สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านด้วยนะครับ ผม Kakommz และที่สำคัญยิ่ง นี่คือบทความแรกในปี พ.ศ. 2565 ในช่อง Kakommz อีกด้วยครับ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขออนุญาตเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยหนังสือที่ดีเยี่ยมที่จะช่วยให้ทุกคน กลับมา "มีความสุข" อีกครั้ง ด้วยหนังสือที่มีชื่อว่า "โตขึ้นมาเป็นความสุข" เขียนโดยคุณ คิดมาก นักเขียนมากความสามารถที่ผมเชื่อว่าหลายท่านอาจจะรู้จักนักเขียนท่านนี้มามากพอสมควรต้องเกริ่นก่อนครับว่า หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ว่าด้วยการสร้างความสุขจากสิ่งต่างๆ รอบตัวที่พบเจอผ่านมุมมองของคุณ คิดมาก ด้วยภาษาที่เรียบง่าย สละสลวย แต่แฝงไปด้วยความลึกซึ้งของคุณ คิดมาก ที่เข้าใจ "ความสุข" ได้อย่างถ่องแท้ครับในวันนี้ ผม Kakommz จึงขอรีวิวเนื้อหาบางส่วนที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ และขออนุญาตใส่ความคิดเห็นส่วนตัวประกอบเนื้อหาเพิ่มเติมอีกด้วย และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารับชมการโตขึ้นมาเป็นความสุขพร้อมกันได้ ณ บัดนี้ครับสุขภาพที่แข็งแรง คือความสุขที่สุดคุณคิดมาก ได้นำเสนอถึงมุมมองของความสุขที่น่าสนใจ จนตัวของผมอยากนำหัวข้อนี้มาเล่าให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับชมครับโดยในเรื้องนี้ คุณคิดมาก ได้เปรยมาหนึ่งคำถามครับว่า ความสุขที่สุดของคนเราคืออะไร? บ้างก็บอกว่า ความสุขคือการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรือความสุขคือโชคลาภที่จะได้รับ แต่ส่วนตัวของคุณคิดมาก นั้น มองว่าสุขภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ เพราะเนื่องจากมีครั้งหนึ่งที่คุณคิดมาก เจ็บป่วยจนต้องอยู่โรงพยาบาลร่วมสัปดาห์ จนทำให้เมื่อหายป่วยดีแล้ว คุณคิดมาก จึงได้พิจารณาตัวเองและค้นพบว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้คนเราเป็นทุกข์ได้เท่าความป่วยไข้ครับตัวของผมเองก็เห็นด้วยเช่นกัน เพราะมีอยู่สถานการณ์หนึ่งที่ไม่ต้องเจ็บป่วยก็ได้ แต่ก็สร้างความทุกข์ได้พอกันในการดำรงชีวิต ก็คงไม่พ้นอาการเจ็บปากเพราะร้อนในครับ ถ้าใครเกิดอาการนี้ขึ้น รับรองว่าช่วงเวลานั้น คุณจะรับประทานอาหารไม่สะดวกเลย เพราะอาหารทุกคำที่เราเคี้ยว ก็จะผ่านแผลร้อนในนั้นๆ ซึ่ง "มันแสบมาก" ครับเช่นเดียวกันกับร่างกายของทุกคน หากใช้แล้ว ก็ต้องดูแลรักษาให้ดีด้วยเช่นกัน เพราะร่างกายของเราเป็นของเรา เราจะต้องใช้ร่างกายนี้ไปตราบจนกว่าจะสิ้นลม และถ้าหากคุณไม่ดูแลร่างกายของคุณ แล้วใครจะดูแลได้ล่ะครับ?เจ้านายไม่ใช่ (แค่) หัวหน้า แต่เขา (อาจ) คือครูของเราในชีวิตเราจะเจอหัวหน้ากี่คนหรือกี่แบบ เราก็ไม่อาจทราบได้ คุณคิดมากก็เช่นกัน ในชีวิตการทำงานของคุณคิดมากนั้น พบเจอหัวหน้ามาไม่ต่ำกว่าห้าคน และเจ้านายของเขาก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นทหาร ที่มีความเข้มงวดและเต็มไปด้วยวินัย บางคนก็อาจให้ความรู้สึกเหมือนบวชเรียน เพราะอาจมีการสอนสอดแทรกเกี่ยวกับเรื่องของธรรมะเสมอส่วนตัวผมเองก็ยังไม่เคยได้ทำงานอย่างจริงจังสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยงานของครอบครัวสักมากกว่าครับ แต่อย่างไรก็ดี ผมเองก็คิดว่าอาจจะมีความรู้สึกคล้ายคลึงกับคุณคิดมาก ที่ว่าทั้งหัวหน้างานของเขา และครอบครัวที่คอยชี้แนะการทำงานต่างๆ ของตัวผมเอง ต่างก็เปรียบเสมือน "ครู" ของเราครับ เพราะท่านต่างสอนสิ่งต่างๆ ที่เป็นวิชาในการทำงาน ในการดำรงชีพ และทำให้เรา "เรียนรู้" สิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้นแล้วผู้อ่านทุกท่าน พบหัวหน้า (หรือครู) แบบไหนกันบ้าง สามารถเล่าให้รับชมตรงคอมเมนต์ได้นะครับ ผม Kakommz พร้อมรับชมเสมอครับจงทำงานที่เหมือนเขาจ้างเราไปเรียนตอนผมเห็นชื่อของบทนี้ ต้องยอมรับครับว่าผมสงสัย ว่าตัวเราจะต้องทำยังไงถึงจะรู้สึกให้ตัวของเราทำงานแล้วเหมือนจ้างเราไปเรียน เพราะถ้าเราทำงาน เราก็ต้องใช้พลังกายของเราทำงานให้เต็มที่เพื่อที่จะ "หาเงิน" ให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าเราเรียน เราก็ต้องตั้งใจเรียนเพื่อที่จะทำให้เราได้ความรู้มากที่สุด แต่เราก็ต้อง "ใช้เงิน" เพื่อแลกกับความรู้ ซึ่งในตอนแรก ความคิดของผมรู้สึกขัดแย้งกันมากๆ แต่ในที่สุดผมก็รู้คำตอบครับโดยคุณคิดมาก ได้มอบทัศนคติที่ดีมากสิ่งหนึ่งนั่นคือ "การปรับความคิดของเราเอง" ครับ เพราะถ้าเรามองและคิดที่จะเรียนรู้ การทำงานในแต่ละวันของเรานั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรามาเรียนหนังสือ โดยได้รับรายได้จากการเรียนนั้นไปด้วยสั้นๆ แต่ได้ใจความ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นที่จะ "ปรับความคิด" ของเรานั่นเองครับการอยู่คนเดียวเป็นสิ่งจำเป็นในบทนี้คุณคิดมาก อยากให้ผู้อ่านทุกท่าน (รวมถึงตัวของผม) ลอง "อยู่คนเดียว" บ้างครับ แต่การอยู่คนเดียวในที่นี้ ไม่ใช่การปลีกวิเวกแต่อย่างใด หากแต่เป็นการหาช่วงเวลาสัก 1-2 ชั่วโมง ลองอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบสำหรับตัวของเรา ปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดและอยู่คนเดียวครับ เพราะการอยู่คนเดียวบ้าง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและจะทำให้เราสามารถกลับมาทบทวนตัวเอง ได้ฟังเสียงของตัวเองอย่างแท้จริงอีกครั้งแน่นอนอย่าลืมหาเวลาสัก 1-2 ชั่วโมง ลองอยู่คนเดียวบ้างก็จะดีมากๆ นะครับหวังว่าการรีวิวหนังสือ "โตขึ้นมาเป็นความสุข" ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ให้ผู้อ่านที่น่ารัก ค้นหาความสุขได้เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับสุดท้ายนี้ ผม Kakommz ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับ Book Review By Kakommz ครั้งหน้า สำหรับวันนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุข และถือโอกาสนี้ สวัสดีปีใหม่ 2565 ครับAbout Factชื่อหนังสือ : โตขึ้นมาเป็นความสุขผู้เขียน : คิดมาก (นามปากกา)ราคา : 225 บาทหมวดหมู่ : วรรณกรรมร่วมสมัยสำนักพิมพ์ : springbooksเครดิตภาพภาพหน้าปกโดยผู้เขียนขอขอบคุณภาพประกอบจาก PIXABAYภาพสุขภาพที่ดี (ตัวอย่างประกอบ) โดย renategranade0ภาพหัวหน้า (ตัวอย่างประกอบ) โดย freevectorsnetภาพทำงานให้เหมือนเรียนหนังสือ (ตัวอย่างประกอบ) โดย StartupStockPhotosภาพอยู่คนเดียว (ตัวอย่างประกอบ) โดย Pexelsภาพหนังสือ โตขึ้นมาเป็นความสุข ถ่ายรูปโดยผู้เขียนบทความ Book Review อื่นๆ ที่น่าสนใจของผู้เขียนBook Review By Kakommz : เป็นเราคือพิเศษReview Book : โลกนี้สอนให้รู้ว่า...อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !