จากหุ่นขี้ผึ้งสู่ภาพยนตร์ถ้าพูดถึงหุ่นขี้ผึ้งผมเชื่อเลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก หลายคนคงเคยได้เห็นได้ไปสัมผัสกันจริง ๆ มาบ้างแล้ว หรือเคยเห็นผ่านสื่อต่าง ๆ มามากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดทำหุ่นขี้ผึ้งของบุคคลสำคัญ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อให้คนทั่วไปได้รับชม ในบ้านเราเองก็มีสถานที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งด้วยเหมือนกันที่ดัง ๆ และคนรู้จักกันดีก็คงเป็นที่ " พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย " จังหวัดนครปฐม เป็นสถานที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานหุ่นขี้ผึ้งภายใต้วัฒนธรรมไทย แต่ถ้าพูดถึงระดับโลกอันนี้ผมว่าทุกคนต้องรู้จักกันดีแน่นอน จะเป็นที่ใดไปไม่ได้เลยนอกจากพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุซโซต์ (Madame Tussauds Wax Museum) สถานที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีสาขาแยกออกไปในแต่ละประเทศอย่างมากมาย พอพูดถึงหุ่นขี้ผึ้งแล้วมันทำให้ผมอดนึกถึงหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งไม่ได้เลย เป็นหนึ่งในหนังโปรดที่ผมดูจบแล้วชอบมาก ๆ คืออินสุด ๆ อินถึงขนาดที่ว่าทำเอาตัวผมเองหวาดกลัวหุ่นขี้ผึ้งไปพักใหญ่เลย และหนังเรื่องนั้นก็คือเรื่อง House Of Wax ความรู้สึกทั้งหมดหลังจากได้รับชมภาพยนตร์เรื่อง House Of Wax คือผลงานการกำกับของ Jaume Collet-Serra ผู้กำกับมากฝีมือที่อยู่เบื้องหลังหนังระทึกขวัญมาแล้วมากมาย ผู้กำกับคนนี้เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ผมชอบมาก ๆ ผลงานของเขาจะมีเอกลักษณ์ที่ต่างจากผู้กำกับคนอื่น ๆ คือเน้นเนื้อเรื่องที่กระชับได้ใจความ เล่าเรื่องตรงไปตรงมา และฉากระทึกขวัญก็จัดเต็มสุด ๆ ชนิดที่ว่าคนดูนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว และ เมื่อเขามากำกับเรื่องนี้ก็ยังดึงเอาดารานักแสดง คนดังที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นมารวมในเรื่องเต็มไปหมด อาทิเช่น Elisha Cuthbert , Chad Michael Murray , Paris Hilton , Jared Padalecki และ Jon Abrahams ทุกคนเล่นได้ดีเข้าถึงบทบาทอย่างไร้ที่ติส่วนเนื้อเรื่องเองก็น่าสนใจถือว่าแปลกใหม่มากในตอนนั้น คิดได้ไงผมเองยังทึ่ง!!! โดนใจคอหนังโหดสุด ๆ คือให้ฆาตกรเที่ยวไล่จับคนมาทำหุ่นขี้ผึ้งทั้งเป็น ไม่ฆ่า ไม่เชือด แต่เอาคนมาเข้าเครื่องทำหุ่นขี้ผึ้งเลย เห็นแล้วทรมานสุด ๆ ภาพนี่ติดตาจริง ๆ ตรงนี้สร้างได้สมจริงมากครับ ผมประทับใจมากฉากทรมานสมจริงไร้ที่ติ ส่วนเนื้อเรื่องก็ลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นจนจบเลย ไม่มีช่วงไหนที่น่าเบื่อเลยสักนิด ละสายตาจากจอไม่ได้จริง ๆ แถมคนที่มารับบทเป็นฆาตกรสุดโหดในเรื่องก็แสดงได้ดี ร่างใหญ่ พละกำลังเยอะ ท่าทางดูเกรี้ยวกราด ดูแล้วเชื่อเลยว่าเป็นฆาตกรจริง ๆ ส่วนด้านโปรดักชั่นก็สุดยอด มีการสั่งทำหุ่นขี้ผึ้งจำลองมาประดับฉากอย่างมากมาย ถือว่าลงทุนสุด ๆ แต่ละตัวดูเหมือนมนุษย์จริง ๆ เลยครับ ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน ตรงนี้เป็นอีกส่วนที่ผมเองโคตรประทับใจเพราะมันอลังการงานสร้างไม่เคยเห็นในหนังไล่เชือดเรื่องไหน ๆ มาก่อน และสุดท้ายเลยที่ผมชอบที่สุดก็คือ ตอนจบของเรื่องที่ทิ้งปมให้คนดูคิดกันต่อไปว่าจะมีภาคต่อตามออกมาหรือไม่ ให้เดากันไปต่าง ๆ นา ๆ มันดูจบแล้วมีอะไรให้เราติดตามได้พูดถึงกันต่อ หนังจบอารมณ์ไม่จบอะไรประมาณนั้น แม้ว่าถึงตอนนี้เวลาจะผ่านมากว่า 15 ปีแล้วก็ตาม หนังเรื่องนี้ก็ถือเป็นหนังที่คอสยองเฝ้ารอชมภาคต่อของมันมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูก็ลองไปหาหนังเรื่องนี้มาดูกันได้นะ ผมรับรองเลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน House Of Wax คือหนึ่งในหนังสยองขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค 2000 หนังที่คอสยองทุกคนต่างยกนิ้วให้บทสรุปที่ได้จากเรื่องนี้หลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบมันทำให้ผมย้อนกลับหันมามองตัวเองในหลาย ๆ ด้าน หนังให้ความรู้ต่อผู้ชมในแง่มุมที่คาดไม่ถึง คุณอาจจะมองว่ามันเป็นแค่หนังสยองขวัญหนังโหดไล่ฆ่าทั่ว ๆ ไป แต่สำหรับผมแล้วหนังเรื่องนี้ให้ความรู้แฝงมาถึงผู้ชมด้วยนะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย และนี่คื่อ 3 สิ่งที่ผมได้รับจากหนังเรื่องนี้ และผมก็คิดว่าผู้ชมเองก็น่าจะรู้สึกเหมือนกับผมด้วยเช่นกัน 1) มิตรภาพระหว่างเพื่อนที่แท้จริง ในหนังจะมีกลุ่มวัยรุ่นที่พลัดหลงเข้าไปในเมืองร้างจนไปพบเจอพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ทำจากร่างกายมนุษย์ ถูกฆาตกรโหดไล่จับตัวมาทำเป็นหุ่นขี้ผึ้งอย่างสยดสยอง คนไหนหนีรอดก็พยายามหาทางช่วยเพื่อนคนที่ถูกจับ ถึงแม้ตัวเองจะต้องเสี่ยงกับความตายก็ตาม ในเมื่อเพื่อนของเราตกอยู่ในอันตรายอย่างไรก็ต้องช่วยไว้ก่อน ต่างคนต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันในนาทีที่คับขัน ตรงนี้สื่อให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่จริงใจไม่ต้องการอะไรตอบแทน ถึงแม้ก่อนหน้าแต่ละคนจะไม่ถูกกันทะเลาะกันมาก่อน แต่พอมาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายด้วยกัน คำว่าเพื่อนแท้เลยเห็นชัดมากยิ่งขึ้น ผมประทับใจตรงจุดนี้มากจนนึกย้อนมามองตัวเองเลยว่า ถ้าเป็นเราตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ จะมีเพื่อนคนไหนไหมกล้าเสี่ยงชีวิตมาช่วยเรา จะมีเพื่อนแท้ที่รักเราอย่างจริงใจหรือเปล่า คิดแล้วก็ไม่ได้คำตอบ แต่สำหรับกลุ่มเพื่อนในเรื่องนี้ความสามัคคี และมิตรภาพระหว่างเพื่อนคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้บางคนรอดชีวิตออกมาได้อย่างปลอดภัย2) ปัญหาที่เกิดจากการบูลลี่ ในหนังตัวฆาตกรสุดโหดมีปมชีวิตที่ฝังใจมาตั้งแต่เด็ก เพราะด้วยรูปลักษณ์หน้าตาที่เหมือนผี ใครพบเห็นมีแต่หวาดกลัวเลยถูกสังคมรอบข้างรังเกียจ บูลลี่ต่าง ๆ นา ๆ กลายเป็นปมชีวิตฝังใจจนต้องออกไล่ฆ่าทุกคนเพื่อจับมาทำเป็นหุ่นที่สวยงาม ทุกหุ่นที่ฆาตกรสร้างขึ้นมาล้วนเป็นประติมากรรมชั้นเลิศ มีองค์ประกอบที่ละเอียดงดงาม ต่างจากตัวเองที่มีรูปลักษณ์น่าเกียจน่ากลัว บ่อยครั้งตัวฆาตกรก็รู้สึกไม่พอใจในตัวเองจนเกิดอารมณ์บ้าคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะอะไรรู้ไหม เพราะฆาตกรคนนี้ถูกสังคมบูลลี่ตั้งแต่เด็กนั่นแหละ ทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง หวาดกลัวไม่กล้าใช้ชีวิตในสังคม ต้องอำพรางใบหน้าตัวเองตลอดเวลา สุดท้ายเลยมาจบลงตรงฆาตกร ตรงจุดนี้ผมเองรู้สึกสงสารตัวฆาตกรมากจริง ๆ รู้สึกเห็นใจ การแกล้งกันพูดจาดูถูกเหยียดหยามกัน คุณอาจจะมองว่ามันเป็นแค่เรี่องเล็ก ๆ หรือเรื่องตลกขบขัน แต่สำหรับบางคนมันคือเรื่องที่ใหญ่มาก คนถูกล้อถูกด่าไม่ได้ตลกด้วยเลย มันอาจเป็นปมที่ทำให้เขากลายไปเป็นฆาตกรในที่สุด เห็นไหมครับการบูลลี่ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องขำ ๆ สุดท้ายมันอาจมีผลกระทบร้ายแรงตามมาจนคุณคาดไม่ถึงก็เป็นได้ 3) วิธีการทำหุ่นขี้ผึ้ง เราอาจจะเคยเห็นหุ่นขี้ผึ้งที่ทำเสร็จแล้วว่ามีลักษณะอย่างไร สวยและงดงามขนาดไหน เห็นแค่ภาพเบื้องหน้าเมื่อตอนที่มันเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น แต่ในหนังเรื่องนี้จะพาคุณไปพบกับวิธีการทำหุ่นขี้ผึ้งทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหลอมขี้ผึ้งขึ้นมา การหล่อโครงร่างไปจนถึงการตกแต่งรายละเอียดต่าง ๆ ให้สวยงามก่อนนำไปจัดแสดง กว่าจะได้แต่ละตัวแต่ละหุ่นออกมานั้นยากมากครับ และต้องใช้ความพยายามความอดทนเป็นที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยที่ใครจะสามารถทำได้ทุกคน คือดูหนังเรื่องนี้คุณจะเห็นถึงวิธีการทำหุ่นขี้ผึ้งอย่างชัดเจนผ่านการกระทำของฆาตกร นอกจากเราจะได้ความสนุกลุ้นระทึกจากตัวหนังแล้ว เรายังได้ความรู้เกี่ยวกับการทำหุ่นที่แฝงมากับหนังเต็ม ๆ อีกด้วย ในที่สุดผมก็ได้รู้แล้วว่าหุ่นขี้ผึ้งที่เราเห็นนั้นมันมีวิธีการสร้างอย่างไร ตายตาหลับสักที เป็นการสร้างที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวจริง ๆ ครับผมเนื้อเรื่องในหนังโดยหนังจะเล่าเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่พลัดหลงเข้าไปในป่าแล้วไปโผล่ยังเมืองร้าง ในเมืองแห่งนั้นดันมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งอยู่ด้วย ซึ่งข้างในเต็มไปด้วยหุ่นขี้ผึ้งหลากชนิด ทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจ และรู้สึกสะพรึงกันมาก ต่างพากันสงสัยว่าใครกันคือเจ้าของสถานที่แห่งนี้กันแน่ แต่แล้วยังไม่ทันที่จะรู้คำตอบ ทุกคนก็ต้องไปพบกับชายร่างยักษ์คนหนึ่งที่กู่เข้ามาวิ่งไล่จับทุกคนอย่างบ้าคลั่ง ใครหนีรอดก็รอดตัวไป ส่วนใครที่มันจับได้ บอกเลยว่าชะตาขาดแน่นอน มันจะจับคนคนนั้นไปเข้าเครื่องทำหุ่นขี้ผึ้งทั้งเป็น ทั้งที่มีลมหายใจอยู่ มันไม่สนเลยว่าเหยื่อจะเจ็บหรือทรมานหรือไม่ สิ่งเดียวที่มันนึกถึงก็คือต้องทำหุ่นออกมาอย่างประณีตและสมจริงที่สุด ทำเสร็จแล้วก็จะยกมาตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์ของมันอย่างสวยงาม เห็นแล้วสยดสยองมากครับ เพราะมันคือสถานที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งจากเนื้อหนังของมนุษย์ตัวเป็น ๆ นั่นเอง เครดิตรูปภาพทั้งหมดจาก Official Facebook : House of Waxขอบคุณ ภาพปก / ขอบคุณ ภาพที่ 1 / ขอบคุณ ภาพที่ 2 / ขอบคุณ ภาพที่ 3 ภาพที่ 3 / ขอบคุณ ภาพที่ 4 ภาพที่ 4 https://www.facebook.com/HouseOfWaxMovie/