ในโลกของความเป็นจริง ตามที่เขาบอกกันไว้ว่า เหรียญมีสองด้านเสมอ หากเทียบกับสังคมปัจจุบันอย่างประเทศไทยของเราที่ถือตัวเองว่าเป็นเมืองพุทธ แต่ข่าวปล้นฆ่าก็มีไม่เว้นแต่ละวัน เราบอกว่าศีลห้าเป็นพื้นฐานที่ทุกคนควรมี แต่หากถามตัวเองสักครั้ง เราจะตอบได้หรือไม่ว่าเรารักษาศีลห้าได้ครบทุกข้อจริงหรือเปล่า หรือในชีวิตที่ดำเนินอยู่ทุกวันนี้ ถามตัวเองดัง ๆ ว่า เราไม่เคยทำผิดเบียดบังใครได้จริงหรือเปล่า เชื่อว่าหลายคนคงตอบไม่ได้เต็มปาก เคยมีผลวิจัยออกมาว่ามนุษย์เราทุกคนมีด้านมืดอยู่ในตัว เพียงแต่ขึ้นอยู่กับว่าด้านดีเราจะข่มไว้ได้มากน้อยแค่ไหนในแต่ละคน ในโลกเสมือนหรือโลกออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน เราค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ ได้มากมายในเว็บไซต์ ทั้งความรู้ สาระ ความบันเทิง หรือการสั่งซื้อของออนไลน์ เราสามารถโพสต์รูปไปกินไปเที่ยวในที่ต่าง ๆ ผ่าน Facebook Twitter Instagram และอีกมากมายจากการค้นหาด้วย Google Search แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เหมือนเหรียญเพียงด้านเดียวเช่นเดียวกัน เพราะในโลกออนไลน์ยังมีสิ่งต่าง ๆ ที่ Google Search ไม่สามารถค้นหาและเข้าถึงได้ ยังมี Website อีกมากมายที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ เรียกกันว่า Dark Web - ดาร์กเว็บ เป็นเหมือนตลาดมืด เป็นโลกอีกใบ เป็นเหรียญอีกด้านของสังคมออนไลน์ ซึ่งไม่สามารถค้นพบได้จากการ Search ทั่ว ๆ ไป เพราะมีการป้องกันการเข้าถึง ซึ่งหมายถึงทำให้เข้าถึงยากนั่นเอง เพราะในนั้นเป็นที่รวมของสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งต้องห้ามต่าง ๆ ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere ผู้ปกครองที่มีคนในครอบครัวใช้งานอินเทอร์เน็ต อาจจะกังวลว่าจะมีลูกหลานเข้าใช้งาน Dark Web จะทำยังไง? แล้วทำไมกฎหมายถึงไม่จัดการ? ก็เพราะ Dark Web ก็เป็นพื้นที่เสรีในโลกออนไลน์เหมือนกัน เพียงแต่เป็นพื้นที่เสรีที่ยากแก่การเข้าถึง อาจจะไม่เฉพาะขายของผิดกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นพื้นที่การแสดงออกในแนวคิดด้านต่าง ๆ ด้วย เพียงแต่เราอาจจะต้องควบคุมด้วยตัวเองจากต้นทางผู้ให้บริการ หรือจากตัวเราเอง เพราะเดี๋ยวนี้มี Browser ที่ช่วยการควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ให้ใช้งานออกมามากมาย หรือแม้แต่ Browser เจ้าดัง ๆ อย่าง Internet Explorer Firefox Chrome เราก็สามารถไปตั้งค่าเฉพาะในการเข้าถึงการใช้งานได้แล้วเช่นกัน ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere หากจะถามว่าใน Dark Web เป็นพื้นที่อันตรายยังไง จะยกตัวอย่างสิ่งเหล่านี้ที่อยู่ใน Dark Web มาให้ดูว่าทำไมถึงไม่ควรให้คนที่เรารักและห่วงใยเข้าถึง หรือเข้าไปใช้งานได้ เพราะมีทั้งการซื้อขายบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเงินสด บริการขโมยล็อกอิน Account ต่าง ๆ บนออนไลน์ username และ password บริการซื้อขายหนังสือเดินทางปลอม ซื้อขายยาเสพติด บริการฟอกเงินและบิตคอยน์ ซื้อขายอาวุธ ซื้อขายอีเมล์ รับจ้างทำร้ายร่างกาย ฆาตกรรม รวมไปถึงการค้ามนุษย์ และสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีบริการจัดส่งเช่นเดียวกับโลกออนไลน์ช่องทางปกติเลยทีเดียว ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere วัตถุประสงค์แต่แรกเริ่มของ Dark Web นั้น อาจจะเกิดขึ้นมาเพราะต้องการมีพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูง สำหรับข้อมูลในด้านต่าง ๆ หริอเฉพาะทางซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ก็เป็นที่อาศัยของกลุ่มมิจฉาชีพที่เข้าไปใช้พื้นที่เพื่อทำมาหากินแบบผิดกฎหมายด้วย การป้องกันการเข้าถึงอาจทำให้การเข้าใช้งานยุ่งยาก แต่สำหรับคนที่ต้องการเข้าใช้งานจริง ๆ ก็ไม่ได้ยากอะไรเหมือนกัน Dark Web เลยยังอยู่ได้จนทุกวันนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วการตัดสินใจเข้าใช้งาน หรือไม่เข้าใช้งาน อาจจะอยู่ที่ความเข้าใจสภาพแวดล้อมของสังคม ปัจจัยด้านต่าง ๆ ของครอบครัว รวมไปถึงวิจารณญาณส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน ขอบคุณภาพปกจาก pxhere และ pxhere