[Book Review] คำพิพากษา : สมทรง ดอกไม้ วรรณกรรม นวนิยายเรื่อง คำพิพากษา ของชาติ กอบจิตติ ที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน พ.ศ. 2525 ถือเป็นนวนิยายสะท้อนสังคมที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาผลิตซ้ำในสื่อการแสดง และวงการวิจารณ์แขนงต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย สาเหตุเนื่องมาจากความลุ่มลึกของเนื้อหาที่อธิบายถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างถึงแก่น อีกทั้งสามารถนำมาเปรียบเทียบเสียดสีกับผู้คนในสังคมได้ทุกระดับชั้น ชื่อเรื่อง ‘คำพิพากษา’ ได้บอกเล่าถึงแก่นสำคัญของเรื่องราวทั้งหมด คำพูด พลังแห่งถ้อยคำ ล้วนกำหนดชีวิตและความเป็นไปของผู้คนให้ขึ้นสู่จุดสูงสุดและรวมถึงการตกต่ำจนถึงแก่ความตาย ดังเช่นตัวละคร ‘ไอ้ฟัก’ ในเรื่องที่ชีวิตต้องตกอยู่ในกระแสธารแห่งคำพิพากษาที่ไร้รูปร่าง แต่กลับทรงพลัง สร้างแผลใจในชีวิตให้อย่างไม่มีทางลบเลือนไปจนชั่วกาลนานตัวละครที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้อีกบุคคลหนึ่งนั่นคือ ‘สมทรง’ หากฟังด้วยหูของคนยุคสมัยนี้ ชื่อของสมทรงคงจะฟังดูเชยสะบัด แต่สำหรับยุคเก่าก่อน สมทรงคงจะเป็นชื่อที่ทันสมัย บ่งบอกถึงรูปร่างหน้าตาอันงดงามของเจ้าของชื่อได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาเป็นความจริงทั้งหมดสำหรับหญิงสาวที่ชื่อสมทรงในเรื่อง คำพิพากษา แต่ความสวยงามทั้งหมดถูกกลบทับไปหมดสิ้นด้วยความแปลกแยกของหญิงสาวที่ชื่อสมทรง หรือกล่าวให้ชัดเจนคือ หญิงสาวเป็นคนสติไม่สมประกอบ ถึงพร้อมบริบูรณ์ด้วยคำนิยามแห่งคนบ้าที่ชาวบ้านทั่วไปสามารถวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องเรียนจบหมอ ดังนั้น ภาพของสมทรงที่ปรากฏในเรื่องจึงเป็นตัวละครหญิงที่เป็นเพียงตัวละครที่โดดเด่นตัวละครหนึ่ง จะใช้คำว่านางเอกของเรื่องก็ดูจะขัดกับมายาคติในเรื่องของนางเอกนิยายหลาย ๆ เรื่อง ที่ต้องถึงพร้อมด้วยคุณความดีบางอย่าง ที่สำคัญอีกประการคือต้อง ‘ไม่เป็นบ้า’ อย่างที่สมทรงเป็นในเรื่องอย่างแน่นอนสมทรง ความเป็นนางเอก และความเป็นหญิงที่ปรากฏในเรื่อง เสมือนถูกกดทับด้วยลักษณะความแปลกแยกที่แสดงออกมา เธอไม่ใช่ฉัน และฉันไม่ใช่เธอ เป็นสิ่งที่คนรอบข้างแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกัน ให้คำจำกัดความแก่สมทรง เมื่อคุณค่าความเป็นผู้หญิงในแง่มายาคติถูกลดลงด้วยความวิกลจริตของตัวสมทรง สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในสายตาของผู้คนคือ คุณค่าความเป็นหญิงในแง่ของ ‘ดอกไม้’ ผู้หญิงกับความหมายถึงดอกไม้นั้น มีทั้งด้านที่ถูกกล่าวเปรียบถึงเรื่องดีงาม และในทางกลับกันก็หมายถึงการลดทอนคุณค่าความเป็นหญิงด้วยเช่นกัน สมทรงในเรื่อง คำพิพากษา ก็ดูจะเป็นลักษณะเช่นนั้น เมื่อคุณค่าแห่งการเป็นหญิงที่ดีงามของสมทรงถูกมองข้ามไป หลงเหลือแต่ความงามแบบฉบับดอกไม้ นั่นคือการสร้างความชอบธรรมบางประการให้เกิดกับสายตา การกระทำ ที่คนรอบตัวคิดและตัดสินสมทรงเป็นคุณคุณจะทำสิ่งใดกับดอกไม้ ? การจะเด็ด ดึง ชื่นชม ดมกลิ่น นั่นเป็นการกระทำปรกติที่เวลาเราเห็นดอกไม้สวยก็ใคร่อยากจะเด็ดดมชมกลิ่นเป็นปรกติธรรมดา คุณค่าความงามของดอกไม้จึงมิใช่แง่ของการเด็ดดอมมาถนอมกล่อมเกลี้ยง แต่เป็นเรื่องของความปรารถนาในบางคราว ที่เมื่อดอกไม้สิ้นสดหมดสี เราทุกคนสามารถทอดทิ้งมันไปได้อย่างรวดเร็วทันทีทันใด ยิ่งเป็นดอกไม้ที่สวยสดสีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ภาพแทนของสมทรงอันมีภายในที่กลวงเปล่า ผู้คนจะมองดอกไม้ดอกนี้เพราะความสวยอันเป็นเปลือกนอก แต่กลับคิดลึกซึ้งถึงคุณค่าของสมทรงในแบบฉบับดอกไม้ มองเป็นสิ่งสนองตัณหาอารมณ์ แต่ไม่อาจนำมาทัดหูประดับแจกัน เพราะความเป็นหญิงในแบบมายาคติไม่มีค่าให้มองเห็นในตัวหญิงบ้าผู้นี้เราไม่รู้ภูมิหลังของตัวละครสมทรงคนนี้ที่ปรากฏตัวเป็นส่วนหนึ่งของโศกนาฏกรรมของไอ้ฟักในเรื่อง ว่าหญิงสาวผู้นี้ประสบชะตากรรมใดจึงกลายเป็นบุคคลชายขอบ แม้เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง แต่กลับถูกเลือกปฏิบัติในฐานะวัตถุทางเพศ(ในที่นี้เปรียบกับดอกไม้)มากกว่าหญิงสาวที่มีคุณค่าในความเป็นแม่และความเป็นเมีย แต่ลักษณะของสมทรงนั้นปรากฏซึ่งความวิกลจริตเสียแล้วเมื่อแรกเปิดตัวมาในเรื่อง ในแง่ของจิตวิทยา สมทรงมีลักษณะของผู้ป่วยที่หลีกหนีความทรงจำจากเรื่องราวความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายถึง ถลำลึกอย่างไม่อาจถอนตัวจากโลกของการหลีกหนี ในที่นี้คือโลกของวรรณกรรมหรือศิลปะที่สร้างสรรค์ด้วยน้ำมือมนุษย์ สมทรงชอบร้องรำ เล่นลิเก อันสะท้อนค่านิยมความบันเทิงของผู้คนสมัยก่อน ในแง่มุมความบ้าของสมทรง ยังคงสะท้อนโลกของความเป็นวรรณกรรม ที่มีพละกำลังในฐานะเครื่องประโลมจิตใจให้คลายเศร้าหมองจากโลกแห่งความเป็นจริงในนวนิยายเรื่อง คำพิพากษา มิได้ให้รายละเอียดในเรื่องของโลกความเป็นจริงของสมทรงเท่ากับเรื่องราวความเป็นมาของฟัก ตัวละครเอกชาย แต่เชื่อว่าชีวิตในโลกความเป็นจริงของสมทรง ก่อนที่จะหลีกหนีเข้าสู่โลกแห่งวรรณกรรมความสุขสมหวัง คงจะเต็มไปด้วย ‘ถ้อยคำพิพากษา’ ที่โหดร้าย ไม่ต่างจากที่ฟักต้องเผชิญ ทั้งสองตัวละคร นอกจากจะต้องมาผูกติดกันด้วยความสัมพันธ์แบบเครือญาติที่นำไปสู่บาปมหันต์ในสายตาเพื่อนมนุษย์ ยังต้องผูกติดกันด้วย ‘คำพิพากษา’ โดยไม่อาจตัดขาดเช่นเดียวกัน ภาพปก,ภาพที่ 1,2 โดย K.N. , ภาพ3 : Josch13 จาก Pixabay หนังสือ คำพิพากษา โดย ชาติ กอบจิตติ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 47