ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่นใครหลายคนอาจจะนึกถึง ประเทศที่มีธรรมชาติสวยสดงดงาม หรือ แหล่งวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากมายติดอันดับโลก รวมไปถึงด้านเทคโนโลยีเองก็ทันสมัย แฟชั่นการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ หรือ ตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ มากมายที่เราเคยรับชมกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นได้ดีในสายตาชาวต่างชาติ ประเทศญี่ปุ่นผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านสงคราม ผ่านปัญหาต่าง ๆ มามากมาย นั่นจึงหล่อหลอมให้ประชาชนคนญี่ปุ่นเป็นคนที่มีระเบียบวินัยที่เข้มแข็ง รู้หน้าที่ของตนเอง จริงจังกับชีวิต และ มีกฎหมายบังคับใช้ภายในประเทศอย่างเป็นระบบระเบียบโดยเฉพาะกฎหมายในการคุ้มครองเด็ก เป็นกฎหมายที่ทางการญี่ปุ่นให้ความสำคัญเป็นอย่างมากอันดับต้น ๆ ของประเทศเลย เด็ก หรือ เยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะมีกฎหมายคุ้มครองอย่างเข้มแข็ง เช่น ถ้าเด็กคนไหนก่อเหตุอาชญกรรม ไม่ว่าจะคดีใด ๆ ก็ตาม จะมีองค์กรออกมาปกป้องโดยทันที และ ส่งเด็กคนนั้นเข้าสถานพินิจสำหรับเด็ก เพื่อปลูกฝัง และ สั่งสอนให้เขาสำนึกกับความผิดต่าง ๆ ที่กระทำลงไปแล้วกลับออกมาเป็นคนใหม่ในสังคม คือถือเป็นการให้โอกาสเด็ก ๆ ทุกคนอย่างเป็นธรรม ฟังดูแล้วมันอาจจะดูดีในแง่ของกฎหมาย แต่ทว่า ถ้ามองอีกแง่มุมหนึ่งสำหรับผู้ที่ถูกกระทำ หรือ เหยื่อที่ถูกเด็ก ๆ ก่อเหตุแล้ว เขาอาจไม่ได้รู้สึกแบบนั้น รู้สึกว่ามันเป็นเป็นธรรมสักเท่าไร มีบางคดีในญี่ปุ่นที่เด็ก ๆ ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ทั้งข่มขืน ทำร้าย ฆ่าคนตาย แต่พวกเด็กเหล่านั้นก็พ้นผิดโทษแรง ๆ แทบทั้งหมดเพราะมีกฎหมายเยาวชนคุ้มครองอยู่ แล้วความเป็นธรรมสำหรับผู้สูญเสียละมันอยู่ตรงไหนกันแน่ในวันนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับหนังญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับการก่อเหตุฆ่าคนตายโดยฝีมือของเด็กแล้วกฎหมายไม่สามารถลงโทษเด็กได้ คนที่ถูกกระทำเลยลงมือแก้แค้นเด็กเสียเองอย่างแนบเนียน และ เลือดเย็นชนิดที่ว่าเด็กคนนั้นจะต้องจดจำไปจนวันตายเลยทีเดียว นั่นก็คือหนังเรื่อง Confessions Confessions คือ ภาพยนตร์แนวดราม่าสายแก้แค้นของประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2010 กำกับโดย Tetsuya Nakashima เป็นการหยิบเอาผลงานของนักเขียน Kanae Minato มาสร้างเป็นภาพยนตร์ ได้รับเสียงชื่นชม และ ได้รับรางวัลมาอย่างมากมาย และ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศอีกด้วยหนังมีการเล่าเรื่องในโทนที่ดูอึมครึมตลอดเวลา ให้อารมณ์ชวนเหงาหมดอาลัยตายอยากเป็นที่สุด ตรงนี้ใครหลายคนอาจจะไม่ชอบรู้สึกหดหู่ แต่สำหรับผมแล้วชอบมาก ๆ เลย เพราะภาพของหนังมันบิ้วอารมณ์ให้คนดูรู้สึกใจห่อเหี่ยว สลดใจ และ มีอารมณ์สีเทาปนอยู่ในใจอยู่โดยตลอดมันแลดูหดหู่ดีนะผมชอบ อีกทั้งนักแสดงนำในเรื่องอย่าง Takako Matsu ที่มารับบทเป็นครูสาวผู้เก็บกด ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเข้าถึงอารมณ์สุด ๆ ทั้งสีหน้าและแววตา เชื่อเลยว่าครูคนนี้มีปมที่เจ็บปวดฝังอยู่ในใจลึก ๆ ถึงแม้หน้าตาจะยิ้มแย้มก็ตาม ขอชื่นชมเลยครับเล่นได้สุดยอดมาก เอาบทอยู่ และ เป็นตัวละครหลักที่ทำให้หนังเรื่องนี้เข้าชิงออสการ์ได้สำเร็จ ผมว่า Takako Matsu มีส่วนช่วยได้มากเลยทีเดียว การแสดงขั้นเทพจริง ๆ โดยเฉพาะซีนที่ต้องสื่ออารมณ์ความแค้น ความเจ็บปวด แต่แสดงออกไม่ได้มันยากสุด ๆ เลยนะแต่นางก็สอบผ่าน ในเรื่องนี้ Takako Matsu ต้องรับบทเป็นครูสาวที่ต้องสูญเสียลูกไปเพราะนักเรียนในห้องของตัวเองเป็นคนฆ่า แล้วกฎหมายเยาวชนของญี่ปุ่นคุ้มครองเด็กอยู่ นางเลยทำอะไรเด็กไม่ได้ถึงแม้จะแค้นในใจอย่างมหาศาล นางเลยเลือกวิธีแก้แค้นนักเรียนของตัวเองอย่างแนบเนียนให้เด็กตายทั้งเป็นนั่นเอง ส่วนด้านนักแสดงเด็กทุกคนในเรื่องก็เล่นได้ดีทุกคน มีการต่อบทส่งอารมณ์กันไปมา บางครั้งแสดงสีหน้ากวนประสาทครูได้อย่างโรคจิต เพราะรู้ว่าครูคงทำอะไรไม่ได้ คิดว่าเป็นเด็กแล้วคงรอด แต่ก็ต้องมาตกหลุมพรางที่ครูได้วางไว้ จนทำให้เด็กบางคนเหมือนตกนรกทั้งเป็น ตรงส่วนนี้เป็นอีกส่วนที่ผมชอบมาก ๆ ครับ เด็ก ๆ เล่นดี เล่นดีเกินอายุมาก และสิ่งสุดท้ายที่ผมชอบที่สุดเลยก็คือเนื้อเรื่องโดยรวม หนังต้องการตีแผ่ให้เห็นว่ากฎหมายเยาวชนของญี่ปุ่นนั้นเข้มแข็งขนาดไหน ไม่ว่าคุณจะมีอาชีพอะไร รวย จน ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอันเดียวกันอย่างเท่าเทียม มันทำให้คนดูเห็นถึงข้อกฎหมายในสองแง่มุมที่ว่า ถ้าเด็กกระทำความผิดโดยการฆ่าคนตาย เด็กจะรอดจากการถูกลงโทษที่รุนแรง แล้วอีกด้านก็จะได้เห็นถึงความสูญเสียของฝ่ายที่ตกเป็นเหยื่อไปพร้อม ๆ กัน เอาเป็นว่าเรื่องนี้สร้างขึ้นมาส่วนหนึ่งเพื่อสะท้อนมุมมองของกฎหมายสำหรับเด็กในประเทศญี่ปุ่นนั่นแหละ ว่าเราควรจะให้โอกาสเด็กที่กระทำผิดได้แก้ตัวอีกครั้ง หรือ เราควรจะลงโทษเด็กที่กระทำผิดเทียบเท่าโทษของผู้ใหญ่ ดูแล้วย้อนดูสังคมจริงหนังให้เแง่คิดได้ดีมาก ๆ โดยหนังจะเล่าเรื่องราวของครูสาว Yuko Moriguchi ครูสาวที่สอนเด็ก ๆ ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ครูสาวคนนี้เพิ่งสูญเสียลูกของตัวเองไป เพราะนักเรียนในห้องของนางเป็นคนฆ่า แต่นางไม่สามารถเอาผิดเด็กได้เพราะหลักฐานไม่ชัดเจนประกอบกับมีกฎหมายเยาวชนคุ้มครองเด็กอยู่ ครูสาวแค้น และ เจ็บปวดในใจเป็นอย่างมาก สุดท้ายนางทนไม่ไหวเลยเลือกที่จะแก้แค้นนักเรียนที่ฆ่าลูกของตัวเองโดยการแอบฉีดเลือดของคนเป็นเอดส์ลงไปในกล่องนม แล้วเอาไปให้เด็กคนนั้นกิน พอเด็กกินไปแล้วนางก็พูดทำนองขู่เพื่อให้เด็กคนนั้นรู้สึกหวาดกลัว สำนึกผิด เวลาตายกำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา ให้เด็กอยู่ในสังคมอย่างหวาดระแวง อนาคตจบสิ้น ชีวิตในครอบครับพังทลาย เพราะคิดว่าตนเองต้องติดเชื้อไปด้วย ในสังคมญี่ปุ่นการที่คนติดเชื้อเอดส์นั้นยังเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจไม่ละเอียดมากนัก ใครเป็นจะรู้สึกเหมือนชีวิตต้องจบสิ้นโดยทันที ยิ่งเป็นเด็กด้วยแล้วยิ่งคิดหนักเป็นสองเท่า เรื่องนี้ครูต้องการสั่งสอนให้เด็กรู้สึกเจ็บปวด และ รู้สึกเหมือนที่ตนเองรู้สึก คือการตายทั้งเป็น นับเป็นการแก้แค้นที่เลือดเย็นและสะเทือนใจมากครับ สุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อผมแนะนำให้ไปหาเรื่องนี้มาดูเองจะดีกว่า เป็นหนังโปรดของผมอีกหนึ่งเรื่องที่ให้แง่คิดได้ดีจริง ๆ ครับ อยากให้ทุกคนได้รับชมกัน ขอบคุณภาพทั้งหมดจากค่ายหนังผู้ผลิต Toho Company และเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลภาพยนตร์ IMDb