สวัสดีครับ อัญมณีถือว่าเป็นสิ่งที่ลํ้าค่าสําหรับการครอบครอง เนื่องจากมูลค่าที่สูงของอัญมณีเเละความหายากของอัญมณี ทําให้ผู้คนสนใจเเละอยากเก็บไว้ในครอบครอง เเต่รู้หรือไม่ว่า เทคโนโลยีนิวเคลียร์ถือว่าเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มคุณค่าของอัญมณีให้ดียิ่งขึ้น เช่น สีของอัญมณีที่วิบวับมากขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่าเทคโนโลยีนิวเคลียร์กับการฉายอัญมณีเกี่ยวข้องกันอย่างไร วันนี้เรามีคําตอบจะมาอธิบายกันครับ ก่อนอื่นเราจะมาบอกประเด็นเบื้องต้นทั้งหมดที่จะพูดมีดังนี้นะเเหล่งกําเนิดทางรังสีที่ใช้ในทางอุตสาหกรรมการทําอันตรกิริยาของรังสีต่อวัสดุตัวกลางการฉายรังสีของอัญมณีการเพิ่มคุณค่าของโทเเพซประเด็นเเรกที่เราจะพูดถึงนั่นคือ เเหล่งกําเนิดทางรังสีที่ใช้ในทางอุตสาหกรรม โดยจะเเบ่งเป็น 3 ประเภท ซึ่งจะช่วยในการฉายรังสีของอัญมณีที่เเตกต่างกันตามชนิดของรังสี ได้เเก่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย ขนาด 2 MW โดยรังสีที่ใช้ในเเหล่งกําเนิดทางรังสี คือ รังสีนิวตรอน เเละรังสีเเกมมาเเหล่งกําเนิดรังสีเเกมมาเเบบไอโซโทป Co-60 เเละ Cs-137 โดยรังสีที่ใช้ในเเหล่งกําเนิดทางรังสี คือ รังสีเเกมมาเครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนเเบบเชิงเส้น เป็นเครื่องเร่งอนุภาคขนาด 10 MeV เเละ 20 MeV ทั้งสองตําเเหน่งของพลังงานจะมีกําลังทางไฟฟ้าอยู่ที่ 20 kW รังสีที่นํามาใช้งานคือ อิเล็กตรอน เเละเบรมส์ชตราลุงเเหล่งกําเนิดทางรังสีทั้ง 3 ประเภทจะมีความเเตกต่างตรงที่สมบัติเเละการติดตั้ง จะต้องมีสภาวะเหมาะสมกับต้นกําเนิดรังสี เเละผลของการฉายอัญมณีจะขึ้นกับสมบัติทางกายภาพเเละสมบัติทางเคมีของวัสดุชนิดนั้นๆ สมบัติของวัสดุที่นํามาฉายรังสี ได้เเก่ ของเหลว, สารอินทรีย์, สารอนินทรีย์, เเก๊ส, สารที่เป็นเนื้อเดียวกันเเละสารผสมการทําอันตรกิริยาของรังสีต่อวัสดุตัวกลาง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้เกิดการฉายรังสีของอัญมณีผ่านเเหล่งกําเนิดทางรังสีของประเภทต่างๆ โดยเราจะยกตัวอย่างการทําอันตรกิริยาของรังสี มา 4 ชนิด นั่นคือLess Energetic Light (LR) เป็นเเสงที่ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนที่ของอะตอมและโมเลกุลคล้ายกับแสงปกติทั่วไปMore Energetic Light (UV) หรืออีกชื่อคือเเสงยูวี เป็นเเสงที่ทำให้เกิดการแตกตัวและการทำลายในโมเลกุลไมโครตรอน (Microtrons): มีประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงพลังงานได้ที่บีมเพาเวอร์ไม่สูงนัก (ประมาณที่กําลัง1 kW เเละ พลังงานที่ 25 MeV)เครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนแบบเชิงเส้น (Electron linacs): เป็นเครื่องเร่งอนุภาคชนิดที่ประหยัดมากที่สุด โดยปกติออกแบบสร้างที่สามารถปรับเปลี่ยนพลังงาน 1 หรือ 2 ช่วงและมีบีมเพาเวอร์สูง (ช่วงพลังงาน 10 และ 20 MeV, กําลังทางไฟฟ้า 10-20 kW) อันตรกิริยาของรังสีชนิดนี้สามารถนําไปผลิตโพเเทซสีฟ้าได้ หรือ Blue topaz นั่นเองการฉายรังสีของอัญมณี ถือว่าเป็นส่วนที่สําคัญของบทความครั้งนี้เลยครับ เพราะอัญมณีหลายชนิดสามารถเอาไปฉายรังสีได้ โดยใช้เครื่องฉายรังสีต่างชนิดกัน ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าของอัญมณีเเละสีของอัญมณีวิบวับขึ้นด้วย ส่งผลให้มูลค่าการขายของอัญมณีมีมากขึ้นเมื่อหลังจากการฉายรังสีเสร็จสิ้น โดยอัญมณีเเต่ละชนิดก็มีความสามารถในการเปลี่ยนสีที่เเตกต่างกัน อัญมณีบางชนิดก็เปลี่ยนสีง่าย เเต่อัญมณีบางชนิดก็เปลี่ยนสียาก ไม่ค่อยมีความเปลี่ยนเเปลง โดยจะเเบ่งประเภทการฉายรังสีของอัญมณีตามชนิดของรังสีที่ใช้งานได้ดังนี้รังสีเเกมมา จากเเหล่งกําเนิดรังสี Co-60 เหมาะสมกับอัญมณีประเภทเบริล (beryl) ,ควอตซ์ (quartz)เครื่องเร่งอิเล็กตรอนขนาดพลังงานที่ 10 MeV เเละ 20 MeV เหมาะสมกับอัญมณีโทเเพซเพียงอย่างเดียว เช่น Sky blue topazเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย ประเภทฉายรังสีภายในแกนเครื่องปฏิกรณ์ (เป็นรังสีนิวตรอนพลังงานต่ำและรังสีแกมมา) เหมาะสมกับอัญมณีประเภทโทเเพซเเละเพชร (Diamond)เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย ประเภทฉายรังสีนอกแกนเครื่องปฏิกรณ์ (เป็นรังสีนิวตรอนพลังงานสูง) รวมกับการฉายด้วยเครื่องเร่งอิเล็กตรอน เหมาะสมกับโทแพซ (topaz) อย่างเดียวการเพิ่มคุณค่าของอัญมณีโดยวิธีดั้งเดิมสามารถเเบ่งเป็นสองวิธีได้เเก่การเผาภายใต้ความดันสูง เหมาะสําหรับทับทิมเเละเเซปไฟร์การเผาปกติ ทําให้สีของอัญมณีเปลี่ยนเเปลงเเละมีความเข้มของสีอัญมณีมากยิ่งขึ้นการเพิ่มคุณค่าของโทเเพซ เป็นประเด็นสุดท้ายที่เราจะพูดคุยในวันนี้นะครับ การเพิ่มคุณค่าของโพเเทซจะสามารถเเบ่งหมวดย่อยได้ทั้งหมด 2 หมวด ได้เเก่ในเเกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หรือ incore เป็นการฉายรังสีในเเกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 2 - 15 MW ถ้าเป็นเเบบเปียกในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะใช้ระยะเวลาประมาณ 8 - 30 ชั่วโมง โดยใช้รังสีนิวตรอนพลังงานตํ่าหรือเทอร์มอลนิวตรอน หลังจากการฉายรังสี ต้องทิ้งอัญมณีไว้ให้กัมมันตภาพรังสีสลายตัว อย่างน้อย 3 ปี เช่น London blue topazนอกเเกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หรือ outcore เป็นการใช้ภาชนะบรรจุเเร่โทแพซในภาชนะภายใต้ความกดอากาศที่ความดัน 2 บาร์ โดยใช้เวลาในการฉายรังสี 11 วัน สีของอัญมณีมีการเปลี่ยนเเปลงจาก สี faint yellow เป็น สี light green หลังการฉายรังสีพบว่า มีกัมมันตภาพรังสีต่ำและพบไอโซโทปที่มีครึ่งชีวิตยาวน้อยมาก สีจะเสถียรที่อุณหภูมิสูงไม่เกิน 200 องศาเซลเซียส ระหว่างการฉายรังสีจะเกิดความร้อนจำเป็นต้องหล่อเย็นตลอดเวลาในการฉาย ใช้ระยะเวลาในการสลายของรังสีประมาณ 2-3 เดือนหลังจากการฉายรังสีแล้ว หลังจากนั้นฉายด้วยเครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนเชิงเส้น ที่พลังงาน 20 MeV ปริมาณรังสีที่ใช้ ประมาณ 30 kGy เช่น Swiss blue topaz เเละ Sky blue topaz โดยเเร่ทั้งสองชนิดนี้จะเเตกต่างกันที่ชนิดของเครื่องเร่งอิเล็กตรอนที่ต่างชนิดกันเสร็จสิ้นกันไปเเล้วนะครับ สําหรับบทความในครั้งนี้ เราหวังว่าผู้อ่านจะได้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่ใช้กับอัญมณีมากขึ้นนะครับ หลายคนอาจคิดว่าเทคโนโลยีนิวเคลียร์จะเอาไปใช้ประโยชน์ด้านอาวุธนิวเคลียร์อย่างเดียวหรือเปล่า เเต่ที่จริงเเล้วเทคโนโลยีนิวเคลียร์ สามารถเอาไปใช้ทางด้านอุตสาหกรรมได้ด้วย อย่างเช่น เเง่มุมของการฉายอัญมณี ก่อนจะลากันวันนี้ เราจะมีรูปเปรียบเทียบความต่างของอัญมณีโทเเพซก่อนฉายรังสีเเละหลังรังสีมาให้ผู้อ่านให้รับชมกันครับ ไว้เจอกันบทความหน้านะครับ สวัสดีครับสําหรับบทความนี้เป็นส่วนขยายหรือภาคต่อจาก รีวิว 1 Day Trip @ สทน.(สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์เเห่งชาติ) ในเรื่องการฉายอัญมณีโดยวิธีนิวเคลียร์ ซึ่งทางสทนจะมีบริการฉายอัญมณีเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ทั้งด้านสี, รูปทรง, ความวิบวับ สําหรับผู้อ่านคนไหนอยากทราบว่าในสทน. เค้าทําอะไรกันบ้างในด้านรังสีเเละนิวเคลียร์สามารถคลิกเข้าไปชมได้เลยนะครับเเหล่งข้อมูลสําหรับการค้นคว้าเพิ่มเติมhttp://nkc.tint.or.thอ้างอิงรูปภาพรูปภาพปก จาก pixabay โดย Skitterphotoรูปภาพ 3 เเละ รูปภาพ 7 โดย นักเขียนรูปภาพ 1 จาก pixabay โดย johnno49รูปภาพ 2 จาก pixabay โดย alusruviรูปภาพ 4 จาก pixabay โดย tortic84รูปภาพ 5 จาก pixabay โดย PublicDomainPicturesรูปภาพ 6 จาก pixabay โดย alphanumericlogicเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !