Brandon Ingram ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ แต่ทำไมต้นสังกัดกลับเมินการต่อสัญญาให้กับเขา เป็นเพราะสาเหตุใดกันแน่ ช่วงนี้ไวรัส Covid-19 ระบาดไปทั่วโลก ทำเอาทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ไม่เว้นแม้ในโลกกีฬา ทำเอาคนรักกีฬาอย่างเรา ๆ เหงาไปตาม ๆ กัน แทนที่จะติดตามผลการแข่งขันเหมือนปรกติ ช่วงนี้กลับต้องมาลุ้นว่านักกีฬาที่เราชื่นชอบจะติดไวรัสร้ายตัวนี้ไปด้วยหรือไม่ แถมยังต้องระวังตัวเองว่าจะติดไวรัสไปด้วยหรือเปล่า บทความนี้จะพูดถึงนักบาสเกตบอลที่น่าจับตามองอย่างมากในฤดูกาลนี้อย่าง Brandon Ingram กับต้นสังกัดนกกระทุง New Orleans Pelicans ใน ลีกบาสเก็ตบอล NBA ที่จะตามหาสาเหตุถึงการต่อสัญญาฉบับใหม่ของเขากับทีม ว่าทำไมผู้เล่นที่เปรียบเสมือนกำลังหลักของทีม กลับไม่มีท่าทีว่าทีมจะยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขาไป Brandon Ingram เป็นนักบาสเก็ตบอลที่น่าจะตามองมาตั้งแต่ในระดับมหาวิทยาลัย โดยเขาได้เล่นให้กับมหาวิทยาลัย Duke ซึ่งเป็นทีมมหาอำนาจของโลกบาสเก็ตบอลระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกา (NCAA) ด้วยรูปร่างที่สูง เร็ว เลี้ยงบอลดี และจบสกอร์ที่คม ทำให้ในปี ค.ศ.2016 Brandon Ingram ก็ได้เข้าสู่ลีกอาชีพ NBA โดยการเลือกจากทีม Los Angeles Laker ทีมที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน และแชมป์ NBA ถึง 16 สมัย ถือเป็นเส้นทางอาชีพที่สดใสของ Brandon Ingram ที่จะสานต่อตำนานของทีมแห่งนี้ต่อไป แต่เหมือนว่าหนทางการพาทีม Laker ไปให้ถึงแชมป์ เหมือนสมัยก่อนมันจะยากเกินไปสำหรับ Brandon Ingram และเพื่อนร่วมทีมในยุคที่มีผู้เล่นดาวรุ่งอยู่เต็มทีม และดูเหมือนว่าแฟนๆและผู้บริหาร ไม่ต้องการรอให้ผู้เล่นเหล่านี้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ พวกเขาต้องการความสำเร็จของทีม ทำให้ในฤดูกาลปี 2018 - 2019 ทางทีมได้เซ็นสัญญาผู้เล่นที่มีประสบการณ์ เพื่อจะมาช่วยแบกดาวรุ่งในทีมทั้ง LeBron James และ Rajon Rondo ที่เคยสัมผัสแชมป์ NBA มาแล้ว สุดท้ายฤดูกาล 2018 -2019 ทีมก็ไม่สามารถผ่านไปเล่นในรอบเพลย์ออฟได้ ทำให้ทีมต้องมีการผ่าตัดครั้งใหญ่อีกครั้ง และนี้คือการเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Brandon Ingram ที่ต้องย้ายทีมไปยังทีม New Orleans Pelicans ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน คือ Lonzo Ball และ Josh Hart โดยแลกเปลี่ยนกับผู้เล่นดราฟต์คนแรกในปี ค.ศ.2012 อย่าง Anthony Davis ทีม New Orleans Pelicans ถ้าจะให้ไปเทียบประวัติศาสตร์ หรือแชมป์กับ Los Angeles Laker คงสู้ไม่ได้เลย เพราะแฟรนไชส์ Pelicans เพิ่งจะจดทะเบียน ในปี ค.ศ. 2013 นี้เอง ผลงานที่ดีที่สุดก็คือการผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟรอบที่ 2 ของฝั่งตะวันตก แต่ทว่าการมาอยู่ทีมเล็กแบบนี้ความกดดันของ Brandon Ingram ก็แทบจะไม่มี ทำให้ Brandon Ingram สามารถโชว์ผลงานอันสุดยอดออกมาได้ โดยทำแต้มเฉลี่ยในฤดูกาลนี้ ไป 25.9 แต้มต่อเกม ทำ 7.1 รีบาวด์ต่อเกม และ 4.3 แอสซิสต์ต่อเกม ซึ่งดีกว่าฤดูกาลก่อนที่ 18.3 แต้มต่อเกม 5.1 รีบาวด์ต่อเกม และ 3.0 แอสซิสต์ต่อเกม จนเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลผู้เล่นพัฒนาการยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย และในปีนี้ก็ยังติดทีมออลสตาร์ด้วย แต่ทำไมจนถึงตอนนี้ต้นสังกัดอย่าง New Orleans Pelicans ถึงยังไม่ต่อสัญญากับ Brandon Ingram ที่เป็นทั้งความหวังของทีม ตัวสกอร์ และยังเป็นที่รักของแฟนๆทั้งในเมืองและแฟนทีมนกกระทุงในต่างแดนอย่างผมด้วย แท้จริงแล้วสาเหตุของเรื่องนี้ก็คงมาจากสุขภาพของ Brandon Ingram เองที่มีอาการหลอดเลือดดําอุดตัน (Deep Vein Thrombosis) ในปลายฤดูกาลก่อน ทำให้ทั้งทีมและตัวเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าถ้าต่อสัญญาไปแล้ว อาการเกิดขึ้นมาอีก Brandon Ingram อาจโดนลีก NBA สั่งให้เลิกเล่นเลยก็ได้เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ Chris Bosh อดีตสตาร์ของทีม Miami Heat ที่มีอาการลิ่มเลือดอุดตันเหมือนกัน ทำให้การต่อสัญญานี้ถ้าจะเป็นไปได้คงต่อรอให้จบฤดูกาลนี้ก่อน และคงต่อรอดูผลงานของทีมด้วยว่าจะจบลงอย่างไร (ถ้าสามารถกลับมาทำการแข่งขันต่อได้) ต่อจากนี้ผมจะมาวิเคราะห์ผลที่จะตามมาของเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นในกรณีที่ทีมต่อสัญญาและไม่ต่อสัญญาให้กับBrandon Ingram *** กรณีที่ทีมต่อสัญญา ถ้าทีมมีการต่อสัญญาและอาการของ Brandon Ingram ไม่กลับมาอีก หรือหายขาด ก็จะส่งผลที่ดีต่อทีมและตัวเขาเอง รวมไปถึงแฟนๆด้วย เพราะทีมก็ไม่ต้องหาตัวแทนที่จะต้องเสี่ยงว่าผลงานจะเหมือน Brandon Ingram หรือเปล่า และตัวเขาเองก็สามารถเล่นกับเพื่อนร่วมทีมได้ดีจนมีผลงานที่น่าประทับใจในปีนี้ แต่ถ้าสถานการณ์กลับกัน คือ Brandon Ingram กลับมาเป็นอีก ทางลีกก็คงสั่งให้เลิกเล่น ผลที่ตามมาคือทีมก็ต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญาไปให้ และ Brandon Ingram เขาก็คงรู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่ต้องจบอาชีพที่เขารักเร็วเกินไป *** กรณีที่ทีมไม่ต่อสัญญา แน่นอนว่าการที่ทีมและ Brandon Ingram ไม่สามารถต่อสัญญาได้ หรือทีมทำการเทรด (การแลกเปลี่ยนผู้เล่น) เขาไปทีมอื่น ซึ่งมีหลายทีมที่ให้ความสนใจอย่างมาก และถ้าได้ข้อเสนอดีๆ ทีมก็คงรับไว้ ดีกว่าแลกกับความเสี่ยงถ้า Brandon Ingram เล่นต่อไม่ได้ เพราะทีมอย่าง Pelicans ก็ไม่ใช่ทีมใหญ่อะไร จึงคงเลือกทางที่ตัวเองปลอดภัยที่สุด และคงดีกับทั้งทีม และ Brandon Ingram แต่แฟนๆก็คงเสียดายกันไปตามๆกัน ส่วนถ้า Brandon Ingram ไปอยู่กับทีมอื่นถ้าอาการกำเริบอีกก็คงจบอาชีพเหมือนกัน แต่ถ้าอาการไม่กำเริบเขาก็ต้องเสี่ยงอีกว่า ฟอร์มที่เคยร้อนแรงจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า เพราะระบบทีมต่างๆ และเพื่อนร่วมทีมที่เปลี่ยนไปก็มีผล และตอนที่เขาอยู่ Los Angeles Laker ก็คงให้คำตอบเขาชัดเจนแล้ว ไม่ใช่ว่าเราเล่นบาสเก็ตบอลเป็นแล้วจะอยู่ทีมไหนก็ได้ การอยู่ที่ Los Angeles Laker เมื่อเล่นพลาดเขามักโดนวิจารณ์ แต่พอทีมชนะมักมีคนได้หน้าเพียงคนเดียว และระบบบาสเล่นคนเดียวที่ Los Angeles Laker ทำให้เขาโดนลดค่าลงอย่างมากจากดราฟต์เบอร์ 2 ในปี 2016 ซึ่งตอนโดนเทรดเขาและเพื่อนร่วมทีมอย่าง Lonzo Ball และ Josh Hart พร้อมด้วยสิทธิ์ดราฟต์มาแลกกับ Anthony Davis เพียงคนเดียว นั่นหมายความว่าตอนนั้นเขาโดนมองว่ามีค่าน้อยกว่านักบาสร่วมลีกอีกคนอย่างชัดเจน แต่ก็เหมือนโชคชะตาพาเขามาที่ New Orleans Pelicans ทำให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองได้ และกลายเป็นคนสำคัญของทีมและแม้ตอนนี้ถึงเขาจะมีปัญหาสุขภาพ แต่ก็ยังมีหลายทีมที่ให้ความสนใจในตัวเขาอยู่ สุดท้ายเรื่องนี้จะจบอย่างไร ก็คงต้องการตัดสินใจของทั้งทีมและตัว Brandon Ingram เอง ส่วนแฟนกีฬาอย่างผมก็ได้ภาวนาให้สถานการณ์กลับมาสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว จะได้รับชม เชียร์ กีฬาที่รักกันต่อไป... #LaMalila Credit รูปภาพ ขอบคุณภาพปกจาก : www.nba.com ขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram @1ngram4 และ @pelicansnba ภาพปก /ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4