“แอร์โฮสเตส-สจ๊วต” หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (Flight Attendant/Cabin Crew) เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เป็นอาชีพที่หนุ่มสาวหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยากจะเป็น เพราะด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดี สง่างาม การได้เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ มากมาย และยังมีรายได้สูงด้วย ก่อนอื่นขอพามาทำความรู้จักกับหน้าที่ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกันก่อน ว่าอาชีพนี้เขาทำงานอะไรกันบ้าง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมีหน้าในการต้อนรับผู้โดยสาร คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารบนอากาศยาน หรือเครื่องบิน (Aircraft/Airplane) การให้บริการในด้านความปลอดภัย การดูแลอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทั้งหมดบนเครื่องบิน รวมไปถึงการสาธิตการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวก่อนการเดินทาง การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน การปฐมพยาบาลแก่ผู้โดยสารที่เจ็บป่วย ให้ข้อมูลที่จำเป็นในการเดินทาง ตลอดจนการให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงการดูแลความเรียบร้อยภายในห้องผู้โดยสารเพื่อความปลอดภัย ตั้งแต่ก่อนที่ผู้โดยสารจะก้าวขึ้นเครื่องบินจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง แล้วก็ส่งผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน การเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ใช่แค่การส่วมใส่ชุดที่สวยงาม แต่ความสวยงามนั้นย่อมมาพร้อมกับหน้าที่ความรับผิดชอบอีกมากมายดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่สนใจอยากจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จำเป็นจะต้องรู้วิธีการเตรียมตัวในการสมัคร ว่าจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อจะทำให้ตัวเองสามารถก้าวไปถึงความฝันนี้ได้สำเร็จ วันนี้จะมาสรุปเทคนิคการเตรียมตัวเพื่อสมัครเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 5 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1. การเตรียมเอกสารและรูปถ่าย ก่อนจะสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเราจะต้องมีการเตรียมเอกต่าง ๆ ให้พร้อม โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อสายการบินต่าง ๆ ประกาศรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่ละสายการบินก็จะแจ้งให้ทราบว่าทางสายการบินต้องการเอกสารอะไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่เอกสารที่จำเป็นจะต้องเตรียมให้พร้อมก่อนการสมัคร มีดังต่อไปนี้บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง และสำเนา พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อยสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อยเอกสารการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (กรณีที่มีการเปลี่ยน)สูติบัตร (บางสายการบินอาจต้องการ)สำหรับผู้สมัครชายจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญทางการทหารเผื่อไว้ด้วย (บางสายการบินอาจต้องการ)สำเนาเอกสารวุฒิการศึกษา หรือทรานสคลิป พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย (บางสายการบินต้องใช้ตัวจริงด้วย)เอกสารแสดงผลการสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษ (TOEIC) โดยควรมีอายุไม่เกิน 2 ปี (ควรมีทั้งตัวจริง และสำเนา) คะแนนที่แต่ละสายการบินต้องการจะแตกต่างกันไป ควรสอบให้ได้คะแนนอย่างต่ำ 600 คะแนนขึ้นไป แต่ในบางสายการบินจะไม่มีระบุในเอกสารการสมัคร เพราะทางสายการบินจะใช้ข้อสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษของทางสายการบินโดยตรง เช่น สายการบินทางฝั่งตะวันออกกลาง เอกสารประวัติส่วนตัวของผู้สมัคร (CV/Resume) เป็นสิ่งที่สำคัญมาก จะต้องเตรียมให้พร้อม ต้องมีความยาวอย่างน้อย 1-2 หน้ากระดาษ A4 (ควรมีสำรองไว้อย่างน้อย 4 ชุด) เผื่อกรรมการขอเพิ่ม เราจะได้มีพร้อมให้กรรมการหนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริงและสำเนาหน้าที่มีรูปผู้สมัคร พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย (บางสายการบินอาจไม่ใช้) แต่ควรเตรียมให้พร้อมไว้ก่อนรูปถ่าย (Photo) สำหรับรูปถ่ายที่ใช้เพื่อการสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้น จะมีขนาดมาตรฐานอยู่ 2 ขนาด คือ รูปถ่ายเต็มตัวขนาด 4x6 นิ้ว และรูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2x2 นิ้ว (Passport Size)หมายเหตุ: ในบางสายการบินเราจะต้องเข้าไปกรอกเอกสารการสมัครออนไลน์ก่อนที่จะเดินทางไปสมัครในวันจริง เช่น สายการบินฝั่งตะวันออกกลาง 2. การเตรียมเสื้อผ้า หน้า ผม และบุคลิกภาพ เสื้อผ้า หน้า ผม และบุคลิกภาพ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง เพราะจะสามารถดึงความสนใจจากกรรมการ และสามารถสร้างความประทับใจแรกพบให้กับกรรมการได้ เพราะว่ากรรมการจะมองที่การแต่งตัว และรูปลักษณ์ภายนอกก่อน ก่อนที่จะเริ่มการสนทนา ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านนี้จึงเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก หนุ่มสาวทุกคนจะต้องมีการเตรียมตัวเองให้พร้อมที่สุดก่อนวันสมัครชุดในการสมัคร สำหรับวิธีการเตรียมชุดที่จะใส่ไปสมัครพนักงานตอนรับบนเครื่องบินนั้น สามารถทำได้สองแบบคือ การเช่าตามร้านเช่าชุด หรือการตัดชุดใหม่ อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน โดยทางสายการบินจะระบุอย่างชัดเจนเลยว่าชุดที่ใส่มาสมัครจะต้องเป็นแบบ Business Attire หรือการใส่สูทนั่นเอง ผู้ชาย: การแต่งกายของผู้ชาย จะต้องใส่สูท และผูกเนคไท การเลือกสีสูทควรเลือกสีที่สุภาพ เช่นสีเทาเข้ม สีดำ หรือสีกรมท่า ส่วนเสื้อเชิ้ตด้านในควร เป็นสีขาว การเลือกเนตไทควรเลือกสีที่เรียบ ๆ ไม่มีลวดลายมากเกินไป ส่วนอย่างอื่น ๆ เช่น เข้มขัดควรใส่เป็นเข้มขัดหนังสีดำ รองเท้าควรใส่เป็นรองเท้าคัชชูสีดำ และขัดให้เงา ถุงเท้าควรจะเลือกใส่เป็นสีเดียวกับกางเกง นาฬิกาควรเลือกเป็นสีเงิน สีดำ หรือสีน้ำตาล ในส่วนของการเลือกกระเป๋าถือ ควรเลือกแบบที่เรียบ สีสันไม่ฉูดฉาด และใบไม่ใหญ่จนเกินไป ผู้หญิง: การแต่งกายสำหรับผู้หญิง ควรเลือกเป็นสูทสีพื้น (เป็นแบบแขนยาว หรือครึ่งแขนก็ได้) และห้ามมีลวดลาย ส่วนกระโปรงต้องเป็นสีเดียวกันกับเสื้อสูท และเนื้อผ้าจะต้องเป็นแบบเดียวกันกับเสื้อสูท เวลาติดกระดุมจะต้องไม่คับ หรือหลวมจนเกินไป ดังนั้นควรเลือกชุดสูทที่พอดีตัวมากที่สุด ส่วนเสื้อเบลาส์ หรือเสื้อตัวในสูท ควรเลือกเป็นสีอ่อน เรียบ และไม่มีลวดลาย ใส่แล้วต้องขับกับสีสูท ซึ่งส่วนมากจะนิยมใส่เป็นสีขาว สีเบส บางคนอาจจะเลือกใส่แค่เสื้อเบลาส์ ไม่ใส่สูททับก็ได้ ถ้าเลือกแต่งแบบนี้ควรเลือกผ้าที่ไม่บางเกินไป จะต้องดูเรียบร้อย และไม่ควรใส่เสื้อด้านในเสื้อเบลาส์ที่มีสีฉูดฉาด กระโปรงควรมีความยาวครึ่งเข่า ไม่ควรสั้น หรือยาวจนเกินไป และจะต้องไม่แน่น เพราะจะได้ลุกนั่งสะดวก ถุงน่องควรใส่เป็นสีเนื้อเท่านั้น และควรมีสำรองติดกระเป๋าไว้ด้วย เผื่อเกิดถุงน่องรัน หรือย่นขึ้นมาจะได้มีไว้เปลี่ยน ต่างหูควรเป็นต่างหูมุก (บางคนมีรูหูเยอะ แต่ต้องใส่ข้างละรูเท่านั้น) นาฬิกาควรเลือกเป็นสีเงิน สีดำ หรือสีน้ำตาล ส่วนร้องเท้าคัชชูควรเลือกเป็นสีดำ ความสูง 1.5 - 3 นิ้ว เพราะถ้าสูงเกินไปจะทำให้เดินไม่สะดวก สุดท้ายคือ กระเป๋า ควรเลือกแบบที่ดูเรียบ เข้ากับชุด และใบไม่ใหญ่จนเกินไปการแต่งหน้าและทรงผม ผู้ชาย: โดยปกติผู้ชายก็มักจะไม่ค่อยแต่งหน้ากันเท่าไหร แต่การไปสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือสจ๊วตนั้น เราก็ต้องดูแลผิวหน้าของเราให้สดใสเป็นพิเศษ อาจจะต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นด้วยการทาครีม หรือมอยเจอไรเซอร์ และทากันแดดที่มีสีนิดหน่อย หรือใช้เป็นเมคอัพสีเบสที่ช่วยทำให้ผิวดูสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับคนที่บริเวณใต้ตาคล้ำ ก็สามารถปกปิดความคล้ำด้วยคอนซีลเลอร์เพิ่มได้ ส่วนคนที่ผิวหน้ามันให้ทาแป้งฝุ่นไร้สีทับ และลิปสติกควรจะใช้เป็นลิปมันเท่านั้น สำหรับทรงผมผู้ชายนั้น ควรตัดให้เรียบร้อยและไม่ยาวจนเกินไป ต้องเซ็ตผมให้ดูดี ส่วนหนวดเคราก็ต้องโกนให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน ผู้หญิง: การดูแลผิวหน้าถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก่อนการแต่งหน้าเราจะต้องบำรุงผิวหน้าของเราให้ดี ส่วนเทคนิคการแต่งหน้าของผู้หญิงนั้น จะต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของสายการบิน เพราะแต่ละสายการบินก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น สายการบินฝั่งตะวันออกกลางเน้นการแต่งหน้าที่คมเข้มมากกว่าสายการบินฝั่งเอเชีย ในส่วนของการลงรองพื้นต้องลงให้เนียน และไม่หนาจนเกินไป คนที่มีจุดด่างดำควรปกปิดด้วยคอนซีลเลอร์ สีแป้งควรเลือกสีที่เหมาะกับสีผิวของตัวเอง การเขียนคิ้วต้องเป็นเส้นสวย ปลายคิ้ววาดให้โก่งพองาม การแต่งตาควรแต่งตาด้วยอายแชโดว์สีเอิร์ธโทน จากนั้นกรีดอายไลน์เนอร์ แล้วปัดมาสคาร่าให้ขนตาเด้งสวย (ห้ามติดขนตาปลอม) แล้วปัดแก้มให้ดูสวยงามพอเหมาะ และสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ สีปากอาจเลือกลิปสติกเนื้อแมตต์ตามสีของแต่ละสายการบิน เช่น Emirates เลือกทาลิปสติกสีแดง ส่วน Qatar Airways ให้ทาเป็นสีแดงอมเลือดหมู หากเป็นสายการบินในเอเชีย หรือสายการบินในไทยอาจเลือกทาลิปติกสีแดง หรือสีชมพูก็ได้ สำหรับทรงผมนั้น ไม่ว่าจะเป็นสายการบินไหนก็จะต้องเป็นทรงที่สุภาพเรียบร้อย ต้องรวบผมให้ตึงไปด้านหลัง แล้วม้วนผมให้เรียบร้อย อาจจะใช้ที่ม้วนผมโดนัทช่วยก็ได้ หรืออาจจะใช้เป็นที่ม้วนผมแบบอื่นที่มีขายตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไป กิ๊บติดผมควรใช้เป็นสีดำเท่านั้น จากนั้นก็หวีผมให้เรียบ เก็บไรผม และฉีดสเปรย์ให้แน่นเพื่อกันผมดีดบุคลิกภาพ บุคลิกภาพถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญมากในการสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จำเป็นจะต้องดูแลเรื่องบุคลิกภาพของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การยืน หรือการนั่ง รวมไปถึงการแสดงออกทางร่างกาย สีหน้า แววตา และการพูดจา ล้วนแล้วแต่สามารถสร้างความประทับใจให้แก้คณะกรรมการได้ทั้งสิ้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องฝึกฝน และปฏิบัติให้เกิดความเคยชินอยู่เสมอ 3. การเตรียมตัวด้านภาษา ภาษาถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพราะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องพบเจอผู้โดยสารหลากหลายเชื้อชาติ ส่วนภาษาที่ใช้เป็นหลักก็คือภาษาอังกฤษ ดั้งนั้นผู้สมัครจึงจำเป็นจะต้องมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี ไม่ว่าจะเป็น การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพราะทุกขั้นตอนการสมัครจะใช้ภาษาอังกฤษทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการกรอกใบสมัคร การทำข้อสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษ ตลอดจนขั้นตอนการสอบสัมภาษณ์ ดังนั้นทุกคนจะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ ต้องมั่นฝึกฝน มั่นเรียนรู้เพิ่มเติม และพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษของตัวเองอยู่ตลอดเวลา 4. การเตรียมตัวในการตอบคำถามและการสอบสัมภาษณ์ การสอบสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะกรรมการจะได้รู้ว่าผู้สมัครมีความรู้ ความสามารถมากพอที่จะได้ร่วมงานกับทางสายการบินของเขาหรือไม่ และอีกอย่างที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความรู้ ความสามารถของผู้สมัครก็คือ ทัศนคติ (Attitude) ของผู้สมัครนั่นเอง ในการสอบสัมภาษณ์นอกจากกรรมการจะต้องการทราบข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัครแล้ว เขาก็อาจจะถามเกี่ยวกับข้อมูลของสายการบินด้วย ดังนั้นแต่ละคนจึงจำเป็นจะต้องเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ของสายการบินที่เราสมัครให้พร้อม เทคนิคการสอบสัมภาษณ์ที่อยากจะแนะนำคือ การเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องตื่นเต้น หรือกดดันจนเกินไป ก่อนที่จะไปถึงรอบสอบสัมภาษณ์นั้นเราควรฝึกตอบคำถามให้เกิดความเคยชิน โดยสามารถหาตัวอย่างคำถามจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ต่าง ๆ แล้วนำมาฝึกฝนตอบคำถามให้เป็นตัวเองให้มากที่สุด อาจจะยืน หรือนั่งหน้ากระจก แล้วฝึกพูด ฝึกตอบคำถาม เพราะเราจะได้เห็น สีหน้า แววตา และท่าทางการแสดงออกของตัวเอง ว่าตัวเองแสดงออกได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมหรือไม่ 5. การเตรียมพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจ ร่างกายและจิตใจของเรานั้น ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เราจะต้องดูแลสุขภาพของเราให้ดี มั่นออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะขั้นตอนการสมัครจะใช้เวลานานพอสมควร ประมาณ 1-3 วัน ดังนั้นเราจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรง และพร้อมที่สุดในบางสายการบินที่ไม่ได้จำกัดส่วนสูงของผู้สมัคร อย่างสายการบินฝั่งตะวันออกกลาง ผู้สมัครต้องสามารถเอื้อมแตะที่ระดับความสูงที่ทางสายการบินกำหนดคือ 212 เซนติเมตร ดั้งนั้นการฝึกฝนการยืดกล้ามเนื้อแขนและขา จึงมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ไม่ได้สูงมาก เทคนิคที่อยากจะแนะนำคือ การออกกำลังกาย เช่น การเล่นโยคะ เพื่อเป็นการยืดกล้ามเนื้อบริเวณแขน ขา และลำตัวของเราให้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เทคนิคต่อมาคือ การวัดความสูงที่ 212 เซนติเมตร หรืออาจจะเผื่อไว้ที่ 215 เซนติเมตรก็ได้ แล้วมาร์คจุดไว้ตรงบริเวณกำแพงห้อง แล้วมั่นยืดตัวเอื้อมแตะทุกวัน เพื่อให้ร่างกายของเราเกิดความเคยชิน ซึ่งเทคนิคนี้ก็สามารถช่วยได้ดีเลยทีเดียว ในส่วนของจิตใจนั้น เราไม่ควรกดดันตัวเอง และเครียดจนเกินไป ควรทำตัวให้สบาย ผ่อนคลายให้มากที่สุด เพราะหากเราเครียดจนเกินไปอาจจะทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง ความวิตกกังวลก็จะแสดงออกมาทางสีหน้าของเรา กรรมการก็จะสัมผัสได้ว่าเราไม่พร้อม ดังนั้นการเป็นตัวของตัวเอง และไม่วิตกกังวลจะดีที่สุด หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่อยากจะเดินตามความฝันในการสมัครเป็นพนักงานตอนรับบนเครื่องบิน ขอให้หนุ่มสาวทุก ๆ คนจงสมหวังกับสิ่งที่ตัวเองหวังเอาไว้ จำจงจำไว้เสมอว่า เมื่อมีโอกาสเข้ามา จงทำทุกวินาทีให้ดีที่สุด จงเชื่อมั่นในตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง แล้วสักวันหนึ่งพวกคุณจะได้ติดปีกบินดังที่ใจปรารถนา เครดิตรูปภาพ freepikภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7