บอกได้เลยว่านี้ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งของเกาหลีที่คนไทยนิยมไปกันซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เริ่มแรกด้วยการเดินทางเลยแล้วกัน ตัวเราเองเดินทางด้วยระบบรถไฟใต้ดิน การที่เราจะเดินทางไปถึงสวนAnynag นั้นบอกได้เลยว่าวุ่นวายมากเพราะว่าเกาหลีมีสายรถไฟใต้ดินทั้งหมด20สาย!!! ซึ่งจุดหมายปลายทางของเรานั้นได้มีความซับซ้อนในการเปลี่ยนสายรถไฟใต้ดินอยู่พอสมควร ทำให้ตัวเราเองเกิดอาการหลงครับ คุณเคยได้ยินคำว่านั่งผิดชีวิตเปลี่ยนไหมครับ โอ้โห้ผิดไปยาวๆหลายสถานีเลยทีเดียว แต่ยังดีที่เราไหวตัวได้ทันกลับลำได้ถูกจนมาถึงสถานีที่ตั้งไว้ได้ตามที่ควร พอลงจากสถานีแล้วเราก็ต้องเดินทางต่อด้วยแท๊กซีเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางของเรานั้นเองแถมเรายังโชคดีเจอลุงแท๊กซี่มีน้ำใจ เพราะปกติแล้วกฎแท๊กซี่เกาหลีนั้นรับผู้โดยสารสูงสุดแค่4คน แต่แก๊งเพื่อนสาวเราไปกันทั้งหมด5คน คุณลุงแท๊กซี่ก็ยังใจดีมีน้ำใจยอมให้เรานั่งไปหมดในคันเดียวตอนนั้นในใจเราคือยกนิ้วให้เลย หุหุ และแล้วในที่สุดเราก็ได้มาถึงจุดหมายของเราสักที บอกก่อนเลยว่ามันกว้างมากที่นี้เป็นสวนสาธารณะที่มีงานศิลปะมาตั้งโชว์ไว้เป็นจุดๆภายในสวนแห่งนี้ กิจกรรมหลักๆของคนเกาหลี เราว่าเขาเน้นมาเดินป่าสัมผัสธรรมชาติซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเราๆก็จะเน้นมาถ่ายรูปและเก็บบรรยากาศ ความจริงแล้วที่นี้มีจุดประชาสัมพันธ์ที่เอาไว้แจกแผนที่ด้วยนะและความคลูของที่นี้อีกหนึ่งอย่างคือมีแผนที่ภาษาไทยด้วยจร้าา ที่แรกที่เราไปเลยคืออุโมงค์ Linear Building Up In The Trees เป็นอุโมงค์ที่มีหลังคาโปร่งแสงสีฟ้าสุดปลายอุโมงค์จะเป็นลานกิจกรรม ที่นั่งและทางเดินที่ทำเป็นรูปคลื่นบันไดไต่ระดับสวยงามมากจริงๆ และอย่างที่บอกสวนของเขากว้างมากๆเราเดินตั้งแต่จุดประชาสัมพันธ์ไปที่อุโมงค์ระยะทางคือไกลเป็นกิโลเลยก็ว่าได้โชคยังดีที่เราไปหน้าฤดูใบไม้ผลิอากาศเย็นสบาย เดินชิวๆเลยแต่ก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่ แต่พอได้เห็นอุโมงค์แล้วก็หายเหนื่อยอยู่น่าาา แก๊งเพื่อนสาวถูกใจสิ่งนี้ถ่ายรูปกันรัวๆเลยก็ว่าได้ น่าเสียดายที่เราเก็บรูปได้เพียงแค่ไม่กี่จุดก็อย่างที่บอกแหละความไปเป็นแก๊งเพื่อนสาวก็จะมีความนานเกิดขึ้นในการถ่ายรูปนั้นเองบวกกับว่าเราหลงกับรถไฟใต้ดินอยู่พอสมควรทำให้กว่าเราจะไปถึงที่สวนคือเกือบจะเย็นมากแล้ว น่าเสียดายมากๆแต่ไม่เป็นไร เราตั้งใจว่าเราจะต้องมาซ้ำเพื่อเก็บรูปให้ครบอีกแน่นอน