ภาพโดย Tumisu จาก Pixabay Ebola โรคระบาดที่ใครต่างพูดถึง เมื่อราว 4-5 ปีก่อน ได้มีเหตุการณ์เกิดโรคระบาดขึ้นแถบทวีปแอฟริกา โรคนี้มีชื่อว่า Ebola ซึ่งโรคดังกล่าวนี้ในระยะแรกมีลักษณะคล้ายกับไข้หวัด แต่เมื่อเวลาถัดมาจะเริ่มมีเลือดไหล แล้วแต่ความรุนแรงของโรค เช่น ตา จมูก ปาก และลักษณะคล้ายกับไข้เลือดออก ซึ่งการที่ได้ชื่อว่า Ebola นี้เนื่องจากว่าเป็นชื่อแม่น้ำในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่หมู่บ้านใกล้ ๆ แม่น้ำสายนี้ได้เคยมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกชนิดหนึ่ง ซึ่งภายหลังได้ทราบว่ามีต้นตอจากเชื้อไวรัส Ebola ที่กล่าวมา Photo by CDC on Unsplash Ebola คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้คนตั้งมากมายต้องล้มป่วยและเสียชีวิต โดยติดต่อจากคนสู่คนจากการสัมผัสเชื้อคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก หรือการร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งเชื้อจะแพร่กระจายได้ต่อเมื่อแสดงอาการของโรคแล้วเท่านั้น และยังเชื่อว่าโรคนั้นสามารถมีที่มาจากสัตว์บางชนิดได้ เช่น ค้างคาวผลไม้ ลิง Ebola จะเป็นเชื้อไวรัสที่ไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายหรืออวัยวะ อาจรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดลดต่ำลง จึงมีเลือดออกจนไม่อาจควบคุมได้ ภาพโดย Andrea Bohl จาก Pixabay อาการของโรค ในช่วงแรก ๆ จะมีอาการคล้ายกับการเป็นไข้หวัด โดย - มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ - ปวดข้อและกล้ามเนื้อ ต่อมาอาการอาจจะรุนแรงมากขึ้น จนถึงขั้นการทำงานของอวัยวะล้มเหลว และมีอัตราการเสียชีวิตถึงร้อยละ 50 สาเหตุของโรค อย่างที่ได้กล่าวมาว่าสัตว์บางชนิดอาจเป็นที่มาของโรค แต่การติดจากคนสู่คนก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน จากพฤติกรรมที่เป็นปัญหาทางสุขภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น - การสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อโดยตรง - การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ - การร่วมเพศกับผู้ติดเชื้อโดยปราศจากการป้องกัน - การเดินทางไปยังพื้นที่ที่เคยมีการระบาด อาจทำให้มีอัตราเสี่ยง การรักษา ในปัจจุบันนั้น ยังไม่มียาที่รักษาโรคนี้ได้โดยตรง การรักษาจึงมักเป็นตามอาการ และได้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคชนิดนี้แล้ว ซึ่งมีใช้กันระหว่างบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ยังไม่มีใช้สำหรับคนทั่วไป ส่วนการรักษาตามอาการ เช่น - การให้ยาแก้ปวด ลดไข้ - รักษาระดับความดันเลือด - ถ่ายเลือด หรือให้เลือด ภาพโดย bhossfeld จาก Pixabay สำหรับโรค Ebola นี้ แม้ว่าการระบาดจะลดน้อยลงจนไม่ค่อยมีอันตรายใดใดแล้ว แต่ปัจจุบันยังคงมีการอุบัติของเชื้อดังกล่าวอยู่ ดังนั้นจึงควรที่จะดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ และที่สำคัญ อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรงกันนะจ้ะ