กฎหมายไม่อ่านสามวันเลือน ไม่อ่านสามเดือนลืม สามปีเรียนใหม่ ในฐานะที่เราเองก็เรียนนิติศาสตร์ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ซึ่งแน่นอนว่า ใคร ๆ ก็รู้ว่านิติศาสตร์เป็นสาขาวิชาที่อ่านหนังสือเยอะมากจริง ๆ เด็กนิติบางคนถึงกับบ่นเล่น ๆ เลยว่า อ่านเหมือนชาติที่แล้วไปเผาห้องสมุดมา เราเลยอยากมาแชร์วิธีการอ่านหนังสือฉบับเด็กนิติ คณะที่ตำราหนาเท่าตึกใบหยกก็ว่าได้ จริง ๆ แล้ว สมัยเรียนปริญญาตรีใหม่ ๆ พ่อของเราเคยบอกเราไว้ประโยคหนึ่งในวันที่เราเครียดมาก ๆ ช่วงใกล้สอบ ยิ่งใกล้สอบ ยิ่งลน ทำให้การอ่านหนังสือสับสนไปหมด พ่อบอกเราว่าหนังสืออ่านซ้ำ ๆ ก็จำได้ พ่อพูดสั้น ๆ แค่นั้น แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเข้าใจ แล้วเกิดเป็นแนวทางที่จะมาแนะนำทุกคนในวันนี้ กับวิธีอ่านยังไงให้จำไม่มีวันลืม เริ่มกันเลยยยยยย !!!! 1 . วางแผนการอ่านหนังสือ การวางแผนอ่านหนังสือที่ดี ย่อมทำให้ได้รับการอ่านที่มีคุณภาพ บางคนอาจถนัดอ่านหนังสือตอนเช้าตรู่ ในขณะที่บางคนถนัดอ่านหนังสือช่วงกลางคือ อย่างเรามักจะมีสมาธิอ่านหนังสือมากที่สุดช่วงสามทุ่มเป็นต้นไป เราจึงมักจะทำกิจวัตรประจำวันให้เสร็จก่อนสามทุ่ม และเริ่มอ่านหนังสือตอนสามทุ่มเป็นต้นไป ในการวางแผนการอ่านหนังสือ เราขอแนะนำทุกนว่าว่าควรเริ่มจากวิชาที่คิดว่าถนัดก่อน เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจให้สามารถอ่านวิชาวิชาอื่นต่อไปได้ หากเริ่มอ่านวิชาที่ยาก อาจทำให้ท้อและล้มเลิกไปได้ และที่สำคัญมาก ๆ แนะนำว่าควรทำตารางอ่านหนังสือในแต่ละวัน เพื่อให้มีวัตถุประสงค์ในการจะบรรลุเป้าหมาย และเป็นการกดดันตัวเองทางอ้อมอีกทางหนึ่ง การมีจุดโฟกัสจะทำให้เราเห็นจุดหมายชัดขึ้น 2. อ่านแต่ละรอบต้องมีคุณภาพ แม้เราจะเกริ่นในช่วงต้นว่าการอ่านซ้ำจะทำให้จำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจำนวนรอบที่มากจะมีคุณภาพ การอ่านที่มีคุณภาพคือการอ่านอย่างตั้งใจและมีสมาธิกับสิ่งที่อ่าน เคล็ดลับอีกหนึ่งข้อของเราคือ หลังจากอ่านจบหนึ่งเรื่องนั้นให้เราปิดหนังสือแล้วสรุปออกมาเป็นคำพูดของตัวเอง จะพูดออกเสียงหรือจดใส่กระดาษก็ได้ วิธีนี้จะทำให้เราได้ทราบว่าตัวเองเข้าใจสิ่งที่ตัวเองอ่านมากน้อยเพียงใด 3. จดสรุปเนื้อหาที่ได้อ่าน การจดสรุปจะทำให้ปริมาณการอ่านของผู้อ่านในครั้งต่อไปมีจำนวนน้อยลง และสามารถอ่านทวนได้มากขึ้น อย่างผู้เขียนมักยอมเสียเวลาในการจดสรุปบทเรียนไว้เสมอ เพราะคิดว่าครั้งที่เราอ่านทบทวน เนื้อหาจะเป็นเนื้อหาที่ได้รับการกลั่นกรองตามความเข้าใจของผู้เขียนแล้ว 4. อ่านทวนสรุปให้ชินจนเป็นกิจวัตร หลังจากที่อ่านรอบแรกจบพร้อมสรุปแล้วนั้น การอ่านรอบที่สอง เราจะอ่านเพียงสรุปที่ทำไว้เท่านั้น หากเรามีวิชาที่สรุปไว้เยอะ ก็อาจอ่านวันเว้นวัน ให้จบสรุปของทุกวิชา เพราะเราถือว่าเป็นการทบทวนบทเรียนไปทุกวัน โดยเราไม่จำเป็นต้องอ่านคิดวิเคราะห์มากนั้น ให้อ่านอย่างไว แต่การอ่านซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จะทำให้เราเข้าใจและซึมซับความรู้ที่ได้จากสรุปนั้นเอง 5. แบ่งปันความรู้ที่ได้ให้ผู้อื่น อาจเริ่มจากการติวให้เพื่อน ๆ ในกลุ่ม หรือเอาสรุปแล้วอธิบายให้เพื่อนในกลุ่มฟัง นอกจากจะเป็นการแบ่งปันคนอื่นแล้ว ยังถือเป็นการทบทวนอีกวิธีหนึ่งที่เราขอบอกเลยว่าวิธีนี้จะทำให้คุณจำบทเรียนได้นานมากยิ่งขึ้น และเป็นสร้างมิตรภาพอีกด้วย สุดท้ายแล้ว การอ่านหนังสือจะว่างง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก แต่หากเราไม่อดทนเพื่อความสำเร็จ สุดท้าย เราก็ต้องอดทนเพื่อความลำบากอยู่ดี ... ....มีเพียงเราเท่านั้นที่ทำเพื่อตัวเองได้...ภาพประกอบหัวข้อบทความ โดย https://www.pexels.com/cs-cz/foto/cerne-knihy-knihy-literatura-159720/ภาพประกอบที่ 1 โดย https://www.pexels.com/cs-cz/foto/blok-dreveny-povrch-kancelarske-potreby-kompozice-760710/ภาพประกอบที่ 2 โดย https://www.pexels.com/cs-cz/foto/cist-cteni-dokument-dospely-258353/ภาพประกอบที่ 3 โดย https://www.pexels.com/cs-cz/foto/osoba-zena-pracovni-stul-blok-3059745/ภาพประกอบที่ 4 โดย https://www.pexels.com/cs-cz/foto/diskuse-firma-muz-osoba-2173508/