มันคือเสียงกีต้าร์ฟลามิงโก ที่กำลังปลอบประโลมความเศร้าของการอยู่โดดเดี่ยวถ้าใครกำลังเศร้าหนักๆ หรือกำลังเบื่อในช่วงเวลากักตัว ผู้เขียนแนะนำลองหาเพลง Alone again (Naturally) มาฟัง บทเพลงยุค70 ของ Gilbert O’Sullivan ที่เคยดังในอดีต (แต่ผู้เขียนก็เกิดทันในยุคที่เพลงนี้ดังนะ) ผู้เขียนรู้จักบทเพลงนี้ผ่านรุ่นพี่นักดนตรีคนหนึ่งที่เคยร่วมงานกัน ครั้งสมัยที่ยังเป็นนักดนตรี ได้แนะนำเกี่ยวกับเพลงที่จะใช้เล่นด้วยกัน แต่เนื่องด้วยยุคนั้นรสนิยมการฟังเพลงของตัวผู้เขียนนั้น เน้นไปทางแนวที่เป็น ร็อค บลูส์ หรือโฟล์ค เป็นส่วนใหญ่จึงไม่ได้สนใจเพลงนี้ ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ไม่เปิดใจเป็นอย่างมาก เมื่อเวลาผ่านไปลักษณะการฟังเพลงของทุกคนย่อมเปลี่ยนไป ลองสังเกตเพลงที่เราชอบตอนนี้กับเมื่อ 5 ปีที่แล้วดูก็ได้ จึงรู้สึกชอบเพลงนี้ทั้งแง่ของดนตรี และเนื้อหาของเพลงเพลง Alone again (Naturally) ในยุคนั้นเป็นเพลงที่สามารถขายได้ถึง 2 ล้านก็อปปี้ ใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ ถือเป็นเพลงที่ขายดีมากในปีนั้นจะเป็นรองแค่เพลง American Pie ของ Don Mclean เท่านั้น เพลงนี้ผู้เขียนเองก็ชอบเช่นกันเนื้อหายาวมาก ในที่นี้ผู้เขียนของเล่าแค่ Alone again (Naturally) ก่อนแล้วกันGilbert ได้เล่าถึง ชายคนหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตัว Gilbert เอง กำลังจะฆ่าตัวตายด้วยการโดดลงจากหอคอย แถวๆโบสถ์ ซึ้งอาจจะโดนคนรักบอกเลิกไป เป็นข้อสันนิฐานก่อนก็เดินจากไปโดยไม่สนใจของผู้คนแถวนั้นเขาได้นึกย้อนกลับไปเมื่อวันวาน ในช่วงที่ชีวิตมีความสุข และมีความหวังมากกว่าตอนนี้ แต่เมื่อได้รู้ความจริงจากอะไรบางอย่าง โดยไม่ทันตั้งตัวก็ชีวิตก็พังโดยไม่มีชิ้นดี( ความจริงจากอะไรบางอย่างผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้เขาอกหัก ในเพลงไม่ได้พูดถึงรายละเอียด) และบอกกับพระเจ้า ว่าตอนนี้ควรคงมาได้แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวในท่อนแยกก่อนเข้าท่อนโซโล่ Gilbert เหมือนกับคิดได้ว่า แท้จริงแล้วไม่ใช่มีเพียงเราที่ต้องโดดเดี่ยว และหัวใจแตกสลายจากการสูญเสียความรักไป แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังอย่างไรหลังจบท่อนนี้ก็เป็นท่อนโซโล่ของเครื่องดนตรี ในเพลงเลือกใช้กีต้าร์คลาสสิค เล่นให้ได้กลิ่นอายเพลงฟลามิงโก ของชาว Mexican ทำให้รู้สึกสดใสขึ้นแม้เนื้อหาเพลงจะเศร้าขนาดไหนก็ตาม เพราะแนวฟลามิงโก เป็นแนวดนตรีที่เน้นความสนุกสนานอยู่แล้วก่อนจะปิดท้ายด้วยท่อนสุดเศร้าของเพลง โดย Gilbert ได้เล่าถึงตอนพ่อของเขาเสียชีวิต เขาเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย และแม่ของเขาไม่อาจทำใจได้ จากการสูญเสียชายผู้เป็นที่รักเพียงหนึ่งเดียวไป แม่เขาก็ยังใช้ชีวิตไปโดยไม่สามารถออกจากความเศร้านั้นได้ โดยมีชีวิตอย่างคนหัวใจแตกสลาย แม้เขาพยายามปลอบแต่แม่ของเขาก็ไม่พูดจาอะไรอีก ไม่นานแม่เขาก็เสียชีวิตตามไป เขาร้องให้อยู่ทั้งวันทั้งคืน แล้วจึงเข้าใจการโดดเดี่ยว จะมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นเรื่องธรรมชาติทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนต่อเพลงนี้ จึงอยากแบ่งปันให้ผู้อ่านได้ฟังด้วย เพลงนี้ถือเป็นแพลงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน แต่คนยุคปัจจุบันก็อาจจะไม่เคยฟังเพลงนี้ ถือเป็นเพลงแก้เบื่อในยามกักตัวก็ได้ ทุกคนล้วนโดดเดี่ยว เราไม่อาจจะคาดเดาอะไรได้จากข่วงนี้จึงให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคระบาดนี้นะครับคลิปเพลง https://www.youtube.com/watch?v=D_P-v1BVQn8ภาพจาก unsplash.com