ภาพ - ผู้เขียนDie Tomorrow หนังยาวที่มีความยาวไม่ยาวนัก เพียง 74 นาที ผลงานเรื่องที่ 5 ของคุณนวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เข้าฉายในไทยเมื่อปลายปี 2560 ก่อนมาลงเน็ตฟลิกซ์ ให้ได้ชมกันตั้งแต่มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา หนังเล่าด้วยการรวมหนังสั้นหลายเรื่องเข้าไว้ด้วยกัน และร้อยเรียงออกมาเป็น Essay Film (หรือหนังที่ให้ความสำคัญกับคอนเสปต์มากกว่าการดำเนินเรื่องราว) หลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนความตายในวันรุ่งขึ้นจะมาเยือน อย่างกลุ่มเพื่อนสี่สาวที่สังสรรค์ฉลองหลังเรียนจบกัน พี่น้องสองคนที่คุยกันบนดาดฟ้าของบ้าน คู่รักที่ฝ่ายหนึ่งป่วยแต่ขอดูแลอีกฝ่ายให้ดีที่สุด หญิงสาวที่มองข้ามความรู้สึกของชายหนุ่มคนที่รักเธอ ฯลฯ เราอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นการรวบรวมบุคคลที่เรารักมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง มีหลักฐานว่าเราเคยรู้จักกันจริงๆ เป็นหนังที่มีทุกๆ คนที่เคยช่วยประกอบให้เราเป็นเราทุกวันนี้ภาพโปสเตอร์หนังเรื่อง Die Tomorrow - https://bit.ly/3dQ48O7ส่วนนักแสดงในเรื่อง เป็นการรวบรวมสาวๆ ที่น่ารักติดชาร์ต (ของผมเอง) มาไว้ในหนังเรื่องเดียวกันน่าจะมากที่สุดในบรรดาหนังไทยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเต้ย-จรินทร์พร, วี-วิโอเล็ต, พลอย-รัตนรัตน์, ต้นหลิว-มรกต, ออกแบบ-ชุติมณฑน์, จูนจูน-พัชชา, เมโกะ-ชนนิกานต์ แม้จะเป็นการปรากฏตัวเพียงคนละไม่กี่อึดใจ แต่ได้สร้างความสั่นไหวในหัวใจของหนุ่มๆ ไปหลายริกเตอร์ทีเดียว ขณะที่นักแสดงชาย นอกจากซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ทู-สิราษฎร์ และเอ็ม - ยศวัศ (ศิลปินในสังกัดค่ายเพลง 123Records ของแสตมป์-อภิวัชร์) แล้ว เซอรไพรส์ที่สุดเห็นจะเป็นน้าค่อม ชวนชื่น ที่คราวนี้ไม่ได้มาพร้อมเสียงดังดุด่าใครให้เราได้หัวเราะ แต่มาแบบพลิกบทบาทที่เราต่างคุ้นเคยกันดี (ทำให้ผมนึกถึงคุณหม่ำ จ๊กมก ที่เคยเล่นเป็นคนขับแท็กซี่ ในหนังเรื่อง “เฉิ่ม”)นอกจอฉาย Die Tomorrow มีการจำหน่ายของที่ระลึกจากหนังอีกเพียบ ทั้งแผ่นซีดีเพลงประกอบหนัง โปสเตอร์หนัง กระเป๋าโท้ท และหนังสือ ซึ่งหากซื้อยกเซ็ตรวมดีวีดีหนังด้วย ก็ตกราคาเกินพันบาท ผมผู้มีรายได้น้อยแถมเงินเก็บยิ่งน้อยกว่าจึงไม่ได้ซื้อตอนสินค้าออกมาใหม่ๆ (และโล่งอกเมื่อสินค้าหมดอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดขายได้ไม่นาน) จนผ่านไป 2 ปี เมื่อผมมาเดินเล่นที่งาน LIT Fest แวะบูธ SPACEBAR ZINE แล้วเจอกับ ARCHIVES (หนังสือ double booklet) เล่มที่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถูกขายในราคา 450 บาท แต่ตอนนี้เหลือแค่ 100 บาท! แล้วผมจะไม่รับมาดูแลได้หรือ?ภาพปกหน้าพร้อมซองพลาสติกใส - ผู้เขียนบุ๊คเล็ตทั้ง 2 เล่มถูกใส่มาอย่างเรียบร้อยในซองพลาสติกใสทำเป็นแจ็กเก็ตสวม ปกเป็นรูปดอกไม้สีแดง กับรูปดอกไม้สีชมพูอ่อน พื้นหลังเป็นสีดำสนิท เนื้อหาในเล่มมีทั้งข้อเขียนของผู้กำกับ พวกที่มาที่ไปและความสำคัญของสิ่งต่างๆ แรงบันดาลใจในการสร้างหนัง และภาพเบื้องหลังจากกองถ่าย (ทำให้เราได้เห็นนักแสดงและทีมงานแบบหน้าสด - ฮา) ภาพที่สอดคล้องเกี่ยวข้องกับตัวหนังสือ เช่น ภาพผู้กำกับยืนอยู่ที่ฮวงซุ้ยในวันเช็งเม้ง ทั้งหมดนี้ถูกจัดวางบนหน้ากระดาษอย่างมีศิลปะ แต่ละหน้าเหลือพื้นที่ว่าง (ไว้ก่อสร้างบ้าน?) อยู่หลายเอเคอร์ (ฮา) ไม่เสียชื่อเสียงของสตูดิโอออกแบบสิ่งพิมพ์ที่มีผลงานหลายชิ้นที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูง (ล่าสุดกับผลงานรวมเล่มครั้งแรกของเพจหนัง Vintage Motion - น่าสนใจมาก)ภาพปกหลัง - ผู้เขียนอาจเป็นเพราะกลัวว่าวันหนึ่งความสุขจะหายไปมากกว่า , ต่อให้สิ่งนั้นดีแค่ไหน วันหนึ่งก็จะมีวันจบบางทีเนื้อเพลงที่นักร้องสายรัก (เพราะเขากำลังจะแต่งงาน) คนหนึ่งเคยบอกไว้ว่า “ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ…” อาจไม่จริงเสมอไป.สำหรับใครที่ต้องการรับชมหนังเรื่อง Die Tomorrow สามารถเข้าไปได้ที่เน็ตฟลิกซ์ (https://www.netflix.com/th/title/81228152)หรือผู้ที่สนใจหนังสือ double booklet ของ Die Tomorrow สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ทางเพจ facebook.com/gospacebar/