เวียดนามถือเป็นประเทศสุดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องด้วยการเดินทางที่สะดวก อากาศที่ดี ค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง ทำให้เวียดนามเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปตลอดทั้งปี ดานังเป็นเมืองท่าติดทะเลขนาดใหญ่ มีชายหาดขาวทอดยาวที่สำคัญของเวียดนาม นอกจากนั้นยังรอบล้อมด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่ ประกอบกับเป็นแหล่งวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ พร้อมด้วยอาหารคาวหวานที่ใครมาต้องติดใจ การเดินทางนั้นถือว่าสะดวกมาก ใช้ระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพ หรือใครที่ต้องการความท้าทายสามารถนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพ มาต่อรถข้ามไปประเทศลาวที่จังหวัดมุกดาหาร และนั่งรถทัวร์จากลาวข้ามไปเวียดนาม ส่วนการเดินทางภายในประเทศก็มีทั้งเครื่องบิน รถไฟ รถตู้ หรือแม้แต่เช่ามอเตอร์ไซค์ขับก็ย่อมได้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่บานาฮิลล์ ดินแดนในฝันบนยอดเขาที่เมืองท่าแห่งนี้ บานาฮิลล์ หรือ Bana Hills ตั้งอยู่ในเขต Hoa Ninh เมืองดานัง ปราสาทในฝันสไตส์ยุโรป ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ซึ่งเราก็ได้เช่ามอเตอร์ไซค์ขับขึ้นเขาไป ทางค่อนข้างซิกแซกเป็นทางลาดชันไต่ขึ้นเขา พอถึงจุดจอดรถ เราต้องนั่งกระเช้าต่อไปยังดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ ความพิเศษของกระเช้าลอยฟ้าที่บานาฮิลล์คือเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก และเป็นกระเช้าแบบรางเดียวที่ไม่มีการหยุดพักระหว่างทาง ซึ่งเค้าไม่ได้พูดปากเปล่า เพราะสถิตินี้ได้ถูกกินเนสบุ๊กบันทึกไว้ ด้วยความยาวเกือบ 6,000 เมตร เมื่อมองไปนอกกระเช้า จะเห็นเทือกเขาลำเนาไพ ที่ปกคลุมด้วยหมอกสีขาว เหมือนเราลอยอยู่บนก้อนเมฆเลยทีเดียว ใครกลัวความสูง อาจะรู้สึกวาดเสียว แต่กระเช้าลอยฟ้าแห่งนี้มีการตรวจสอบความแข็งแรงตลอดเวลา มั่นใจได้ว่าไม่มีร่วงแน่นอน เมื่อนั่งไปสักพัก เบื้องหน้าเราจะเห็นเป็นปราสาท ประดุจว่าเราเป็นเจ้าหญิงที่นั่งรถฟักทองไปยังปราสาทเจ้าชาย บานาฮิลล์ แต่แรกเริ่มเดิมทีเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวฝรั่งเศส ที่มาอาศัยอยู่ในเวียดนาม ณ ขณะนั้น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนั้น (ประมาณค.ศ. 1945) ก็ได้เดินทางกลับประเทศของตนเอง ทำให้สถานที่พักผ่อนแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง จนในปี 2009 หรือเมื่อ 11 ปีที่แล้ว สถานที่แห่งนี้ได้ถูกบูรณะฟื้นฟู และปรับปรุงจนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษที่ให้เห็นกันในปัจจุบัน ส่วนค่าตั๋วสำหรับกระเช้านี่ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ซึ่งอยู่ที่ VND 700,000 ประมาณ 900 บาท เป็นราคาที่รวมทั้งไปและกลับ รวมทั้งเป็นราคาที่รวมค่าเครื่องเล่นภายในปราสาทแห่งนี้ ซึ่งถือความจ่ายครั้งเดียวได้ความสนุกแบบจุใจกันเลยทีเดียว ความประทับใจแรกเมื่อเท้าได้สัมผัสพื้นของปราสาทแห่งนี้คือ ภาพเบื้องหน้าที่ไม่คุ้นตา ที่ประกอบด้วยสวนดอกไม้ ปราสาทที่ตั้งตระการตาอยู่ด้านหน้า อากาศที่เย็นสบาย มีก้อนเมฆหรือหมอกปกคลุม บานาฮิลล์ไม่ได้มีแค่ปราสาทเท่านั้น ภายในมีสถาปัตยกรรมและกิจกรรมให้เราทำมากมาย อาทิ สวนดอกไม้กลางหุบเขา ที่ประกอบด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ หลากหลายสีสันชวนให้มอง, หมู่บ้านฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศส ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรปในราคาที่ย่อมเยาว์ ทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก โบสถ์ ร้านขายของที่ระลึก หรือถ้าใครอยากพักที่หมู่บ้านฝรั่งเศสแห่งนี้ก็ย่อมได้ โดยมีโรงแรมที่ชื่อว่า Mercure Bana hills French Village ให้การรับรองอยู่ ใครอยากได้ฟิลลิ่งในยามค่ำคืนสามารถพัก เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามค่ำได้ ใครสายบุญที่นี่ก็มีวัดให้เข้าไปแวะเวียน ขอพร ขอโชค ขอลาภ อาทิ Linh Chua linh Tu Temple วัดจีนที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาและหมอกขาว, Linh Ung Pagoda ศาลเจ้าจีน มีพระพุทธรูปขาวขนาดใหญ่ ให้ไหว้ขอพรสักการะ, Tombstone Temples วัดนิกายเซนที่ไม่ได้พบเห็นบ่อย ๆ ที่ประเทศไทย, Linh Phong Tu Temple เจดีย์จีนสูง 9 ชั้น ที่ประกอบด้วยระฆัง 4 ด้าน ใครกลัวความสูงก็สามารถชมความสวยงามจากด้านล่างได้ สำหรับสายหรรษา สายบันเทิง บานาฮิลล์ ก็มีสวนสนุก (Fantasy Park) ให้เด็ก ๆ และนักท่องเที่ยวได้สนุกสุดเหวี่ยงกัน มีทั้งตู้เกมส์, ที่มีความสูงถึง 29 เมตร ที่พร้อมทิ้งดิ่งกระชากความเสียวของผู้เล่น, Alpine Coaster เครื่องเล่นที่คล้ายรถราง ที่ผู้เล่นสามารถปรับระดับความเร็วได้ด้วยเท้าของตัวเอง ไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะยังมีชิงช้าสวรรค์แบบกังหันลม, Jurassic Park และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม พร้อมด้วยมุมถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวสายแชะภาพ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง นั้นก็คือสะพานลอยฟ้า (Golden Bridge) เป็นสะพานที่เพิ่งสร้างขึ้น มีระยะทางทั้งหมด 150 เมตร สูง 1,400 เมตร ลักษณะของสะพานแห่งนี้คือ อุ้งมือยักษ์ที่โผล่ขึ้นมาโอ้มอุ้มสะพานให้เราได้เดิน เมื่อมองออกไปจะเห็นภาพธรรมชาติในแนวกว้างให้ความรู้สึกเดินวิมานสวรรค์ก็ไม่ปาน ใครต้องการไปเที่ยวสถานที่สไตส์ยุโรปในงบประหยัดแถมเดินทางสะดวก ต้องมาแวะเวียนที่บานาฮิลล์ ปราสาทในฝันแห่งนี้ เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียนและ Photo by Le Porcs on Unsplash Photo by Ralf Skirr on Unsplash Photo by Jordan Opel on Unsplash Photo by Tu Nguyen on Unsplash Photo by Pham Yen on Unsplash