เดินทางจากเมือง Calgary โดยสายการบิน Air Canada ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ถึงเมือง Montreal ในรัฐ Quebec ซึ่งเป็นรัฐที่มีเนื้อที่มากที่สุด อยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ ต้องปรับเวลาให้เร็วขี้นอีก 2 ชั่วโมงค่ะ Montreal เป็นเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย มีตึกสูง ๆ อยู่มาก ผสมผสานกับเขตเมืองเก่า มีร้านค้าหลากหลาย และมีโบสถ์เก่าแก่ แต่ไม่ได้เดินช้อปปิ้งกัน ส่วนใหญ่ขอนั่งชมใบไม้เปลี่ยนสี แถวหน้ามหาวิหารนอร์ธเทอดัม ใบไม้ส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลือง สว่างสดใส อากาศเย็นสบายประมาณ 10 C-12 C มีนักร้องเปิดหมวก มายืนเล่นกีตาร์ และร้องเพลงไพเราะมาก ๆ ได้นั่งพักผ่อน รู้สีกผ่อนคลายจริง ๆ ค่ะ จาก Montreal นั่งรถโค้ชประมาณ 2 ชั่งโมงก็ไปถึงเมืองหลวงของประเทศ คือ Ottawa ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาที่สวยงามอยู่ริมแม่น้ำ ได้เดินชมธรรมชาติ ใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลาย และสูดอากาศบริสุทธิ์ตลอดคลองไรโด (Rideau Canal) ซึ่งเป็นคลองที่เก่าแก่เชื่อมระหว่างทะเลสาบ กับแม่น้ำ ระหว่างเมือง Ottawa กับเมือง Kingston และมี Water Lock ปรับระดับน้ำขึ้นลงเพื่อให้เรือข้ามผ่านไปมาได้ค่ะ ใกล้ ๆ กับOttawa ก็คือเมือง Kingston เดินทางไปลงเรือที่ท่าเรือ Rock Port เพื่อไปชม 1000 Islands 1000 Islands เป็นเกาะเล็ก เกาะน้อย ที่มีมากกว่า 1,000 เกาะ ตั้งกระจัดกระจายอยู่กลางแม่น้ำ St. Lawrence ระหว่างอเมริกา กับ แคนาดา คุณสมบัติที่จะนับว่าเป็นเกาะคือต้องมีบ้าน 1 หลังกับต้นไม้ 1 ต้น มีเอกชนเป็นเจ้าของ โดยจะมีธงชาติติดอยู่ที่เกาะของตัวเองทำให้ทราบว่าเจ้าของเป็นคนอเมริกัน หรือแคนาเดียน ใช้เวลาล่องเรือชมความงามของบ้านแต่ละหลังอย่างมีความสุขและตื่นเต้น ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็กลับขึ้นฝั่ง เดินทางต่ออจาก Ottawa โดยรถโค้ชประมาณ 3 ชั่งโมงครึ่ง เพื่อไปยังเป้าหมายสุดท้ายคือ Toronto Toronto เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา และเป็นเมืองหลวงของรัฐOntario เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและการพาณิชย์ แต่วัตถุประสงค์ของการไปToronto ครั้งนี้ก็คือการชมธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือน้ำตก Niagara Niagara Falls ประกอบด้วย 3 น้ำตก ที่แบ่งแยกดินแดนระหว่างอเมริกา (New York State) กับแคนาดา (Ontario State) (1) American Falls ขนาดกลาง (2) Bridal Veil Falls มีขนาดเล็กมาก (3) Canadian Falls หรือ Horseshoe Falls มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ต่อจาก Goat Island Horseshoe Falls มีนาดใหญ่ที่สุด ด้วยความกว้างประมาณ 820 เมตร และสูงประมาณ 51 เมตร ช่วงบ่ายได้ลงเรือ Hornblower Niagara Cruise หรือชื่อเดิมว่า Maid of the Mist เพื่อเข้าไปชมน้ำตกอย่างใกล้ขิด โดยทุกคนจะได้รับแจกเสื้อกันฝนให้ใส่ก่อนจะลงเรือ น่าตื่นเต้นมาก เมื่อลงเรือแล้วแนะนำให้ไปยืนบริเวณหัวเรือที่จะวิ่งเข้าไปหาน้ำตก เมื่อเรือเข้าไปใกล้น้ำตกทุกคนจะเปียกปอนด้วยละอองน้ำตกที่มีพลังมาก สนุกสนาน น่าประทับใจมากค่ะ จุดที่น่าประทับมากอีกแห่งก็คือจุดกำเนิดของ Horseshoe Falls หรือที่เรียกว่าจุดชมวิว Table Rock ได้เห็นพลังน้ำอันมหาศาลจากทะเลสาบ Ontario ตกลงสู่แม่น้ำ Niagara มากกว่าแสนแกลลอนต่อวินาที จะได้ยินเสียงตกกระทบของน้ำดังกึกก้อง และมีละอองน้ำกระจายไปทั่วบริเวณ ด้วยพลังน้ำอันมหาศาลนี้จึงเป็นแหล่งพลังงาน Hydropower ที่สำคัญของเมืองนี้ ช่วงกลางคืนก็ได้ชมความงามของ Niagara Falls อีกรูปแบบจากห้องพักที่โรงแรม Marriott Falls View Hotel & Spa น่าประทับใจมาก เขาจะส่องแสงไฟสีต่าง ๆ ไปที่ 3 น้ำตก โดยแสงสีจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ดูแล้วเพลิดเพลินดีก่อนนอนค่ะ จุดสุดท้ายสำหรับการชม Niagara Falls ของทริปนี้คือการได้ขึ้นไปทานอาหารกลางวันบนหอคอย Skylon Tower ซึ่งภัตตาคารจะหมุน 360องศาอย่างช้า ๆ ทำให้เห็นทิวทัศน์ของ Niagara Falls, Ontario Lake และตัวเมืองรอบ ๆ อย่างน่าประทับใจ รูปถ่ายโดยผู้เขียน