คำว่า DCA เป็นหนึ่งในคำศัพท์ด้านการลงทุนที่เชื่อว่านักลงทุนทั้งมือใหม่และมือโปรน่าจะเคยได้ยินกันบ้างอย่างแน่นอน แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าการลงทุนแบบ DCA คืออะไร มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรบ้างที่แตกต่างจากรูปแบบการลงทุนอื่น ๆ หลังจากที่ผู้เขียนได้ศึกษาด้านการลงทุนจึงอยากมาแชร์ความรู้ดี ๆ ที่หวังว่าจะมีประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกคน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าค่ะการลงทุนแบบ DCA คืออะไร?DCA ย่อมาจาก Dollar-Cost Averaging แปลเป็นไทยได้ว่า "การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน" เป็นวิธีการลงทุนแบบทยอยลงทุนเป็นงวด ๆ ด้วยเงินจำนวนเท่า ๆ กัน โดยไม่สนใจว่าในเวลานั้นราคาของสินทรัพย์จะเป็นเท่าไร ถือได้ว่า DCA เป็นการลงแบบทยอยลงทุน เพื่อเพิ่มปริมาณของสินทรัพย์ให้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวนั่นเองยกตัวอย่างเช่น หากเราเลือกลงทุนในหุ้นด้วยวิธี DCA เดือนละ 1,000 บาท ไม่ว่าราคาหุ้นจะอยู่ที่ 100 บาทหรือ 200 บาท เราก็จะยังคงลงทุนเดือนละ 1,000 บาทเท่าเดิม ในระยะยาว ผลตอบแทนที่เราจะได้รับจะขึ้นอยู่กับราคาหุ้น ณ วันที่เราขายหุ้นออกไป โดยที่ต้นทุนเฉลี่ยของเราจะต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของตลาดข้อดีของ DCAช่วยลดความเสี่ยงจากการเลือกช่วงเวลาการลงทุน (Market Timing)หลักการของ DCA จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากราคาสินทรัพย์ที่ผันผวน โดยเมื่อราคาสินทรัพย์ลดลง นักลงทุนก็จะซื้อสินทรัพย์ได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเฉลี่ยของสินทรัพย์ลดลง และเมื่อราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้น นักลงทุนก็จะซื้อสินทรัพย์ได้น้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเฉลี่ยของสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเช่นกันตัวอย่างเช่นสมมติว่าเรามีเงิน 10,000 บาท และเราต้องการจะลงทุนในหุ้นด้วยวิธี DCA เดือนละ 1,000 บาท โดยในช่วง 5 ปีแรก ราคาหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาท และในช่วง 5 ปีหลัง ราคาหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาทหากเราลงทุนแบบ Lump Sum คือลงทุนทั้งหมด 10,000 บาท ในราคาเฉลี่ยที่ 180 บาท เราก็จะได้หุ้นจำนวน 55 หุ้นแต่หากเราลงทุนแบบ DCA เราก็จะได้จำนวนหุ้น ดังนี้ปีที่ 1 : ลงทุน 1,000 บาท ราคาหุ้นเฉลี่ย 100 บาท จะได้หุ้นจำนวน 10 หุ้นปีที่ 2 : ลงทุน 1,000 บาท ราคาหุ้นเฉลี่ย 100 บาท จะได้หุ้นจำนวน 10 หุ้นปีที่ 3 : ลงทุน 1,000 บาท ราคาหุ้นเฉลี่ย 100 บาท จะได้หุ้นจำนวน 10 หุ้น... ปีที่ 10 : ลงทุน 1,000 บาท ราคาหุ้นเฉลี่ย 200 บาท จะได้หุ้นจำนวน 5 หุ้นรวมแล้วเราจะได้หุ้นจำนวน 65 หุ้น ซึ่งมากกว่าการที่เราลงทุนแบบ Lump Sum ถึง 10 หุ้นจะเห็นได้ว่าการลงทุนแบบ DCA ช่วยให้เราสามารถซื้อสินทรัพย์ได้ในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยของตลาด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเลือกช่วงเวลาลงทุนได้ช่วยให้เราสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลว่าราคาสินทรัพย์จะขึ้นหรือลงการลงทุนแบบ DCA ช่วยให้เราสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลว่าราคาสินทรัพย์จะขึ้นหรือลง เพราะเราได้กำหนดเงินลงทุนไว้แล้ว ตัวอย่างเช่น หากเราลงทุนในหุ้นด้วยวิธี DCA เดือนละ 1,000 บาท ไม่ว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง เราก็จะยังคงลงทุนเดือนละ 1,000 บาทเท่าเดิม ในระยะยาว การลงทุนของเราก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนการลงทุนแบบ DCA เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการเลือกช่วงเวลาการลงทุนและช่วยให้สามารถลงทุนได้อย่างมีวินัยข้อเสียของ DCAหากราคาของสินทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ผลตอบแทนที่เราจะได้รับก็จะลดลงตามไปด้วยการลงทุนแบบ DCA เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาวเท่านั้น หากราคาของสินทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ผลตอบแทนที่เราจะได้รับก็จะลดลงตามไปด้วยการลงทุนแบบ DCA ไม่ได้ลดความเสี่ยงการลงทุนแบบ DCA ไม่ได้ลดความเสี่ยง แต่เป็นเพียงการกระจายความเสี่ยงจากการเลือกช่วงเวลาการลงทุนเท่านั้น ความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์นั้น ๆ ยังคงมีอยู่ ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่จะลงทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนสรุปการลงทุนแบบ DCA เป็นวิธีการลงทุนที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่ไม่มีเวลาหรือความชำนาญในการลงทุน ช่วยให้เราสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและลดความเสี่ยงจากการเลือกช่วงเวลาการลงทุน ทั้งนี้สามารถเลือก DCA ได้ทั้งในหุ้น กองทุน ทองคำ และสินทรัพย์อื่น ๆ อีกด้วยบทความแนะนำhttps://intrend.trueid.net/post/343268เครดิตภาพหน้าปกภาพที่1: @alphavector / ภาพที่2: @alphavectorเครดิตภาพประกอบภาพที่1: @gettyimages / ภาพที่2: @gettyimages / ภาพที่3: @gettyimages / ภาพที่4: @brand408295688 HASHTAG#DCA #Invest #ลงทุน #การเงิน #วางแผนการเงิน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !