จอร์แดน (Jordan) ประเทศในแถบตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์อย่างมากอีกหนึ่งประเทศ ด้วยภูมิประเทศผสมหลายอย่างมาก ปนหลายความรู้สึก ทั้งทุ่งหญ้าสีเขียว, ดินแดนศักดิ์สิทธ์ตามศาสนาที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างโบราณ, หุบเขาที่สูงชัน, ทะเลทรายสีชมพู, ทะเลสาบกว้าง อีกทั้งการเมืองภายในประเทศก็สงบที่มีมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ การท่องเที่ยวที่ค่อนข้างปลอดภัย ไม่แปลกเลยที่จอร์แดนจะสามารถสร้างความประทับใจไม่รู้จบให้กับคนที่มาเยือน การเดินทางไปจอร์แดน มีสายการบิน บินตรงจาก กรุงเทพ ฯ ถึงอัมมาน ด้วยสายการบิน Royal Jordanian Airline ใช้เวลาบิน 8-9 ชั่วโมง จากสุวรรณภูมิ ถึง Queen Alia International Airport กรุงอัมมาน ส่วนสายการบินอื่น ๆ อย่าง ต้องต่อเครื่อง Gulf Air, Etihad, Kuwait Air สำหรับชาวไทย ที่มีวัตถุประสงค์เดินทางเข้าประเทศจอร์แดนเพื่อการท่องเที่ยว สามารถขอวีซ่าแบบ Visa On Arrival (VOA) ที่สนามบิน Queen Alia International Airport หรือ King Hussein International Airport ที่กรุง Aqaba ได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าล่วงหน้าจากประเทศไทย ไปจอร์แดนเที่ยวที่ไหนดี? Mount Nebo สถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์พระคัมภีร์ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ โมเสส (Moses) ผู้นำชาวยิวตามที่บันทึกไว้ในพันธสัญญาเก่า เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับสู่ดินแดนแห่งพันธะสัญญา หรือ เยรูซาเลม ระหว่างทางขึ้นไปบนยอดเขาจะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวและฝูงแกะ บนยอดเขาที่สูงที่สุดจุดหนึ่งของภูเขานี้มีชื่อเรียกว่า Syagha ซึ่งเป็นเศษซากของโบสถ์โบราณที่สร้างขึ้นโดยนักบวชเมื่อเกือบ 2,000 ปีมาแล้ว โดยมี Memorial Church of Moses เป็นจุดที่ขุดพบซากโบราณสถานและเก็บรวบรวมสิ่งสำคัญของโบสถ์ ภายในประกอบด้วยกระจกสีโมเสคอายุเก่าแก่กว่า 1,400 ปีเก็บรักษาไว้อย่างดี และตามเส้นทางโบสท์ ณ ยอดเขา ยังหลงเหลือซากอารยธรรมให้ได้เที่ยวชมอยู๋ ที่จุดชมวิว Memorial Viewpoint สามารถชมวิวได้แบบพาโนรามาที่มองเห็นทั้ง Desert of Judah, Dead Sea, อนุสาวรีย์ Brazen Serpen, Bethlehem และยังมีป้อมปราการ Herod's fortress of Herodium นครเยรูซาเล็ม และ Jericho Dead Sea ทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลก เนื่องมาจากความเค็มของทะเลสาบเดดซีนั้นสูงถึง 30% (เทียบกับทะเลไทยอยู่ที่ประมาณ 3%) นี้เอง ทำให้ Dead Sea กลายเป็น ทะเลสาบที่ไม่มีวันจม เมื่อนอนลอยตัวจะสัมผัสได้เลยว่ามันลอยตั้งแต่ก่อนดิ่งตัว ด้วยแรงต้านจากขาแต่ละก้าวที่สัมผัสลงไปจนจุ่มทั้งตัวและลอยตัวขึ้นมาก็สามารถนอนลอยตัวเลย ซึ่งตัวทะเลสาบสวยมากประกอบกับแสงแดดสะท้อนกับผิวของทะเลสาบให้แสงระยิบระยับเต็มไปหมด บริเวณริมทะเลสาบก็มีชั้นเขาที่มีผลึกขาวของเกลือเกาะอยู่ ให้สีสลับฟ้าและขาวระหว่างน้ำทะเล สำหรับโคลนที่ทะเลสาบสามารถนำมาพอกผิวได้แนะนำว่าถ้าหากมาเที่ยว Dead Sea ควรจองที่พักที่มี Private Beach เลยจะคุ้มกว่าการจ่ายค่าเข้าหาดบริเวณชายหาดสาธารณะ King’s Highway เส้นทางก่อนถึง เพตรา ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าเก่าแก่ของที่นี่ โดยวิวทิวทัศน์ระหว่างเดินทางอยู่บนถนนเส้นนี้สวยสมคำร่ำลือมาก ๆ Petra ไปเมือง Petra เมืองที่ว่ากันว่าเป็นมนตรา และมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่เมืองเพตราแห่งนี้มีกิจกรรมยามกลางคืนที่ให้กลุ่มคนได้เดินเข้าไปเมืองอารยธรรมนี้ โดยสิ่งที่นำทางเป็นเพียงเทียนนับพันเล่มที่จุดขึ้นและแสงดาวเพิ่มความน่าหลงใหล ก่อนที่จะไปหยุดที่หน้าสิ่งมหัศจรรย์ของโลก Al-Khazneh แสงเทียนสีส้มสะท้อนกับหินผาสีส้ม และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว โดยจะมีการแสดงแสงสีเสียงขึ้นซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นและดนตรีพื้นเมือง สำหรับบรรยากาศจะเห็นได้ชัดเจนถึงความยิ่งใหญ่ของเพตรา จากซากโบราณสถานที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของ ธนาคาร ร้านอาหาร ปราสาท สถานที่ต่าง ๆ ที่สร้างจากการกะเทาะหินเขาเข้าไป เป็นมนต์เสน่ห์อย่างนึงที่เพียงแค่ลองหลับตาแล้วนึกว่าตอนที่มีผู้คนเมื่อสมัยหลายพันปีก่อน มันก็ตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูกแล้ว ตลอดการเดินชมจะเป็นการเดินขึ้นเขาที่สูงมากและยาวนาน ใครที่ไม่อยากเดินก็สามารถนั่งลาจาก Al-Khazneh Treasury เข้าไปถึง Monastery แทนได้ ที่บนหุบเขามีปราสาทที่สวยงามแห่งหนึ่งตั้งอยู่ Wadi Rum ไปต่อที่เมืองวาดิลัมหรือดาว Jedha ใน Star Wars เป็นเมืองที่มีทะเลทรายสีชมพู ซึ่งวาดิลัม Wadi Rum แปลว่า Valley of the Moon ให้ภาพที่สวยงามแปลกตา ไม่แปลกใจที่หลายคนต่างบอกว่าที่นี่คือดาวอังคารบนโลกใบนี้ มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง อย่างการขับรถหรือขี่อูฐ ชมทะเลทรายที่กว้างใหญ่มาก ๆ อีกทั้งยังสามารถขึ้นปีนไปตามเนินหินเพื่อชมวิวจากมุมสูง หรือชมภาพฝาผนังโบราณ หากใครมีเวลาเที่ยวได้นานแนะนำให้พักที่นี่ซักคืนเพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการนอนผิงไฟและดูดาวบนเนินเขากลางทะเลทรายเป็นอย่างมาก ประเทศจอร์แดน ในความคิดของใครหลายคนคงนึกถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยทะเลทราย ไม่มีอะไรน่าดึงดูด หรือสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ และเชื่อว่ามีหลายคนที่คิดว่าเมืองที่อยู่ท่ามกลางประเทศที่มีปัญหาด้านสงครามต้องน่ากลัวและยากต่อการท่องเที่ยว แต่ในความเป็นจริงแล้ว จอร์แดน เป็นประเทศที่มีเสน่ห์น่าค้นหา ไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเพียงแค่ทะเลทราย แต่ยังรวมถึงอารยธรรมโบราณที่เป็นจุดศูนย์รวมศาสนาสำคัญต่าง ๆ ของโลก ยิ่งค้นหาก็ยิ่งค้นพบว่า จอร์แดน เป็นมากกว่าที่เราคิด เครดิตภาพจาก : t.chaiwat (เบื้องต้นนักเขียนได้ทำการขออนุญาตเจ้าของภาพในการเผยแพร่ต่อแล้ว) ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2/ ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4/ ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / ภาพที่ 11 / ภาพที่ 12 อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !