม่ได้มีความสุขกับการเรียน หลายครั้งที่เราต้องทุกข์ทนกับการเรียน ความเครียด งาน การบ้าน กิจกรรม เพื่อน ทุกสิ่งอันเป็นองค์ประกอบในการเรียนล้วนทำให้เราทุกข์ได้ทั้งนั้น แต่หลายครั้งมันก็สนุกไม่ใช่หรือครับ กับการได้เรียนรู้บางสิ่ง การได้ร่วทำอะไรบางอย่าง และเมื่อมันสนุก มันก็จะกลายเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง 2. ฟ้ายิ่งมืด ดาวยิ่งสว่างเพลงที่สองนี้ พิเศษสำหรับใครที่กำลังผิดหวังในความรักโดยเฉพาะเลยครับ ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยผิดหวังกับเรื่องของความรักเหมือนกัน และก็เคยเข้าใจผิดไปว่าการผิดหวังในความรักครั้งนั้น มันเป็นเพราะว่าไม่มีใครที่รักเราจริง สิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกหมดอาลัย รู้สึกว่าเห็นอะไรก็ขัดใจไปหมด แม้แต่คนที่เขาทำดีกับเราเพราะรักเราจริงๆ หรือคนที่คอยดึงสติเราเพราะรักเรา สำหรับผมในตอนนั้น ทุกคนก็เป็นแค่คนหลอกลวงเท่านั้น " ใครคนนั้น ที่ฉันเคยมีฉันยินดี ที่เคยมีเธอเป็นเพื่อนร่วมทางถึงยังไงก็ยังขอบใจที่สอนที่สั่งผ่านวันร้าย ๆ ที่โหมพัดกระหน่ำยิ่งเจ็บยิ่งจำ ยิ่งเข้าใจคืนที่ขอบฟ้า มืดมิดมากเท่าไหร่ดาวยิ่งสดใส ยิ่งสว่าง " แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ต่อให้ผมยังคงผิดหวังเสียใจอีกหลายครั้ง สิ่งที่ผมมอบให้มีแต่คำว่าขอบคุณต่อบุคคลเหล่านั้น ที่ครั้งหนึ่งได้เคยผ่านเข้ามา ไม่ใช่เข้ามาทำให้เราเสียใจนะครับ แต่เขาเข้ามาเพื่อทำให้เราได้มองเห็นคนที่รักเรามากขึ้นต่างหาก ทำให้โลกของเราสวยงามเพราะแสงสว่างจากดวงดาวนับร้อยพันที่ประดับอยู่บนฟ้านั้น 3. ใจคนสำหรับใครที่ยังไม่สามารถทำใจได้เพียงเพราะเพลงก่อนหน้านี้ ถ้าอย่างงั้นลองมาฝังเพลงนี้กันดูบ้างครับ " เปิดประตูหัวใจไว้เลย ก่อนเราจะรักอยากจะมาหรือไปไม่ลำบาก รักไม่รักก็ดูแม้แต่ใจเราเอง เคยบังคับมันได้ที่ไหนถึงสั่งมันยังไง ก็ไม่เห็นมันฟังสักทีแม้แต่ใครบางคน ต่อให้รักมากสักแค่ไหนถ้าเขาอยากลืมไป ก็ตามสบาย ตามสบาย " เพงนี้ถือเป็นอีกเพลงที่พูดถึงเรื่องของความรักที่ผิดหวัง แต่เน้นไปทางทำความเข้าใจกับตัวเองเสียมากกว่า เพราะเพลงนี้ไม่ได้บอกว่าความรักมันอย่างไร ไม่ได้บอกเราว่าเขาจากไปเพราะอะไร แต่เพลงนี้กำลังบอกกับเราว่าไม่มีใครจะสามารถบังคับควบคุมหัวใจใครได้ แม้แต่หัวใจของตัวเอง เราบังคับให้คนที่ไม่รักอยู่กับเราไม่ได้ และเราก็ไม่ควรบังคับให้หัวใจตัวเองต้องอยู่กับใครด้วยเช่นกัน ประตูที่ดีต้องพร้อมที่จะเปิดปิดได้ตลอดเวลา เพราะแบบนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้มันกลายเป็นเช่นกำแพงไร้ค่า เพียงเพราะว่าไปปิดตายมัน 4. อกหักให้มันเท่ๆ หน่อยเพลงสุดท้ายสำหรับเรื่องความรัก แต่ไม่ท้ายสุดสำหรับเรื่องของชีวิต " ชีวิตมันไม่สมบูรณ์ แต่อย่าเสียศูนย์กับชีวิตก็รู้ว่ามันต้องคิด แต่อย่าคิดให้มากไปอกหักไม่เป็นไร แต่ว่าให้มันเท่เท่หน่อยใช้ชีวิตให้มันสวยงาม อยากร้องไห้ก็ร้องถ้ามันเจ็บถ้ามันช้ำไม่ว่ายังไงก็ตาม อกหักให้มันเท่เท่หน่อย "อกหักไม่ใช่เรื่องแปลกครับ การร้องให้เองก็เช่นกัน กลับกันมันคือเรื่องปกติของชีวิต และการคิดถึงสิ่งเหล่านั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่ประการใด แต่สิ่งที่เราต้องเข้าใจ คือชีวิตของเรายังต้องเดินต่อไป อย่าไปเสียสูญจนลุกไม่ไหว แค่เพียงเพราะเรื่องธรรมดาทั่วไป ที่ใครต่อใครต่างก็เคยพบเจอ 5. สายลมเพลงนี้เดิมทีผมอยากจะจัดไว้ในลำดับที่สอง แต่คิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะนำมาไว้ตรงนี้ ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร ผมแนะนำลองเปิดฟังไล่มาตั่งแต่เพลงแรกดูครับ" เคยไม่เข้าใจ ก็ทำไม ต้องเป็นเราใจเดินเบาๆ เมื่อเรา เริ่มเข้าใจวันที่ทุกข์ใจจะมาเมื่อไหรก็เมื่อนั้นวันที่สำคัญคือวันที่ฉันเข้าใจใจดีไม่ท้อ พอจะทานไหวมันก็ไม่เท่าไหร่ อย่าท้อ อย่าท้อใจอีกไม่นานสายลมก็พัดมา "เคยถามกับตัวเองกันบ้างมั้ยครับ ว่าเพราะอะไรเรื่องนั้นเรื่องนี้ถึงต้องเกิดขึ้นกับเรา ต่อให้ใครจะบอกว่ามันคือเรื่องปกติสักแค่ไหน ผมเชื่อเราหลายๆ คน ต่างก็ต้องมีความคิดนี้อยู่ลึกๆ ในจิตใจอยู่ดี ว่าทำไมสิ่งแย่ๆ เหล่านี้ ต้องมาเกิดขึ้นกับเราแต่ก็นั่นล่ะครับ เราจะทำอย่างไรเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว นี่จึงควรเป็นคำถามหลัก ที่เราควรเก็บมาคิดมากกว่านะครับ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็ตาม เราต้องเข้าใจว่ามันได้เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับที่จะไปนั่งคิดว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับเรา สิ่งที่เราควรทำคืออย่าได้ท้อแท้เสียใจ และอีกไม่นานเกินรอหรอกครับ ที่มันจะผ่านเราไป คล้ายกับสายลมที่พัดผ่านมา 6. Be Happy Be Yourselfเพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงที่ผมชอบที่สุด ทั้งเสียงร้อง ทำนอง และเนื้อหา เพราะผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่มักจะชอบเผลอการนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่เรื่อยไป " ทุกสิ่งต่างมีความต่างต่างมีเหตุผลเพื่อบางอย่างทุกคนต่างมีคุณค่า ต่างกันไปทุกๆคนในโลกนี้ ต่างก็สวยงามจะขาวจะดำ สูงหรือต่ำna na na na be yourself "ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยโดนเปรียบเทียบ หรือถูกตัดสินคุณค่าของตัวเองให้ดูด้อยลงไป ผมอยากบอกคุณเสียใหม่ ว่าคุณมีคุณค่ามากเกินกว่าใครต่อใครอีกมากมาย สำหรับใครบางคน สำหรับอะไรบางอย่าง และสำหรับงานบางสิ่ง ลองดูครับ ค้นหามันให้เจอ คุณค่าของตัวคุณเอง ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ใครจะตัดสิน 7. ดอกไม้ในที่ลับตาอีกหนึ่งเพลงที่ผมชอบมากที่สุดของวงดนตรีวงนี้ และอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองฟังดู บางทีหลังจากที่ฟังเพลงนี้จบลง เราอาจมองเห็นอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เรามองข้ามมันมาตลอด" เธอคือดอกไม้ที่บานในที่ลับตาเธอคือดอกหญ้า ถ้าใครไม่มอง ก็ไม่เห็นสวยเกินกว่าคำ สวยเกินกว่าใคร สวยที่จิตใจ... เธอคือรอยยิ้มที่ทำให้โลกสวยงามเธอคือคำถามที่เราไม่เคยนึกถึงรักคืออะไร ชีวิตคืออะไร …อะไรที่สวย...งาม "เคยมั้ยครับ เราชื่มชมความดีของใครต่อใคร เราชื่มชมสิ่งต่างๆ มากมาย แต่เรากลับไม่เคยชื่นชมตัวเองเลย ไม่ใช่เพราะตัวเราเองไม่มีอะไรดี ไม่ใช่เพราะตัวเราเองไม่สำคัญ แต่เป็นเพราะเราไม่ให้คุณค่ากับตัวเองมากพอ เราถามหาคำตอบจากสิ่งต่างๆ มากมาย แต่เรากลับไม่เคยถามคำถามเหล่านั้นกับตัวเองอย่างจริงจังเลย ลองดูครับ ปล่อยให้เพลงนี้ชื่นชมคุณ ก่อนที่คุณจะลองชื่นชมตัวเอง และลองตั่งคำถามต่างๆ กับตัวเองดูอีกสักครั้ง บางทีเราอาจจะค้นพบคำตอบที่สงสัย หรือมันอาจจะเปลี่ยนไปจนเราไม่คาดคิดเลยก็ได้นะครับ 8. น้ำหวานมาถึงเพลงรองสุดท้ายกันแล้วนะครับ สำหรับเพลง นี้ผมคิดว่าหลายคนน่าจะสงสัยเช่นเดียวกันกับคำถามที่เพลงนี้ถามถึง และหลายคนก็อาจจะเริ่มท้อที่ไม่เห็นปลายทางของความดีที่ได้ทำลงไปสักที แต่เพลงนี้อาจทำให้คุณกลับมาเชื่อมั่นได้อีกครั้ง ว่าทุกสิ่งที่คุณทำ มันยังมีความเป็นไปได้ซ่อนอยู่" เคยคิดไหม ทำไมมันยุ่งขนาดนั้นเคยคิดไหม ทำไมมันยากขนาดนี้กะอีแค่ทำน้ำหวาน เอาน้ำมาเติมน้ำตาลแต่เคยรู้สึกไหม ทำไมไม่หวานซักทีเคยคิดไหม ทำไมมันยากขนาดนั้นเคยคิดไหม ทำไมมันยุ่งขนาดนี้อยากจะเชื่อในความดี อย่างที่ใครๆเชื่อกันแต่เคยรู้สึกไหม ทำดีไม่เคยจะได้ดี "แล้วหลังจากที่ฟังเพลงนี้จบลง แม้ว่าเราอาจจะยังไม่ได้คำตอบที่แน่นอนแต่อย่างใด แต่ผมว่าเราน่าจะได้เห็นในความเป็นไปได้ต่างๆ ต่อทุกสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เช่นกันกับเรื่องของความดี ที่สักวันแล้วก็คงจะได้ดี เช่นกันกับเรื่องของน้ำหวาน ที่ไม่นานหรอกครับ แล้วมันอาจจะหวานเกินไปเสียด้วยซ้ำ 9. น่าน เนิบ เนิบเพลงสุดท้ายกันแล้วนะครับ สำหรับเพลงนี้ผมอยากจะยกเนื้อมาใส่ทั้งเพลงเลย แต่เก็บไว้ให้กดเข้าไปลองฟังกันเองคงดีกว่า และคงจะยิ่งได้อารมณ์เพลงมากๆ หากวันที่เราเปิดฟังเพลงนี้ เรากำลังเดินเล่นช้าๆ อยู่ในจังหวัดน่านจริงๆ (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่อยู่แล้วจะฟังไม่ได้อารมณ์นะครับ)" สบายดีไหมค่อยเป็นค่อยไปอะไรก็ดูดีอยู่ต่อได้ไหมได้พักอีกวันก็คงจะยิ่งดี "คงจะดีนะครับถ้าชีวิตเราไม่ต้องเร่งรีบอะไร แต่เพราะอะไรกันเราถึงต้องเร่งรีบขนาดนั้นกัน เราไม่มีเวลามากพอจริงๆ หรือครับ? ผมอยากให้เราลองคิดดูในระหว่างที่ฟังเพลงนี้ไปด้วย ถามตัวเองดูว่าการที่เรากำลังเร่งรีบที่จะทำอะไรบางอย่างนั้น มันเป็นเพราะสิ่งนั้นมันสำคัญจริงๆ หรือเราแค่ต้องการแข่งขันกับใคร หรือแข่งขันกับอะไรอยู่หรือไม่ ถ้าหากเป็นอย่างหลังล่ะก็ ลองหยุดพักสักนิดไหมครับ บางทีนั่นอาจเป็นสิ่งที่เราต้องการที่สุดจริงๆ ก็ได้ สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะ 9 เพลงนี้ หรือเพลงไหนๆ จะเพิ่มหรือเติมเต็มกำลังใจได้สักเท่าไร มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เพลงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ อาจจะใช่ที่เสียงเพลงมีผลต่อความคิด ความรู้สึกของเรา แต่สิ่งสำคัญก็ยังคงเป็นตัวเราเองอยู่ดี ที่จะวิเคราะห์และตีความสารที่เพลงเหล่านั้นถ่ายทอดออกมาแบบไหนและสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะฝากไว้ก่อนคุณจะปิดเนื้อหาเหล่านี้ไป ผมอยากให้ลองดูนะครับ ลองเปลี่ยนแนวเพลงที่ฟังดูเสียใหม่ เพลงเศร้าที่ฟังแล้วมันตรงกับความรู้สึกเรา เพลงของคนผิดหวังที่ฟังแล้วคล้ายว่าจะมาจากชีวิตเรา ลองเปลี่ยนไปฟังเพลงเพราะๆ ที่มีเนื้อหาดีๆ แม้บางทีมันอาจจะไม่ตรงกับใจของเราดูนะครับ และบางทีคุณอาจจะลืมเรื่องราวความเศร้าเหล่านั้นได้จริงๆ เสียที.......ขอบคุณ และ สวัสดีครับ