"เอาอีกแล้วหรอ" นี่คือประโยคที่ผมพูดตอนที่ผมได้เห็นผู้เล่นของทีมเซาท์แฮมป์ตันที่มีนามว่า "เจมส์ วอร์ด-พราวส์" ซัดลูกฟรีคิกลูกที่ 2 เป็นประตูในนัดสุดมัน ที่ "นักบุญ" เซาธ์แฮมตัน บุกไปเอาชนะถึงถิ่นของแอสตัน วิลล่า 4-3 นักฟุตบอลคนนี้กำลังจะมีอายุ 26 ปี แต่ต้องมาเตะบอลในวันเกิดของเขา มาดูกันว่าของขวัญวันเกิดที่เขาได้รับจากในสนามคืออะไร ผม "นายคิ้ว" จะมาเขียนให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ เป็นกองกลางของทีม "นักบุญแดนใต้" เซาธ์แฮมตันเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เป็นผลผลิตจากทีมชุดเยาวชนของเซาธ์แฮมตันตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่แท้ที่จริงแล้ววอร์ด-พราวส์ นั้นเป็นเด็กที่เกิดที่เมืองพอร์ทสมัธ ครอบครัวของวอร์ด-พราวส์เองนั้นที่จริงต่างก็เป็นแฟนทีมฟุตบอลอย่าง "พอมพีย์"strong> พอร์ทสมัธซึ่งเป็นทีมคู่อริร่วมเมืองของเซาธ์แฮมป์ตันโดยตรง (เมื่อทั้งสองทีมได้เจอกัน จะเรียกการเจอกันของทั้งสองทีมนี้ว่า "ศึกแฮมป์เชียร์ ดาร์บี้แมชท์") เมื่อวอร์ด- พราวส์อายุ 16 ปี เขาเองก็ถูกเรียกขึ้นทีมชุดใหญ่ในทันที โดยได้ประเดิมสนามในนัดที่เจอกับคริสตัล พาเลช ในฟุตบอลลีกคัพ ปี 2011 ก่อนที่นัดต่อมาเขาก็จะเป็นคนทำประตู ช่วยให้ต้นสังกัดเข้ารอบเอฟเอ คัพ รอบ 4 ด้วยการชนะโคเวนทรี่ 2-1 แล้วสุดท้ายเซาธ์แฮมตันก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งวอร์ด-พราวส์นั้น เป็น 1 ใน 4 นักเตะเยาวชนที่ได้รับสัญญาอาชีพ (แจ๊ค สตีเฟ่น, ลุค ชอว์และคาลั่ม แชมเบอร์) ในช่วง 2 ปีแรกที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชื่อของ "วอร์ด-พราวส์" ก็เป็นกองกลางดาวรุ่งที่น่าจับตามองขึ้นมา เขาได้รับคำชื่นชมจากหลายฝ่าย จนกระทั่งเขาอายุ 18 ปี เขาก็เลือกต่อสัญญากับสโมสรไป 5 ปี และเมื่อเขาอายุ 21 ปี โรนัลด์ คูมันที่เข้ามาคุมทีมในฤดูกาล 2014/2015 ก็ทำให้ฟอร์มของเขาเริ่มดีขึ้น เขาเริ่มได้รับหน้าที่ในการจัดการลูกนิ่งในทีม เขาเริ่มสร้างความอันตรายจากลูกนิ่ง ได้มากขึ้น และในที่สุดเขาก็ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ จากลูกจุดโทษ ในนัดที่ชนะฮัลล์ ซิตี้ 2-0 จบฤดูกาลนั้นที่ตนสามารถทำแอสซิสต์ได้ 8 แอสซิสต์ หลังจากนั้นเขาก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งในฤดูกาล 2019/2020 เขาก็ได้รับหน้าที่มาเป็นกัปตันทีม และเขาก็เป็นกำลังหลักที่ลงเล่นครบทุกนัด ทุกนาที ในซีซั่นนั้น เขาทำไป 5 ประตู 5 แอสซิสต์ และมีสถิติการส่งบอลที่สูงมากๆ เขาส่งบอลถึงเป้าหมายไปทั้งสิ้น 1,346 ครั้ง และครอสบอลไปอีก 267 ครั้ง มาเข้าสู่ฤดูกาลปัจจุบัน วอร์ด-พราวส์ก็ยังคงเป็นตัวหลักของเซาธ์แฮมตันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือฟอร์มดีสุด ๆ ฟอร์มทีมต้นสังกัดของเขาอย่างเซาธ์แฮมตันในฤดูกาลนี้ พวกเขาพลาดท่า แพ้ไปก่อนในสองนัดแรก แต่หลังจากนั้น 5 นัดหลังสุด เซาธ์แฮมตันก็ไม่แพ้ใครเลย แบ่งเป็นชนะ 4 นัด เสมอ 1 นัด ส่วนสถิติของวอร์ด-พราวส์เองนั้นก็เรียกได้ว่าดีมากๆ ตอนนี้ลงเล่นไปทั้งสิ้น 7 นัด ซัด 3 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ สร้างสรรค์โอกาสทำประตู 10 ครั้ง และส่งบอลแม่นยำ 85 เปอร์เซนต์ โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่เรียกได้ว่าเป็นฟอร์มที่สุดยอดของเจ้าตัว เริ่มต้นจากแอสซิสต์ ด้วยการเปิดลูกฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งขวา เปิดบอลเข้ามาให้เวสเธอร์การ์ด กองหลังประจำทีมโหม่งเข้าไป หลังจากนั้น "นักบุญ" ก็มาได้ฟรีคิกที่หน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา เจมส์ วอร์ด-พราวส์วิ่งเข้ามาซัดเน้นๆด้วยเท้าขวา บอลลอยโค้งด้วยความรุนแรงผ่านแนวกำแพงของแอสตัน วิลล่าพุ่งหนีมือผู้รักษาประตูไปอย่างงดงาม ก่อนที่เจ้าตัวจะมาได้ยิงฟรีคิกอีกครั้งในระยะประมาณ 19 หลา ครั้งนี้วิ่งเข้ามายิงด้วยขวาแบบเดิม บอลลอยข้ามผ่านหัวกองหลังบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปซุกในตาข่ายในชนิดที่ว่า ผู้รักษาประตูได้แค่ยืนมองลูกยิงของเขาด้วยสายตานอกจากฟอร์มการเล่นของวอร์ด-เพราส์ ที่เรียกได้ว่าดีมาก ๆ อีกสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือนของขวัญต้อนรับวันเกิดของเขา นั่นก็คือการที่เขา "เป็นผู้เล่นที่ทำประตูครบรอบประตูที่ 1,000 ในพรีเมียร์ลีกของเซาธ์แฮมป์ตัน" อีกทั้งยังทำลายสถิติโคตรตำนานของสโมสรอย่าง "พ่อมดนักบุญ" แมทธิว เลอ ทิสซิแอร์ที่ทำประตูจากลูกฟรีคิกในสีเสื้อเซาธ์แฮมป์ตัม 7 ประตู ตอนนี้สถิตินี้เป็นของ "เจมส์ วอร์ด-พราวส์"strong> เป็นที่เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าที่จะทำสถิติต่อไป และพร้อมทั้งได้รับคำชื่นชมยินดีจากตำนานอย่างเลอ ทิสซิแอร์อีก เรียกได้ว่าคงจะเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 26 ปี ที่สุดแสนจะล้ำค่าเลยครับ เรียกได้ว่าน่าอิจฉาแทนเจมส์ วอร์ด-พราวส์เลยนะครับ แต่การที่จะได้ของขวัญชิ้นนี้มา เจมส์ วอร์ด-พราวส์ก็ได้มาจากความสามารถของตัวเอง ผมเชื่อเลยว่าวันที่ 1 พฤศจิกายน 2020 คงจะเป็นวันที่ "เจมส์ วอร์ด-พราวส์" มีความสุขที่สุดครับ เขียนโดย "นายคิ้ว" ขอบคุณรูปภาพจาก : Southampton FC Official หน้าปก / รูปที่ 1 / รูปที่ 2 และ Matt Le Tissier รูปที่ 3