ไลฟ์แฮ็ก

Driving Mode ใน iOS 15.4 beta

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
Driving Mode ใน iOS 15.4 beta

Driving Mode นี้จะมาพร้อมกับ iOS 15.4 beta แต่ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้ร่วมกับ Apple Watch หรือไม่ โดยทาง Apple Watch จะต้องอัปเดตเป็น WatchOS 8.5 beta ด้วยเช่นกันหากใครจะลองใช้ หรือจะลองใช้โดยที่ไม่มี Apple Watch ก็น่าจะได้ หากใครได้ลองแล้วมาแชร์ใน Comment กันได้


Driving Mode นี้จะอยู่ใน Focus หลังผู้ใช้ทำการอัปเดตเป็น iOS 15.4 beta โดยปกติแล้วผู้ใช้ที่ใช้งาน iOS 15.3 จะมี Mode การใช้งานมาให้ 4 โหมดคือ Do not disturb (ห้ามรบกวน), Personal (ส่วนบุคคล) , Work (ทำงาน) และ Sleep (การนอน)

01คุณสมบัติ Driving Mode

หากใครที่เคยใช้งาน Focus ก็น่าจะทราบกันดีถึงการใช้งานและการตั้งค่าต่างๆ โดยทาง Driving Mode นี้ก็จะมีลักษณะการตั้งค่าที่ไม่ต่างจาก Focus โหมดอื่นๆสักเท่าไหร่ เช่น การอนุญาติบุคลในรายชื่อเมื่อ Driving Mode นี้กำลังทำงานอยู่

Advertisement

Advertisement

03หรือการแชร์สถานะของ Focus กับเพื่อนใน Appication iMessage ของ iPhone แต่ Driving Mode จะมีความสามารถเพิ่มเข้าในส่วนของการแชร์สถานะ Driving Mode

share

นั้นจะมาคุณสมบัติของการตอบข้อความอัตโนมัติเมื่อมีใครบางคนส่งข้อความมาในขณะที่ผู้ใช้กำลังขับรถ หรืออยู่ใน Driving Mode โดยผู้ใช้งานนั้นสมารถตั้งข้อความที่จะตอบกลับแบบอัตโนมัติได้

reply

และยังสามารถเลือกได้ว่าจะให้ทำงานกับกลุ่มคนแบบไหนบ้าง เช่น ไม่ทำงานกับใครเลย , ทำงานกับคนที่คุยล่าสุด , ทำงานกับคนในรายชื่อรายการโปรด หรือทำงานกับทุกคนเลย

replyนอกจากนั้นผู้ใช้สามารถตั้งค่าการเปิดใช้งานแบบอัตโนมัติได้ โดยเลือกว่าผู้ใช้นั้นจะให้ Driving Mode นั้นทำงานตอนไหน จะให้ทำงานแบบอัตโนมัติไปเลย หรือจะเปิดใช้เมื่อ iPhone มีการเชื่อมต่อกับ CarPlay หรือ Bluetooth บนรถยนต์ก็ได้ ถ้าหากผู้ใช้รู้สึกไปพอสามารถเลือกแบบ Manually หรือกำหนดเองก็ได้เช่นกัน

Advertisement

Advertisement

02


ระบบการทำงาน

ทางผู้เขียนหาข้อมูลไม่เจอว่าการทำงานของระบบนี้ทำงานยังไงกันแน่ เลยได้แต่วิเคราะห์จากการลองใช้งานจริงๆ ตอนแรกนั้นผู้เขียนคิดว่าการทำงานแบบอัตโนมัตินั้นจะอาศัยการฟังเสียงเครื่องยนต์โดยใช้ไมโครโฟนจาก Apple Watch และท่านั่งหรือเปล่า (ผู้เขียนขับรถมอเตอร์ไซต์) แต่ไม่กี่วันมานี้ผู้เขียนได้ขึ้นรถไฟฟ้าจึงพบว่า ระบบนี้อาศัยความเร็วของการเคลื่อนที่หากอุปกรณ์ของ Apple ตรวจจับการเคลื่อนที่ของผู้ใช้หรืออุปกรณ์ได้ว่าเคลื่อนที่ไปมากกว่าความเร็วที่กำหนด ระบบจะเปิดใช้งาน Driving Mode แบบอัตโนมัติ และได้รู้ว่าระบบจะไม่ใช้ผู้ใช้นั้นสามารถใช้งาน iPhone ได้หากกำลังขับรถ หรืออยู่ใน Driving Mode อยู่ หากจะใช้งานนั้นต้องปิดการทำงานของ Driving Mode เสียก่อนโดย Siri จะถามให้ผู้ใช้นั้นเลือกว่าจะยกเลิกการเข้าเพื่อใช้งาน iPhone หรือจะเลือกว่าฉันไม่ได้ขับรถแล้ว เพื่อเข้าใช้งาน iPhone ปกติผู้เขียนขัยรถมอเตอร์ไซต์จึงไม่ค่อยได้เห็นคุณสมบัตินี้สักเท่าไหร่

Advertisement

Advertisement

Siri


สรุป

โหมดการทำงานนี้เหมาะกับผู้ใช้ที่อาศัยการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ส่วนตัว เนื่องจากความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน พร้อมความสงบ และความต่อเนื่องในการขับรถ

แต่สำหรับผู้ใช้ที่เน้นการเดินทางแบบรถสาธารณะอาจจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ โดยหากผู้ใช้เป็นคนที่ติดการเล่นมือถือในขณะเดินทางบนรถสาธารณะ โหมดการทำงานนี้จะทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดมากแน่ๆ แต่ยังไงก็สามารถตั้งค่าการทำงานให้เข้ากับการใช้งานของแต่ละคนได้ ลองไปเลือกใช้งานกันดูนะครั


เครดิต

รูปภาพหน้าปก

  • รูปที่ 1 Image by GH0ST - ผู้เขียน

รูปภาพประกอบบทความ

  • รูปที่ 1 Image by GH0ST - ผู้เขียน
  • รูปที่ 2 Image by GH0ST - ผู้เขียน
  • รูปที่ 3 Image by GH0ST - ผู้เขียน
  • รูปที่ 4 Image by GH0ST - ผู้เขียน
  • รูปที่ 5 Image by GH0ST - ผู้เขียน

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์