How to อยู่บ้านก็ฝึกภาษาอังกฤษเองได้ ฟรี!!!

ว่าด้วยเรื่องของภาษาอังกฤษ สมัยนี้ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นมาก สำหรับคนที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีย่อมได้เปรียบกว่าคนที่สื่อสารไม่ได้ อาทิเช่น โอกาสในเรื่องของการทำงาน หรือ การทำความรู้จักกับเพื่อนต่างชาติที่อาจจะกลายเป็นคนสำคัญของเราในอนาคต อิอิ จริง ๆ แล้วในยุคนี้ แหล่งการเรียนรู้ฟรีที่เข้าถึงได้ง่ายคงหนีไม่พ้น Internet เราสามาถคลิกหาข้อมูลง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว โดยไม่ต้องเสียเงินลงคอร์สเรียนราคาแพง เพียงแค่เราอยู่บ้านก็สามารถเรียนเองได้ฟรี เอาละ วันนี้เราจะพาทุกคนไปฝึกภาษาอังกฤษที่ทั้งสนุก ไม่น่าเบื่อ และ ได้ความรู้กันค่ะ

1. ฝึกฟังจาก series เรื่อง How i met you mother

Series เรื่องนี้ทุกคนสามารถหาดูได้จาก Netflix หรือไม่ก็ search หาตาม youtube ก็ได้ค่ะ เราแนะนำ series เรื่องนี้เพราะส่วนตัวเราเห็นว่าบทพูดของตัวละครส่วนใหญ่ เป็นรูปแบบประโยคที่เขาใช้กันในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ตอนพระเอกชวนสาวไป Dinner ก็จะใช้ประโยคประมาณว่า Hey, You wanna dinner with me Saturday night ? ทริคของเราเวลาฝึกก็คือ เราจะเปิด subtitle ภาษาไทยหนึ่งรอบเพื่ออ่านให้เข้าใจเรื่องราวโดยภาพรวม รอบที่สองจะเปิด subtitle ภาษาอังกฤษเพื่อดูรูปแบบประโยค รอบที่สามจะปิด subtitle เพื่อฟัง และรอบที่สี่ปิด subtitle แล้วฝึกพูดตามประโยคของตัวละคร ทำครบสี่รอบแล้วรู้สึกแบบ เห้ย มันได้ผลอะ ทั้งในเรื่องของการฟังและการพูด สำหรับใครที่สนใจ Series เรื่องนี้ใน Nextflix สามารถคลิกตามลิ้งที่เราแนบไว้ให้ได้เลยค่ะ

Credit website : Website English Central

สำหรับ IOS download ได้จาก : English central download for IOS

สำหรับ Android download ได้จาก : English central download for Android

4. ฝึกการฟังจากเพลงที่ชอบ

เริ่มแรกเราจะเลือกเพลงที่ชอบค่ะ ฟังแล้วรู้สึกว่ามันเพราะติดหู ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่รู้ความหมายของเนื้อเพลงก็ตาม 555 วิธีการฝึกของเราก็คือ เราจะเปิดเพลงใน Youtube โดยเปิดเนื้อร้องอ่านไปด้วย และ จำคำศัพท์ที่ไม่รู้เพื่อไป search หาความหมาย แต่ในช่วงแรกถ้าไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ search google หาคำแปลของเนื้อเพลงนั้นค่ะ เพราะเพลงสากลส่วนมากจะมีคนแปลเป็นภาษาไทยให้เราแล้ว อ้อ นอกจากฟังแล้วก็ต้องฝึกร้องด้วยนะ มันจะช่วยในเรื่องของการจำและการใช้ประโยค อย่างเช่นช่วงหนึ่งของเพลง One call away ที่บอกว่า No matter where you go , You know you're not alone แปลได้ประมาณว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณรู้ว่าคุณจะไม่โดดเดี่ยว คือแบบเอาประโยคนี้ไปจีบสาวได้เลย เห็นไหมแค่ฟังเราก็ได้ประโยคมาใช้กันแล้ว

Credit youtube channel : Charlie Puth

5. ฝึกฟังจาก Youtube ช่อง internationally me

ส่วนตัวบอกก่อนว่าเราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบดูรายการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาก แล้วบังเอิญมาเจอช่องนี้คือประทับใจจนต้องกดติดตาม บอกก่อนว่า youtuber เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ แต่เขาจะใช้ภาษาอังกฤษในการบรรยาย ซึ่งในคลิปส่วนใหญ่ก็จะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ใครที่ชื่นชอบประเทศนี้อยู่แล้วก็ลองฝึกฟังจากช่อง internationally me ได้เลยค่ะ

Credit youtube channel : internationally me

6. ฝึกฟัง ฝึกพูดกันไปแล้ว เรามาฝึกอ่านกันบ้างนะคะ

BBC news ก็เป็นอีกช่องทางสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษ ในเว็บไซต์ของเขาจะมีบทเรียนเยอะมาก โดยส่วนที่เราจะมานำเสนอในหัวข้อนี้ก็คือ ‘การอ่านข่าว’ ทุกคนไม่ต้องกังวลไปก่อนนะว่า เห้ย อ่านข่าวเลยหรอ แบบนี้จะแปลออกหรือเปล่า คือเราจะบอกว่า คนอ่านข่าวเขาจะแปลคำศัพท์ให้เราค่ะ อีกอย่างข่าวจะเป็นเพียงบทความสั้น ๆ ไม่ได้ยาวจนน่าเบื่อเลย ส่วนตัวเราคิดว่า การอ่านก็เป็นอีกทางที่สำคัญเพราะจะช่วยให้เราฝึกแต่งรูปแบบประโยคและสามารถสื่อสารออกมาได้ถูกต้องตามหลักแกรมม่า ใครสนใจสามารถคลิกตามลิ้งที่เราลงไว้ให้ได้เลยค่ะ BBC learning english

7. ฝึกจากข้อแรก วนมาข้อสุดท้ายทำซ้ำไปเรื่อย ๆ

เราอยากบอกทุกคนว่า การฝึกภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิด มันไม่สามารถทำได้เพียงวันสองวันแล้วจะเก่งเลยไม่มีทางค่ะ เหมือนคำกล่าวที่ว่า 'กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว' คนเราก็เหมือนกันค่ะ การฝึกฝนเพื่อให้ได้มาซึ่งความชำนาญอาจต้องใช้เวลา คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด สุดท้ายนี้เราอยากบอกว่าช่องทางการฝึกภาษาอังกฤษมีอีกมากมายหลายทาง ที่ผู้เขียนหยิบยกขึ้นมาเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ที่รู้สึกว่าทำแล้วได้ผลจริง หากใครมีวิธีอื่นนอกเหนือจากนี้อยากแบ่งปันก็ comment share กันได้เลยค่ะ

Credit photo

เครดิตภาพหน้าปกโดย : Pexels By Anastasiya Gepp

ภาพประกอบที่ 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6  Capture โดยผู้เขียน

เครดิตภาพประกอบที่ 7 โดย : Pexels By Cottonbro