I Kill Giants ภาพยนตร์ดราม่า แฟนตาซีที่ดัดแปลงมาจาก Comic ในชื่อเดียวกัน ตัวหนังมีคำโปรยและการโปรโมทที่น่าสนใจ เพียงแค่จั่วหัวไว้ว่าจากโปรดิวเซอร์ Harry potter ก็ถึงกับตาลุกวาว แล้วเริ่มหวังแล้วแน่นอนว่าจะได้เจออะไร ๆ ที่แฟนตาซี แต่หากคิดเช่นนั้นอาจมีต้องผิดหวังเป็นแน่ เพราะนี้ไม่ใช่หนังแฟนตาซีจ๋าขนาดนั้น แต่เป็นหนังเชิงจิตวิทยาวิเคราห์ตัวละครไปเสียมากกว่า หน่ำซ้ำตัวภาพยนตร์ยังถูกคำครหาว่าไม่อาจเทียบเคียงต้นฉบับได้ แต่สำหรับผมนั้นไม่เคยอ่านต้นฉบับมาก่อน จึงเอ่ยได้ว่า I Kill Giants เป็นหนังเชิงจิตวิทยาที่ถ่ายทอดออกมาผ่านภาพฝันแฟนตาซีสุดหรูหรา ดูสนุก ๆ เพลิน ๆ ให้แง่คิดมัน ๆ ถึงเวลาอันมีค่าของความสัมพันธ์ และความหมายชีวิตได้อย่างน่าสนใจกับเรื่องราวของ... บาบาร่า เด็กสาวผู้มีอาการต่อต้านสังคมขั้นรุนแรง ถึงขั้นที่ต้องเชิญหมอจิตแพทย์มาประจำโรงเรียนคอยพูดคุยกับเธอเลยทีเดียว แต่นั้นก็ดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่บาบาร่าฝันถึง เพราะที่จริงแล้ว เธอแอบกุมความลับไว้บางอย่าง ความลับนั้นเธอบอกกับเพื่อนคนเดียวของเธอที่พึ่งย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ โซเฟีย และความลับนั้นก็คือ บาบาร่า เธอแอบไปฆ่าเหล่ายักษ์ที่อยู่ในป่า ที่คอยจะกลืนกินวิญญาณของผู้คนในเมือง และ แม่ของเธอ บาบาร่า จึงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการวางแผนที่จะล้มยักษ์เพื่อปกป้องคนในเมืองและครอบครัวเธอเองให้ได้ โดยไม่สนคำครหาดูถูกดูแคลนจากรอบข้างทั้งสิ้น แล้วโซเฟีย ที่รู้ความจริงว่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง เธอจะทำยังไงกับ บาบาร่า แค่เรื่องย่อก็เดาได้แล้วว่า บาบาร่า เธอกำลังวาดฝันบางอย่างเพื่อลมความจริงที่โหดร้ายของตัวเองอยู่ คำอ้างที่เธอไปล้มยักษ์ในป่า เธอบอกว่ายักษ์เป็นปีศาจที่ดุร้าย มันจะกลืนกินทุกสิ่ง มีแต่ความเจ็บปวดที่อยู่กับเรา คราวนี้คำถามที่น่าสนใจก็คือ ยักษ์ จำต้องเป็นสัตว์ประหลาดเสมอมั้ยไม่ว่าในจิตนาการ หรือโลกแห่งความจริง เพราะตัวใหญ่ยักษ์จึงกลายเป็นสัตว์ประหลาดงั้นหรือ ทั้งที่มิกกี้เมาส์สามารถล้มยักษ์ได้ถึงสองหน โดยที่ไม่ต้องทำอะไร หมอจิตแพทย์ในหนังเรื่องนี้กล่าวคำนี้กับ บาบาร่า และยืนยันกับเธอว่ามันไม่มีอยู่จริงหรอก ยักษ์เป็นเพียงจินตนาการที่เธอสร้างเพื่อหลอกตัวเอง ว่าหากเธอจัดการยักษ์ได้ แม่ของเธอก็จะไม่ตาย แต่สัจธรรมของความจริงบนโลกใบนี้ ทุกสิ่งล้วนแล้วต้องดับสูญ แต่สิ่งสำคัญของการมีชีวิตคือการอยู่เพื่อหาความสุข อยู่เพื่อใครซักคน เราไม่อาจหลีเลี่ยงความตายของคนที่เรารักได้ ฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือ การได้ใช้เวลาที่เหลือ ได้อยู่กับเขาให้มากที่สุดหลังจากรับชมเรื่องนี้จนจบแล้ว มานั่งขบคิดว่า อันแท้จริงยักษ์ในเรื่องนี้หมายถึงอะไรตัวเราเองก็ต่างเป็นผู้ล้มยักษ์เช่นเดียวกับบาบาร่าหรือเปล่า เราเองก็ต่างต้องเจอเรื่องแย่ ๆ ผิดหวัง ชอกช้ำ เจ็บปวด นั้นคือช่วงเวลาที่ความมืดมิดมันสั่งให้เรากระทำในสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป เราเองก็ต่างเป็นผู้ล้มยักษ์เฉกเช่นบาบาร่า เมื่อเราเจอเรื่องเหล่านั้นมันยากนักที่จะก้าวข้ามและยอมรับความจริงให้ได้ เราสร้างศัตรูตัวฉกาจขึ้นมาเพื่อให้มีอะไรมารับผิดชอบต้องเรื่องที่เราต้องเจอ ให้เราได้สะบายใจและบาปได้ถูกจุด แต่นั้นเป็นวิธีที่จะอยู่กับความผิดพลาด เจ็บปวด ชอกช้ำ เหล่านั้นหรือเปล่า เราต้องหาผู้กระทำผิดเสมอไปมั้ยกับเรื่องที่เกินกำลังจะควบคุมได้ มันอาจจะสะบายใจที่สร้างยักษ์มาเป็นตัวรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด แต่อย่างที่มิกกี้เมาส์จัดการได้ถึงสองครั้ง ยักษ์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ตัวใหญ่และโง่เขลา และมีจิตใจบริสุทธิ์เกินกว่าจะพรากชีวิตใครได้ด้วยซ้ำ ยักษ์จึงอาจจะไม่ใช่ความมืดมิดที่เราต้องเผชิญล้มมันให้ได้ แต่เป็นตัวสัจจะบางอย่างที่บอกให้เราต้องไปต่อให้ได้ แล้วจงยอมรับความจริงที่แสนเจ็บปวดเถอะ เพราะยังเป็นมนุษย์อยู่ ก็จงร้องให้กับจมกับความเศร้า แล้วเมื่อถึงเวลา ก็จงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวการล้มยักษ์ ป่าวประกาศสงครามกับมัน อาจไม่สำคัญเท่าการหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกันติดตามข้าพเจ้าเองได้ที่ยูทูป Funfrom production และได้ที่ Blockditภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=FZ0QKOR5Kgc