หลังจากได้ชมฆีบาโร่ (Jibaro: Love Death and Robots) ทำให้รู้สึกอยากดูผลงานก่อนหน้า ของผู้กำกับ อัลแบร์โต เมียลโก (Alberto Mielgo) The Witness จากโครงการหนังเดียวกัน แต่เป็นซีซั่นแรก และจากเรื่องนี้ทำให้เขาได้ 3 รางวัลเอมมี่และ 1 รางวัลจาก แอนนี่อวอร์ด (Emmies and Annie award)***ระวัง! มีการสปอยล์เนื้อหาบางส่วน***The Witness เป็นเรื่องของสาวนักเต้นเปลื้องผ้า ที่บัญเอิญได้เห็นเหตุการณ์ฆาตรกรรม และตามมาด้วยการวิ่งหนีการไล่ล่าจากฆาตรกรโลกของ Jibaro และโลกของ The Witness ถึงแม้จะต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ผู้สร้างก็ยังคงความแฟนตาซีและด้านมืดของโลกไว้เหมือนเดิม ตามคอนเซ็ปท์ของโปรเจ็กต์ Love Death and Robots ฉากในเรื่องThe Witness ที่จริงก็ดูเป็นเมืองที่เราเห็นคล้ายๆ ย่านเมืองธุรกิจ โซนเอเชีย อาจจะเป็นญี่ปุ่น หรือ ฮ่องกง ด้วยบรรยากาศสองฝั่งของท้องถนนเต็มไปด้วยตึกสูง และประดับด้วยแสงไฟนีออนหลากสีสันส่องสว่างไสวมลังเมลือง ได้ไม่แพ้โลกของฆีบาโร่ แต่ทั้งเรื่อง ในเมืองย่านธุรกิจนี้ ทำไมกลับไม่เห็นผู้คนเลยเรื่องราวเปิดฉากบนตึกอะพาร์ตเมนต์ ที่เป็นห้องของหญิงสาว เธอกำลังนั่งทาลิปสติกอยู่หน้ากระจก อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคล้ายคนต่อสู้ จึงเปิดหน้าต่างออกมาดู แล้วเธอก็ได้เห็นเหตุการณ์ฆาตรกรรม โดยชายหนุ่มร่างกายเปื้อนเลือด ที่อยู่ตึกฝั่งตรงกันข้าม และเมื่อเขาหันหน้ามา ก็พบเธอกำลังจ้องมาที่เขาอยู่ ชายหนุ่มให้รู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก เมื่อศพของผู้หญิงที่เขาเพิ่งลงมือฆ่า มีหน้าตาเหมือนเธอคนนั้นที่อยู่ตึกฝั่งตรงกันข้าม และต่อจากความรุนแรงของเหตุการณ์นี้ ก็นำไปสู่ความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดของทั้งคู่ ในลักษณะของการหนีและไล่ล่า จากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อ และจากเหยื่อกลับเป็นผู้ล่า กลายเป็นวงจรเวียนไปไม่มีที่สิ้นสุดระหว่างการไล่ล่าไปตามตรอกซอกตึก จนไปถึงที่ทำงานของหญิงสาว ค่อยๆเปิดเผยให้เห็นถึงมุมมืดของสังคมเมือง ในที่ทำงานของเธอเป็นสถานบริการทางเพศ ตัวละครอื่นที่ปรากฏน่าจะเป็นพวกผู้คุมเล้าแต่งตัวเหมือนปีศาจยมทูต และหญิงสาวบริการล้วนใส่ชุดหนัง สวมหน้ากากปกปิดใบหน้า ส่วนเจ้านายของเธอ ก็นอนคว่ำหน้าหลับสนิทอยู่ในห้องที่เธอวิ่งเข้าไปเอาปืน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นฝันร้าย ที่เธอไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย เพราะคนอื่นๆ ที่อยู่รอบกายก็ดูแทบจะไม่เหมือนคนที่มีชีวิตและหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรง การฆาตกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งคู่ต่างอยู่ในอารมณ์ที่ตื่นตกใจและหวั่นวิตก แต่แค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งคู่ก็ยังแสดงออกถึงอารมณ์ทางเพศได้อย่างง่ายดาย เมื่อผู้คุมเล้าเร่งให้เธอรีบไปเปลี่ยนชุดเพื่อขึ้นแสดงโชว์ ส่วนชายหนุ่มที่ตามเข้ามาก็ถูกพาไปใช้บริการ มันสะท้อนด้านมืดของความเป็นคนที่ใกล้เคียงกับสัตว์ป่า เพราะสัตว์เวลาที่มันจะสืบพันธุ์นั้น มันคือเรื่องของพฤติกรรมการสืบพันธุ์ล้วนๆ อย่างที่เราเห็นในสารคดี ความดุดันป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นในสัตว์ก่อนหรือหลังการผสมพันธุ์ มันเป็นกระบวนการที่เชื่อมต่อกันดังนั้นภาพความขัดแย้งจึงถูกสร้างขึ้น ระหว่างสังคมเมืองที่ดูเจริญทางวัตถุ เป็นตัวแทนของ วิวัฒนาการที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ (Robots) แต่ภายในจิตใจคนที่ถูกขับดันด้วย ความรักตัวกลัวตาย (Love & Death) ของคนเรา ทำให้เลือกใช้ความรุนแรง ความเป็นสัตว์ป่าที่แอบซ่อนอยู่ในจิตใจ หรือสัญชาตญานดิบมาเป็นตัวแก้ปัญหา แต่ท้ายที่สุดปัญหาก็ไม่เคยสามารถแก้ไขได้ แล้วแถมยังเพิ่มความทุกข์ยากให้มากขึ้นไปอีก เพราะทั้งชีวิตก็ต้องวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิมๆ กับการเป็นเหยื่อหรือผู้ล่าสลับกันไปมาอย่างไม่อาจหลีกหนีได้ และนี่ก็คือด้านมืดที่น่ากลัวของการใช้ชีวิตไปตามสัญชาตญานความเป็นสัตว์และภาพของความเป็นสัตว์ในตัวคนก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นอีกความละอายทำให้คนเราต้องสวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกายตัวเอง และสิ่งนี้ก็ทำให้คนต่างจากสัตว์ แต่เมื่อในขณะวิ่งหนี สภาพของหญิงสาวก็ยิ่งโป๊เปลือยขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าอาภรณ์ที่น้อยชิ้นลง จนไม่สามารถปิดบังร่างกายได้เลยแต่ถ้าดูในแง่ของงานศิลปะ ภาพร่างกายหญิงสาวที่เกือบเปลือยเปล่า มีเพียงเสื้อคลุมบางๆ โบกสะบัดพลิ้ว ยามที่เธอเคลื่อนไหว ทั้งในยามที่เธอเต้นโชว์หรือยามที่เธอกำลังวิ่งหนี สิ่งนี้ทำให้ภาพแอนิเมชันดูมีชีวิตจริงๆ และมันก็สร้างความน่าสนใจและป็นจุดเด่นให้กับแอนิเมชันเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เหมือนๆ กับที่เสน่ห์และจุดเด่นของฆีบาโร่ มาจากท่าทางการเคลื่อนไหวเต้นรำของเธอจากเรื่องราวจะว่าเป็นหนังแนวฆาตกรรมก็ไม่เชิง สิ่งที่เกิดขึ้น ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์แบบภาพหลอนของคนทั้งคู่ มากกว่า เพราะอะไร? ที่ทำให้ดูเป็นแบบนั้น..ในเมืองที่แวดล้อมด้วยตึกราม ถนนรถวิ่ง แสงไฟจากตึก แต่กลับไม่เห็นผู้คนเลย มีแต่ตัวผู้หญิงและผู้ชายที่วิ่งหนีไล่ล่ากัน ทั้งคู่เหมือนติดกับหมกหมุ่นกับภาพความรุนแรงที่ต่างคนได้กระทำลงไป ใช้ความต้องการทางเพศเป็นช่องทางเพื่อให้ลืมปัญหาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ยังไม่อาจหลุดออกมาจากความรู้สึกผิด ความวิตกกระวนและหวาดกลัวได้ จนกลายเป็นภาพหลอนฝังในจิตใจไปตลอดชีวิตและการเอาแต่พยายามวิ่งหนีของหญิงสาว ก็ไม่ได้ทำให้เกิดอะไรดีขึ้นมา เพราะลงท้ายเธอก็ตัดสินใจทำในสิ่งเดียวกับที่ชายหนุ่มทำ และมันก็นำพาทั้งเขาและเธอวกกลับมาที่จุดเริ่มต้นของปัญหาเดิม เพื่อเริ่มต้นเรื่องราวซ้ำอีกเมื่อเปรียบเทียบ The Witness กับ Jibaro โดยรวมแล้ว ผู้เขียนรู้สึกชอบในความเป็นแฟนตาซีและด้านมืดที่ถูกนำเสนอของ Jibaro มากกว่า ผลงานกราฟิกที่ทำออกมาได้ดูสมจริง การสร้างจุดเด่นในตัวละครที่มีเสน่ห์ดึงดูด เห็นครั้งแรกก็รู้สึกอยากดูต่อเลย และทั้งหมดของความสำเร็จก็ไม่ได้ทิ้งความสำคัญของการการเล่าเรื่องด้วย เนื้อเรื่องดูแล้วไม่ต้องเดามาก ทำความเข้าใจเรื่องราวได้ง่าย อาจจะเป็นเพราะการใช้ประโยชน์จากการนำเค้าโครงเรื่องตำนานโบราณ (ไซเรนจากเทปกรณัมกรีก) มาปูเป็นพื้นเรื่อง เลยทำให้ถึงแม้จะเป็นเรื่องสั้น 15 นาที แต่ก็สามารถสร้างทางลัดในการเล่าเรื่องราวและแทรกเนื้อหาใหม่ที่ผู้สร้างต้องการจะสื่อออกมาได้ค่อนข้างครบถ้วนในขณะที่ The Witness อรรถรสจากการเล่าเรื่องอาจไม่เท่า Jibaro ในเนื้อหามันยังมีหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ อย่างชายหนุ่มเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร มีความสัมพันธ์กับหญิงสาวมาก่อนหรือเปล่าและเป็นในลักษณะไหนกันแน่ หลังจากดูจบก็ยังรู้สึกค้างคาใจ อาจเป็นไปได้ว่าทั้งคู่อาจมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แต่อาจทะเลาะหรือมีปัญหากัน และนำไปสู่เหตุการใช้ความรุนแรง ทั้งคู่อาจลงมือทำร้ายกันเอง และที่เรากำลังนั่งชมอยู่นี้ ก็คือภาพของวิญญาณคนตายสองคน ที่ถูกจองจำอยู่ในสถานที่และเหตุการณ์เดิมๆ ไม่สามารถหลุดพ้นจากบาปที่ตัวเองก่อขึ้นมาได้ บทสรุปของ The Witness ก็คือไม่มีบทสรุปและไม่มีจุดจบแต่ในผลงานกราฟิกอาร์ตก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ทั้งสองเรื่องการดีไซน์เสื้อผ้าของตัวละคร เป็นจุดเด่นและสีสันของหนังได้อย่างยอดเยี่ยม การสร้างภาพเคลื่อนไหวของเสื้อผ้าในขณะที่ร่างกายเคลื่อนไหว การใช้แสงเงา สามารถทำออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติ จึงเป็นผลให้ได้มาถึงความสวยสมจริงอย่างที่สุด (Realistic Look) แต่ใน The Witness จะเห็นศิลปะนู้ด เอามาใช้เรียกความสนใจจากผู้ชมค่อนข้างมาก ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของหญิงสาวในสถานบริการทางเพศก็เลยจำเป็นให้ต้องใช้ภาพแนวโป้เปลือยเยอะหน่อย และมีการใส่ภาพฟ้อนต์แทรกเข้ามาในบางช่วง ทำให้ดูแล้วมีความเป็นแอนิมชัดกว่า Jibaro เพราะในขณะที่ชม Jibaro นั้นแทบลืมไปเลยว่านั่งดูแอนิเมชันอยู่https://www.instagram.com/p/BwA1TuXFmtl/?igshid=YmMyMTA2M2Y= สามารถรับชมได้ทาง Netflix ผ่านกล่องทรูไอดีเครดิต: ภาพปกประกอบด้วย 2 ภาพจาก Official Instagram lovedeathandrobots/ Love Death + Robots Profile และ Instragram albertomielgo/ Alberto Mielgo Profileภาพประกอบที่ 1 จาก Official Instagram lovedeathandrobots/ Love Death + Robots Profileภาพประกอบที่ 2 จาก Official Instagram lovedeathandrobots/ Love Death + Robots Profileภาพประกอบที่ 3 จาก Official Instagram lovedeathandrobots/ Love Death + Robots Profileภาพประกอบที่ 4 จาก Instragram albertomielgo/ Alberto Mielgo Profileภาพประกอบที่ 5 จาก Official Instagram lovedeathandrobots/ Love Death + Robots Profileจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565