Jojo Rabbit เป็นหนังที่ว่าด้วยคอมเมดี้เสียดสีสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่หนังพาเราไปรู้จักเด็กชายที่ชื่อว่า Johanes “Jojo” Bezler เด็กชายชาวเยอรมัน เผ่าพันธุ์อารยัน ผมสีบลอนด์ทอง ตาสีฟ้า และมีความภาคภูมิใจในเผ่าพันธุ์และความเป็นนาซีอย่างเต็มเปี่ยม ในสภาวะสงคราม Jojo ต้องอาศัยอยู่กับแม่ (Rosie) เพียงลำพัง โดยที่พ่อถูกส่งไปรบในอิตาลี Jojo เป็นเด็กชายตัวเล็กดูไม่ค่อยแข็งแรง และไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักนอกจาก Yorki เด็กชายร่างจ่ำม่ำเป็นเพื่อนสนิท แต่กระนั้น Jojo กลับมีเพื่อนที่รู้สึกสนิทกว่า เป็นเพื่อนสนิทลำดับที่ 1 ที่อยู่ในจินตการชื่อว่า Adolf Hitler คอยโผล่ออกมาเป็นเพื่อนให้คำปรึกษาแก่ Jojo อยู่เสมอ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกสนานวายป่วงของหนังคอมเมดี้เสียดสีสงครามเรื่องนี้จากหน้าหนังถูกทำให้เชื่อว่าเป็นคอมเมดี้เสียดสีสงคราม และใช่มันก็เป็นตามนั้น แต่เอาเข้าจริงหนังก็มีสิ่งที่ไม่ได้บอกเช่นกันว่า จะประเคนดราม่าอันหนักหน่วงยัดไส้ซ่อนเอาไว้ ประหนึ่งว่าเอาท๊อปบูททหารในเรื่องทะลุจอออกมากระแทกหน้าคนดูอย่างเจ็บและจุกอก จนจะร้องไห้ออกมาเสียให้ได้ ซึ่งเป็นการโผล่ออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่มีการเตือนใด ๆ ทั้งนั้น หนังหลอกให้เราสนุกและตลกกับมุกเสียดสีอยู่นาน จนไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกเอะใจว่าจะตลบหลังเรา แม้ว่าหนังจะพยายามพลิกกลับมาตลกเสียดสีอีกครั้งประหนึ่งว่าลูบหลัง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ ซ้ำร้ายยังตบกบาลคนดูซ้ำด้วยดราม่าแบบวิถีของหนังสงครามในยุคหลัง ๆ แต่ก็ตลกไม่ค่อยออกไปเสียแล้ว จึงกลายเป็นความยอดเยี่ยมที่ทำให้หนังเรื่องนี้สามารถคว้าออสการ์ในสาขาบทดัดแปลงยอดเยี่ยมได้สมราคาเอาเข้าจริงสาส์นสำคัญของหนังที่ต้องการจะบอกกับคนดู ก็ดูจะไม่ได้ต่างกับเทรนด์ของหนังสงครามในช่วงหลังเท่าใดนัก ที่นำเสนอให้เห็นถึงความเลวร้ายของลัทธิชาติ-พันธุ์นิยม (Ethno-Nationalism) ที่เร่งเร้าให้สร้างสังคมให้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เกลียดความแตกต่างหลากหลายในสังคม จนนำไปสู่การก่ออาชญกรรมและสงคราม แต่ข้อแตกต่างคือ Jojo Rabbit นำคนดูมาตั้งคำถามกับสิ่งที่ Hitler ในเรื่องพูดหรือเสนอ พร้อมกับค่อย ๆ ตอบคำถามคนดูไปด้วยความรักและความอบอุ่นของ Rosie ผู้เป็นแม่ของ Jojo ที่จะทำให้คนดูรู้สึกอิ่มเอมไปกับความรัก ความเข้าใจ ไม่ว่าจะต่อครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่กับทั้งสิ่งที่เรียกว่าประเทศชาติ และที่สำคัญที่สุดคือความแตกต่างหลากหลายในสังคม ในขณะเดียวกันนั้นหนังก็จะทำให้คนดูได้พบว่า ความเกลียดชังและสงครามไม่ได้ช่วยให้โลกดีขึ้น หรือน่าอยู่ขึ้นเลยอย่างไรก็ตามอยากให้ผู้อ่านได้มีโอกาสไปหา Jojo Rabbit มาชมสักครั้งก่อนตัดสินใจที่จะเห็นด้วยกับผู้เขียนหรือไม่อย่างไร ว่าหนังเรื่องนี้ควรถูกบรรจุให้เผยแพร่และนำไปใช้สอนให้กับเด็ก ๆ ในโรงเรียนหรือภายในครอบครัวคงจะดีไม่น้อย ขอขอบคุณภาพประกอบจากค่าย TSG Entertainment และ IMDb รูปภาพปก / รูปภาพประกอบที่1 / รูปภาพประกอบที่2 / รูปภาพประกอบที่3