“ชุติมันต์ บุรานนท์” หรือ “ครูเอ บรอนซ์ สอนการแสดง” เป็นครูสอนการแสดงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นนักแสดง พิธีกร ทำงานในแวดวงบันเทิงมานานกว่า 30 ปี มีลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางสายบันเทิงมากมาย มีน้อง ๆ หนู ๆ ที่รักทางด้านการแสดงมาสมัครเรียนกับโรงเรียนสอนการแสดงเป็นจำนวนมาก แต่เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเรียนการสอนต้องหยุดลง นอกจากความกังวลจากการติดโรค ก็ยังต้องกังวลจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างมาก ๆ มาทำความรู้จัก ครูเอ บรอนซ์ ที่จะย้อนวันเวลา เล่าเรื่องเส้นทางชีวิตในวงการทางบันเทิง รวมทั้งเรื่องราวการใช้ชีวิตในช่วงที่ โควิด-19 แพร่ระบาดให้ฟังกันค่ะ เส้นทางชีวิตสู่การก้าวเข้ามาในแวดวงบันเทิง เริ่มต้นมาตั้งแต่วัยเด็ก“ผมจบปวส. แผนกบัญชีจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย หรือ BBC ผมชอบงานบันเทิงมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาที่ดูทีวี มีความรู้สึกว่าชอบจังเลย อยากเข้าไปอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมนั้น อยากเข้าไปอยู่ตรงนั้น เชื่อว่าตัวเองต้องทำได้แน่ ๆ เลย แล้วผมก็ชอบเล่น ชอบจินตนาการกับบทบาทต่าง ๆ เวลาเล่นกับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน หรือที่บ้าน พอเล่นแบบนี้ ก็คิดว่าฉันน่าจะไปอยู่ในทีวีได้นะเพราะฉันมีความสามารถ ฉันชอบ ผมก็เลยผันตัวเองและพัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ ในเรื่องของความสามารถ เรียกว่าความสามารถเฉพาะตัวความสามารถเฉพาะตัวในที่นี้หมายถึงว่า เราชอบกิจกรรม เราชอบการแสดง ร้องเล่นเต้นรำ เราก็พยายามพัฒนาตัวเอง เข้ามาอยู่จุดนั้นของโรงเรียนก่อน ซึ่งก็คือกิจกรรมงานประจำปี งานวันเด็ก งานกีฬาสี เราก็มักจะผันตัวเองไปอยู่ในส่วนต่าง ๆ ที่เป็นกิจกรรม อย่างเช่น การแสดงบนเวที การร่ายรำต่าง ๆ กับเพื่อน ตั้งแต่อนุบาลจนถึง ป.6 แล้วก็มาถือธงกีฬาสี เป็นเชียร์หรีดเดอร์ เป็นทุกปีเลยนะ เพราะว่าชอบเต้นอยู่แล้ว เป็นคนอ้วนที่ชอบเต้น ตะมุตะมิ น่ารัก กลม ๆ คนชอบว่าน่ารัก พยายามที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตรงนี้ ขอโอกาสจากรุ่นพี่บ้าง สมัยเราอยู่ ป.3-ป.5 ก็ไปขอรุ่นพี่ ป.6- ป7.ในสมัยนั้น”"โอกาส" ไม่ได้เดินมาหา แต่ "เด็กชายเอ" ในวัยเด็ก เลือกที่จะเดินเข้าไปหาโอกาส“ช่วงเด็ก ๆ ก็จะบอกพี่ ๆ ผมอยากถือธงจังเลย ผมอยากเต้นเชียร์หรีดเดอร์จังเลย พี่ ๆ เขาก็เห็นพฤติกรรมของเราตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าเราชอบกิจกรรมแบบนี้ เขาก็เลยให้โอกาสเรา ก็ทำมาเรื่อย ๆ จนเข้ามัธยม ผมเป็นนักเรียนชั้นป.6 รุ่นที่ 2 จนเข้ามัธยม ก็ทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนจน ม.3 อยู่แนวหน้าทางด้านกิจกรรม เพื่อน ๆ มักจะดันเรามาก่อนเสมอ เพราะรู้ว่าเราชอบกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเต้นลีลาศ รำวงมาตรฐาน ไปโชว์ตามโรงเรียนต่าง ๆ เราก็มักจะได้รับเลือก เป็นคนตัวอ้วนที่เต้นเก่ง รำเก่ง ตอนนั้นนะ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ก็สนุกสนานตามวัย"เมื่อไม่มีโอกาสในการเรียนรู้โดยตรง การใช้วิธี "ครูพักลักจำ" แบบสำนวนโบราณ ที่หมายถึงคนที่แสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง จากผู้ที่มีความรู้ จึงเป็นสิ่งที่ "ครูเอ บรอนซ์" เลือกทำ"ความชอบทางด้านการแสดงทั้งหมดมันอยู่ในสายเลือดของเรา เราอยากจะทำให้ดีที่สุด แล้วพัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ ตอนที่เรียน ปวส. มีเพื่อนคนหนึ่งไปแคสติ้ง (Casting- การคัดเลือกผู้แสดง) แคสงานละคร เราก็ไปกับเพื่อน ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องงานแสดงเลยแต่ไปแคส เป็นละครของ JSL เรื่อง เทวดาตกสวรรค์ ไปแบบว่าไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาก ไปแบบเด็กบ้านนอก ไปกัน 3-4 คนกับเพื่อน ทั้งเพื่อนผู้หญิงเพื่อนผู้ชาย สรุปเราได้คนเดียว ได้แสดงเป็นนักแสดงสมทบ รับบทเป็นตากล้อง มีบทพูดบ้างนิดหน่อย ได้ปลูกฝังความรู้ตรงนั้น ได้ลักเรียนจาก ครูพักลักจำ ในตอนนั้น มาเรื่อย ๆ ครูพักลักจำ จากรุ่นพี่ที่เป็นนักแสดง แล้วมีพี่ที่นับถือมาก พี่นก พรทิพย์ ประเสริฐยิ่งสุข เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยรังสิตตอนนั้น ตอนนี้พี่เขาเกษียณออกมาแล้ว พี่นกเขาจบทางด้านการแสดงจากจุฬาฯ มา ได้เล่นเรื่องนี้ด้วยกัน ก็สนิทกัน เขาให้ความรู้ทางด้านการแสดง ให้คำปรึกษามาเรื่อย ๆ ก็เก็บความรู้ตรงนั้นมา แต่ช่วงนั้นยังเป็นความรู้ที่ไม่เสถียรเท่าไหร่ ตาสีตาสา งู ๆ ปลา ๆ อยู่ พอเรียนจบ ปวส. ก็ต้องหางานทำ ก็ไปสมัครงานได้เป็นฝ่ายการตลาดของหนังสือคู่มือสุขภาพ ต้องไปขายโฆษณาเกี่ยวกับอุปกรณ์สุขภาพทั้งหลายตามโรงพยาบาล ตามคลินิกต่าง ๆ"เส้นทางในการทำงานมีให้เลือก แต่สิ่งที่ไม่ใช่ความรัก“ครูเอ บรอนซ์" เลือกที่จะไม่เลือก และจากการเรียนแบบครูพักลักจำ ได้ก้าวสู้การเป็นนักเรียนการแสดงตัวจริง :) "ทำฝ่ายการตลาดหนังสือ ขายโฆษณามาได้เกือบ 2 เดือน ก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ตัวตนเรา เป็นอาชีพที่ไม่รักที่จะทำแต่ต้องทำ แล้วพอดีไปอ่านหนังสือในออฟฟิศ มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ด้านในมีคอลัมภ์เล็ก ๆ ลงไว้ว่า โรงเรียนสอนการแสดงบุญภัทร์ธุรกิจและการละคร รับสมัครนักเรียนการแสดงโดย โดยครูเล็ก ภัทราวดี เบรดี้ (มีชูธน) ก็ตัดคอลัมภ์นั้นมาเก็บเลย แล้วเดินออกจากบริษัท คือไปบอกเขาว่า ผมลาออกนะครับ ผมไม่สามารถทำตรงนั้นได้ ลึก ๆ ของการลาออกคือผมไม่ได้เงินเดือน ผมได้เป็นค่ารถ ค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กว่าจะได้คือเราก็ต้องสำรองเงินของเราไปก่อน แล้วรู้สึกว่าไม่ไหว เบิกก็ได้ช้า ตัดสินใจว่าไม่ทำแล้ว ขอเบิกค่ารถ ส่วนที่เราจ่ายไปของเราคืนมาแล้วก็ลาออกเลยจากนั้นก็โทรศัพท์ไปที่โรงเรียนบุญภัทร์ธุรกิจและการละครเลย เขาก็นัดวันไปแคส ไปเรียนโรงเรียนการแสดงสมัยก่อนต้องแคสนะครับ มีคนไปแคสเยอะ เราก็ตื่นเต้นจังเลย แคสไปไม่กี่การแสดง พอเราแคสเสร็จ แล้วเขาก็ประกาศว่าเราได้ น่าจะเป็นนักเรียนการแสดงรุ่นที่ 2 หรือ 3 นี่แหละ ผมเรียนการแสดงรุ่นเดียวกับ ก้อย ศิรินุช เพชรอุไร ก็มีอีกหลาย ๆ คนที่ทำงานเบื้องหลังที่เรียนรุ่นเดียวกันมา"จากนักเรียนการแสดง มาสู่การเป็นนักแสดง และสนุกกับการทำงานเบื้องหลัง ความสุขอยู่ที่การเลือกจริง ๆ"เมื่อเรียนการแสดงจบคอร์ส ผมก็เริ่มทำงานโดยทำงานกับ ครูเล็ก ภัทราวดี ครูสอนการแสดงของผม ได้ทำละครเวที เก็บดาวดวงใหม่ไปใส่ฟ้า ผมก็ได้เป็นนักแสดงสมทบบนเวที ได้ทำฝ่ายเสื้อผ้า คอสตูม แล้วก็ได้มาทำละคร ถนนสายเดียวกัน ทางช่อง 9 ผมก็เล่นเป็นตัวละครตัวหนึ่งในนั้น แล้วทำเบื้องหลังด้วยทำคอสตูมกับเพื่อน สนุกสนานกันมาเรื่อย ๆ กระทั่งละครจบก็พลิกผันตัวเองมามาทำเบื้องหลังรายการทีวีหลาย ๆ รายการ รับงานแสดงมาเรื่อย ชีวิตการเป็นนักแสดงของผม เริ่มต้นจากตรงนั้น... จากตรงนั้นก็ได้รับโอกาสดี ๆ จากกันตนา ได้เล่นละครเรื่อง ลูกผู้ชายหัวใจเพชร พระเอกของเรื่องคือ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ละครเรื่องนั้น เป็นละครแจ้งเกิดก็ว่าได้นะครับ จากนั้นมีละคร โฆษณา ละครเวทีมาเรื่อย ๆ ละครเวทีที่สร้างชื่อละครของอาจารย์ ดร.เสรี วงษ์มณฑา เรื่อง นังเหมียวย้อมสี ผมเล่นละครเวทีอยู่หลายเรื่องช่วงนั้น ระหว่างนั้นผมก็มีการสอนการแสดง มีบริษัท โมเดลลิ่งต่าง ๆ จ้างผมไปเป็นครูสอนการแสดง ผมก็ซึมซับการทำงานเบื้องหน้าเพราะก็เล่นละครอยู่แล้ว และงานเบื้องหลัง สอนการแสดงตามโมเดลลิ่งต่าง ๆ เป็นรายชั่วโมง แล้วก็มีงานพิธีกรเกี่ยวกับทางด้านอาหาร รายการแม่บ้านแสนดี ทางช่อง 5 รายการเพลงของบริษัทมาสเตอร์เทป มีงานอีเว้นท์ต่าง ๆ งานโอท็อป ซึ่งเรียกว่าเป็นพิธีกรยืนหลักเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเวทีใหญ่ เวทีเล็ก ในส่วนของอาหาร สำรวจร้านต่าง ๆ ทำการแสดงบนเวทีต่าง ๆ แล้วมีโอกาสได้ทำพิธีกรภาคสนามเป็นโอท็อปภาค ผมได้ภาคกลางไปลุยเป็นเดือน ๆ แล้วเอาเทปมาตัดต่อ ทำงานเยอะแต่ก็ไม่ได้มาอย่างราบรื่นนะครับ ผ่านการแคสมาเยอะมากจริง ๆ อย่างงานโฆษณาที่แจ้งเกิด ก็คือโฆษณางานโฆษณา แชมพูซัลซิล ที่มี คุณอั้ม พัชราภา และ คุณตุ๊กกี้ งานกาแฟที่ถ่ายกับคุณอั้ม พัชราภา เป็นบรรยากาศ ในกองถ่าย ผมเป็นช่างแต่งหน้า เป็นการแจ้งเกิด ทำให้มีงานมาเรื่อย ๆ" ครูสอนการแสดงคีอเส้นทางที่ตัดสินใจเลือก และชัดเจนในการตัดสินใจนั้นตลอดมา"การเป็นครูสอนการแสดงอย่างเต็มตัว คือจุดเปลี่ยนในชีวิตที่สำคัญช่วงนั้นเป็นช่วงฟองสบู่แตก เศรษฐกิจไม่ดี งานแสดงน้อยลง งานพิธีกรที่ได้ออกทีวีทุกวันบริษัทก็ปิดไป แต่ก็ยังมีงานตามช่องเคเบิ้ลต่าง ๆ อยู่ แต่รู้สึกว่าไม่สนุกแล้ว แล้วก็ถามตัวเองว่าสิ่งที่ชอบคืออะไร ก็ตอบได้ว่าเราชอบเป็นครู เราอยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็ก ๆ เวลานั้นก็ได้เป็นครูสอนการแสดง ก็เลยตัดสินใจมาเป็นครูสอนการแสดงอย่างเต็มตัวการเป็นครูสอนการแสดงเริ่มต้นจากการที่รับสอนเป็นรายชั่วโมง ก่อนที่จะมาเปิดของเราเอง สอนเป็นประจำแต่รับเป็นรายชั่วโมงอยู่ 2-3 ที่ ท้ายที่สุดเป็นช่วงที่ต้องปรับเปลี่ยนหลาย ๆ อย่าง ตัดสินใจมาเปิดโรงเรียนของตัวเอง ลาออกจากที่สอนประจำ มาเปิดเองโดยไม่รู้เลยว่าจะมีเด็กมาเรียนไหม แต่เรามีความเชื่อว่าเรามีฝีมือในการสอน ที่ผ่านมา ลูกศิษย์ของเราประสบความสำเร็จหลายคนเทคนิคในการสอนเป็นแบบเฉพาะตัว ผมว่าผมไม่เหมือนใครสักเท่าไหร่ ลูกศิษย์ทุกคนจะต้องเรียนรู้ทุกแบบสำหรับบทต่าง ๆ แล้วจะต้องเรียนรู้ในเรื่องของมารยาท บุคลิกภาพ คือเราสอนคลุมหมดเลย ไม่เฉพาะเรื่องการแสดง สอนเทคนิคการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า บทแบบนี้ เมื่อต้องเปลี่ยนต้องแก้ไขกันหน้างาน ต้องเปลี่ยนแบบไหน ให้เด็กรู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้การแสดงบทนั้น ๆ ผ่านไปได้ด้วยดี โดยที่ไม่มีปัญหาใด ๆ ผมเอาเทคนิคจากการทำงานแสดงจริง ๆ เรียนการแสดงมาจริง ๆ มาถ่ายทอดให้เด็ก ๆ หมดเลย ไม่เคยกั๊กวิชา"การระบาดของ "โควิด- 19" ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป"การระบาดของ โควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนทั้งโลก ชีวิตก็ชะงักไปเหมือนกันครับ ต้องคิดหลาย ๆ อย่างเพื่อปรับตัวให้อยู่รอด เพราะเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องกักตัว ทำให้สอนในสตูดิโอไม่ได้ ต้องปิดการเรียนการสอน รายได้ก็หายไป ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจได้ ต้องทำความเข้าใจและหาทางแก้ปัญหา ก่อนหน้านี้ผมทำคอร์ส VIP ไว้ เป็นคอร์สที่ต้องเรียนทั้งปี จริง ๆ แล้วผมไม่สอนก็ได้ แต่ด้วยความเป็นครู ผมอยากถ่ายทอดวิชา แล้วกลัวว่าวิชาที่เด็ก ๆ เรียนไปแล้วจะลืมหมด ผมก็เลยเปิดสอนออนไลน์ แล้วให้เด็ก ๆ ที่ยังค้างชั่วโมงเรียนอยู่มาเรียน แล้วส่วนเด็กใหม่ที่สมัครมาก็เรียนได้เลย ผมสอนทฤษฎีก่อน สอนในเรื่องของการออกเสียง การสื่ออารมณ์ทางเสียง ส่วนภาษากาย ไปสอนอีกทีตอนสตูดิโอเปิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในครอบครัว ก็เข้าใจผู้ปกครอง เพราะหนึ่งกลัวโควิด สองเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ผมจะเปิดสอนในราคาที่ถูกมาก คุ้มมาก ถ้าใครที่รู้จักตัวตนผมจะรู้ว่าผมไม่ได้เอาแต่ธุรกิจ ผมเป็นครูที่เป็นแค่ธุรกิจส่วนหนึ่ง ความเป็นครูให้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ ใครเป็นนักเรียนจะรู้ ลูกศิษย์ลูกหาก็โด่งดังมีชื่อเสียง อย่างน้องอินเตอร์ น้องมันนี่ น้องจัสติน น้องชามา น้องออกัส น้องบิมมี่ ที่เห็นหน้าในโฆษณาบ่อย ๆ เมื่อก่อนน้องโฟร์ วง โฟร์-มด น้องแยม น้องนิว นักแสดงช่อง 3 ก็มาเรียนกับผม ผมสอนทั้งรุ่นเล็ก รุ่นโต ตั้งแต่ 3 ขวบครึ่งจนถึง 45 ปี ทำไม 45 ปีต้องมาเรียน เพราะในการแสดงต่าง ๆ ต้องมีรุ่นแม่ รุ่นอาม่าที่ต้องมาแคสงานด้วย ก็ต้องมาเรียนวิชา บางทีมากับลูกหลานแล้วสนุก ก็เลยมาเรียนด้วย อย่างคุณแม่น้องบิมมี่ คุณแม่จิ๋ว เห็นลูกเรียน 2 คอร์ส แล้ว ทีนี้พอลูกสาวโตขึ้น ก็จะออกจากงานมาดูแลลูกโดยตรง ก็อยากจะหาอาชีพเสริม ก็เลยมาเรียนการแสดง ตอนนี้คุณแม่จิ๋วมีงานแสดงมากกว่าลูกอีก แล้วก็มีกลุ่มนายแบบ นางแบบที่เขารวมกลุ่มกันมาเรียน แยกจากกลุ่มที่ผมสอนอยู่ เป็น VIP ต่างหากที่แยกมา เรียนช่วงเย็น ก็เห็นพวกเขามีงานโฆษณาต่าง ๆ ตามจอทีวีอยู่เรื่อย ๆ ก็ชื่นใจ ชื่นชมกับลูกศิษย์ทุกคน"โควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาในการประกอบอาชีพ “ครูเอ บรอนซ์" เป็นหนึ่งที่คิดหนัก และตัดสินใจอย่างตระหนักคิดแล้ว"การแพร่ระบาดของโควิด-19 อุปสรรคตอนนี้ เป็นเรื่องรายได้โดยตรง โควิดมารายได้หาย ตอนนี้กินเงินเก่าจนจะหมดอยู่แล้ว แม้ว่าจะประหยัดมาก ๆ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันกินเวลาที่ยาวนาน แล้วยังไม่รู้ว่าจะจบที่ตรงไหน จะอีกนานแค่ไหน แต่ก็ต้องทำอาชีพนี้ ทำอาชีพอื่นไม่ได้เลย บางคนบอกว่าทำไมไม่ขายออนไลน์ ทำไมไม่ทำนั่น ทำไมไม่ทำนี่ ผมทำไม่ได้จริง ๆ ผมไม่ถนัดในการขายเลย ไม่ถนัดขายของออนไลน์เลย ผมเคยนะ ขายของตัวเอง เปิดท้ายขายของยังขาดทุนเลย สมัยตั้งแต่ฟองสบู่แตก อาชีพค้าขายไม่ใช่ทางของผมเลย บางคนบอกเป็นครู พูดเก่งทำไมไม่ขายประกัน โอยยย....ยิ่งไม่ได้เรื่องเลย ไม่อาเลย ไม่ชอบเลย ไม่ชอบคุยกับคนลักษณะแบบนี้เลยผมเป็นครูได้อาชีพเดียว ยึดอาชีพครูสอนการแสดงเป็นหลัก ยังไงผมก็รักอาชีพนี้ที่สุด แล้วก็ทำได้ดีที่สุด ผมเลือกอาชีพที่ถนัดและดีที่สุด เพื่ออย่างน้อย ผมมีความสุขในการทำงาน ลูกศิษย์ลูกหาผมได้ความรู้เต็ม ๆ จากผม ผมเต็มที่ให้ มีคนถามทำไมไม่ทำโมเดลลิ่ง เป็นครูสอนแบบนี้ทำโมเดลลิ่งด้วยสิ รับรองงานเยอะเลย ผมคิดว่าถ้าเราทำเหยียบเรือสองทางมันจะไม่ดีสักทาง ไหนจะต้องส่งเด็กในฐานะโมเดลลิ่งไปแคสงานต่าง ๆ ต้องมุ่งมั่นกับตรงนั้น แล้วยังมามุ่งกับการสอนอีก ทำให้เรารู้สึกแยกสมองไม่ได้ ผมเป็นคนชอบทำงานอย่างหนึ่งอย่างใดให้ดีที่สุด พอดีสุดแล้วค่อยจับอย่างที่สอง ในเมื่ออย่างที่หนึ่งยังไม่ดีที่สุด ยังไม่ถึงจุดเป้าหมายที่ต้องการ อย่างอื่นจะไม่ทำเลย เพราะฉะนั้นการเป็นครูสอนการแสดงของผม ผมยังมีโอกาสก้าวไปอีกไกลเลย ยังคิดว่าผมยังมีโอกาสอีกเยอะที่จะผลักดันลูกศิษย์ให้ประสบความสำเร็จ"เรียนการแสดงไม่ใช่เพียงเพื่อเป็นนักแสดง แต่เพื่อพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ "เด็กที่มาเรียนการแสดงของผม มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันเขามาก ๆ เลย เช่น การกล้าแสดงออกในที่สาธารณะชน กล้าแสดงออกในโรงเรียน การทำงานกลุ่ม การพรีเซนต์งานของตัวเองหน้าชั้นเรียน ทุกคนจะได้ประโยชน์และนำไปใช้ได้จริง ๆ ในชีวิตประจำวัน ผมเลือกที่จะเป็นครูสอนการแสดงอย่างเดียว เพื่อจะผลักดันลูกศิษย์ไปให้ถึงจุดเป้าหมายให้ได้ และเด็กที่มาเรียนกับผม ผมกล้าพูดเลยได้ว่าผ่านงานแน่ ๆ ได้งานแน่ ๆ อย่างน้อยไม่เคยแคสเข้ารอบก็ได้เข้ารอบ บางทีได้เข้ารอบ บางทีไฟล์สุดท้ายได้รับการคัดเลือก เพราะว่าเด็กที่ผมหล่อหลอมไปเนี่ย ผมหล่อหลอมด้วยความรู้จริง ๆ ทักษะ เนื้อหาการแสดงจริง ๆ ไม่มาสปอยด์ ไม่มาอวย ผมคิดว่าผมทำในสิ่งที่ดีที่สุด การเป็นครู ถ้าเราเชื่อว่าเราให้สิ่งที่ดีที่สุดกับนักเรียนแล้ว เด็กนักเรียนของเราจะได้สิ่งดี ๆ กลับไป แล้วกลับไปพัฒนาต่อ เด็ก ๆ ที่เรียนกับผมสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ สามารถปรับเปลี่ยนอารณ์ได้ ในเรื่องบทบาทต่าง ๆ ในเวลานั้น ก็หวังว่าตรงนี้คือจุดที่ผมอยากทำให้ถึงที่สุดอีก มีโอกาสทำอีกแน่ ๆ ตอนนี้ประคองชีวิตให้ผ่านไปให้ได้ รอพอโควิดหายค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้ปรับตัวไปตามสภาพสังคม ผ่านวิกฤติต่าง ๆ มาหลาย ๆ วิกฤต ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยให้ได้"ท้ายนี้ “ครูเอ บรอนซ์" ขอฝากให้กำลังใจทุก ๆ คน ที่ต่างก็อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด- 19 เช่นเดียวกัน "ผมขอฝากถึงทุกคนที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 อยากให้ทุกคนดูแลตัวเองก่อน รับผิดชอบตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ต้องดูแลตัวเอง รักษาความสะอาด ดูแลทุกอย่างในเบื้องต้นให้ดีที่สุดด้วยตัวเองก่อน ผมกับครอบครัวก็พยายามทำให้ดีที่สุดเช่นกันครับ ส่วนในเรื่องของเศรษฐกิจ เมื่อมีปัญหาก็ต้องค่อย ๆ ขยับทีละเล็กทีละน้อย บางคนอาจจะหลังชนฝาแล้วก็ได้ แต่ก็ขอให้มีสติ มองให้ไกล ๆ สู้ ๆ กันทุกคนนะครับ ผมเองก็สู้อย่างสุดตัวเช่นกันครับ พยายามดูแลตัวเองให้แข็งแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ออกไปไหนโดยไม่จำเป็น ทุกคนขอให้โชคดีนะครับ สู้ ๆ เราจะผ่านไปด้วยกันนะครับ" "เราจะผ่าน โควิด-19 ไปด้วยกันนะครับ" ครูเอ บรอนซ์ บอกย้ำอีกครั้ง ก่อนการสัมภาษณ์จะจบลง ด้วยความหวังว่าจะได้กลับมาเปิดโรงเรียนสอนการแสดง โดยไม่ต้องให้เด็ก ๆ ต้องเรียนออนไลน์ ไม่ต้อง WHF อย่างเช่นทุกวันนี้ และมีความสุขกับการเป็นครูสอนการแสดง ตามสโลแกน"เราเก่ง เรามั่นใจ เราทำได้...ครูเอ บรอนซ์ สอนการแสดง"ในสถานการณ์ โควิด-19 แพร่ระบาด เป็นช่วงที่ทำให้งานหลายๆ ด้านต้องหยุดชะงักไป อย่างที่เราเห็น หรือบางคนอยู่ในช่วงสถานการณ์นั้น ๆ โดยตรง เช่นนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องเรียนออนไลน์กัน ซึ่งเป็นความยากลำบาก เพราะหลาย ๆ วิชา เป็นการเรียนการสอนแบบภาคปฏิบัติ ไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้ ทำให้ต้องรอเวลาจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ถึงจะได้กลับมาเรียนอีกครั้ง การเปิดสอนการแสดงของ ครูเอ บรอนซ์ ก็เช่นเดียวกันค่ะ ทำได้แค่สอนภาคทฤษฎี รอเวลากันว่าเมื่อไหร่การแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้ายจะซาลง จะได้กลับมาให้ความรู้กับเด็ก ๆ ที่สนใจทางด้านการแสดงอีกครั้ง ซึ่งในระหว่างนี้ ครูเอ บรอนซ์ ก็พยายามปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตด้วยการประหยัดลง พยายามคิดหาวิธีที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรในสถานการณ์นี้ และอย่างน้อยที่สุด ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาที่กลับมาทบทวนตัวเองว่าชอบสิ่งใดกันแน่ และก็ได้ค้นพบตัวเองว่ารักการเป็นครูสอนการแสดงที่สุด ก็จะยืนหยัดรอเวลาต่อไป ยังมีอีกหลาย ๆ อาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ฉันท์ชมา จะสัมภาษณ์และรีวิวเรื่องราวที่น่าสนใจของชีวิตผู้คนต่าง ๆ อาชีพมาเล่าให้ฟังนะคะ หวังใจอย่างมากว่าทุกเรื่องราวที่นำเสนอจะเป็นส่วนหนี่งของกำลังใจที่จะทำให้ทุกคนก้าวต่อไปในสถานการที่ต้องเผชิญกับโรคร้ายนี้ สู้ ๆ นะคะทุกคน :) ติดตาม ครูเอ บรอนซ์ สอนการแสดง☎️ 082-5545391,082-3659192FB ชุติมันต์ บุรานนท์ IG kru_a_academyขอบคุณภาพประกอบจาก IG kru_a_academy ปก 1 / 2 / 3 / 4 ภาพที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !