สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว KinnPorsche the Series ทุกท่านค่ะ นับจากวันแรกที่ KinnPorsche ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้เนื้อเรื่องก็ได้ดำเนินมาอย่างเข้มข้นลุ้นระทึกเพิ่มขึ้นทุกตอนจนถึง Ep.12 แล้ว เหลืออีกสองตอนสุดท้ายก็จะอวสานเป็นที่เรียบร้อย ต้องขอสารภาพตามตรงเลยค่ะว่าใจหายมาก ๆ เพราะในช่วงที่ผ่านมา KinnPorsche ได้กลายเป็นเสมือนหนึ่งเพื่อนสนิทของเพรงพรรณทุก ๆ ช่วงยามดึกของวันเสาร์เลยค่ะซึ่งใน Ep.12 ที่ผ่านมา ปมปริศนาใด ๆ ที่แอบซ่อนไว้มาตลอดเบี้ยบ้ายรายทาง ก็ค่อย ๆ เผยออกมาเรื่อย ๆ ทำเอาคนดูใจหายใจคว่ำไปตาม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวของพอร์ชที่ปริศนาการเสียชีวิตของบิดามารดาดูเหมือนจะมีความข้องเกี่ยวกับคุณกรณ์พ่อของคินน์เต็ม ๆ อาของพอร์ชที่ดูจะรู้จักมักคุ้นกับคุณกรณ์พ่อของคินน์และมีทีท่าว่าจะกุมความลับสำคัญอะไรบางอย่าง (ซึ่งต้องไปลุ้นต่อไปในอีก 2 ตอนที่เหลือ ว่าความลับที่อาของพอร์ชล่วงรู้นั้นคืออะไร แต่ที่มั่นใจคือต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของพ่อกับแม่ของพอร์ชแน่ ๆ)แต่อย่างไรก็ดี ในบทความนี้เพรงพรรณจะไม่ได้โฟกัสที่การรีวิวเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นใน Ep.12 นะคะ แต่จะขอกล่าวถึงความสัมพันธ์ของคู่ตัวละครหลัก 3 คู่ ได้แก่ คินน์กับพอร์ช เวกัสกับพีท และคิมกับปอร์เช่ ซึ่งความสัมพันธ์ที่เป็นไปใน Ep. นี้ ทำให้ผู้ชมอย่างเรา ๆ สัมผัสได้ว่า "ความรู้สึกขมปนหวานมันเป็นแบบนี้นี่เอง"**ระวังสปอยล์เนื้อหาและฉากบางส่วน**1. คินน์-พอร์ช ตัวแทนแห่งความหวาน (จนคนดูตะโกนบอกว่า "เลี่ยน" เกินไปแล้ว พ่อคุณเอ๊ย)อย่างที่เคยกล่าวมาตลอดในบทความก่อนหน้าว่าความลงตัวของคู่คินน์และพอร์ชนั้น อยู่ที่ทั้งสองต่างเติมเต็มในความเป็นตัวของตัวเองกันได้อย่างพอดีไม่ขาดไม่เกิน กล่าวคือ คินน์เมื่ออยู่ต่อหน้าพอร์ชก็สามารถเป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มีความโก๊ะกังโบ๊ะบ๊ะ ขึ้อ้อนกับคนที่รักได้ ขณะที่พอร์ชเมื่ออยู่กับคินน์ก็สามารถอ่อนแอเป็น และเหมือนกับได้พบใครบางคนที่รับในความเป็นตัวตนของตัวเองได้โดยไม่คลางแคลงใจ เพราะคินน์รับและรักทุกอย่างที่พอร์ชเป็น จึงไม่แปลกใจเลยที่คู่นี้จะเป็นคู่ที่หวานล้ำเกินใครซึ่งหลังจากที่คู่นี้เปิดเผยให้ทุกคนในตระกูลใหญ่รับรู้แล้วว่าต่างก็รักกัน และคุณกรณ์พ่อของคินน์ก็ยอมรับพอร์ชในฐานะแฟนของลูกชายตน ทั้งคู่ก็มาถึงอีกหนึ่งบทพิสูจน์ นั่นคือ การที่พอร์ชได้รับรู้โดยบังเอิญว่าเรื่องราวแต่หนหลังที่ทำให้ตนต้องกลายมาเป็นบอดี้การ์ดตระกูลใหญ่นั้น แท้จริงแล้วเป็นการวางแผนของคุณกรณ์และคินน์ และต้องช็อคยิ่งกว่าที่เรื่องราวการเสียชีวิตของพ่อและแม่ของพอร์ชนั้น คุณกรณ์เองก็รับรู้มาโดยตลอด (แต่ไม่เคยบอกให้พอร์ชได้รับรู้เลย) ทำให้พอร์ชเคืองมาก ถึงกับต้องหนีมาตั้งหลักที่บ้านเดิมของตนเพื่อพักใจและเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้พอร์ชได้รับรู้ว่า "คินน์เลือกที่จะอยู่ข้างพอร์ช" โดยตามพอร์ชมาอยู่ที่บ้านเดิมของพอร์ชด้วย และยังยืนยันว่า "ชีวิตของพอร์ชมีความหมายสำหรับคินน์" อีกทั้งยังสารภาพความในใจด้วยว่า "ตนเองอยู่ที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีพอร์ช" และแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่พอร์ชสับสน คินน์ก็ยังคอยอยู่ข้างพอร์ชและให้กำลังใจกับพอร์ชเสมอด้วยการสนับสนุนการตัดสินใจของพอร์ชโดยไม่ลังเล ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงความรักและความมั่นคงที่คินน์มีต่อพอร์ชได้อย่างชัดเจนด้วยเหตุนี้ เพรงพรรณจึงขอยกอันดับให้คู่ของคินน์กับพอร์ชเป็นคู่หวานอันดับหนึ่งแห่ง Ep.12 เลยค่ะ หวานเกินเบอร์แหกทางโค้งแซงหน้าคนอื่นไปเรียบร้อยหลายล้านปีแสง 2. เวกัส-พีท ตัวแทนแห่งความขมปนเผ็ด (ซึ่งเรียกได้ว่า "แซ่บเว่อร์")หลังจากที่พีทได้โดนจับตัวมาใน Ep. ก่อนหน้า ในฐานะที่เป็นตัวการทำให้แผนการใหญ่ของเวกัสถูกเปิดโปง และได้รับความทรมานต่าง ๆ นานาจนแทบเจียนตายนั้น (ซึ่งในความรู้สึกของพีทตายน่าจะสบายกว่าอยู่ อยู่ไปก็ทรมานยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น) แต่ในช่วงเวลาที่ถูกกักขังนั้น พีทก็ได้เห็นตัวตนอีกมุมหนึ่งของเวกัสซึ่งไม่เคยได้เปิดเผยให้สังคมภายนอกได้รับรู้นัก ว่าแท้จริงแล้ว "เวกัสเป็นคนโดดเดี่ยว อ่อนไหว และต้องการความรักความเข้าใจจากใครสักคนเป็นที่สุด" ทำให้พีทเกิดอาการเห็นอกเห็นใจเวกัสขึ้นมาเสียอย่างนั้น (แม้ตนเองจะถูกกระทำมากมายก็เถอะนะ) นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าความเห็นอกเห็นใจเป็นบ่อเกิดของความรักและการให้อภัยทั้งสองเลยได้มาเคลียร์ใจกัน (ไม่รู้ว่าใครเคลียร์ใจกับใคร) และนำมาซึ่งการเปิดเผยความต้องการด้านมืดที่มีต่อกันและกัน ซึ่งบอกได้ว่าดุเด็ดเผ็ดมันยิ่งกว่าเชียร์มวยเวทีลุมพินีเลยทีเดียว จึงเรียกได้ว่าคู่นี้เป็นคู่ที่ "รักโคตรร้าย สุดท้ายโคตรรัก" ของจริง ก็ไม่รู้ว่าคู่แบบเวกัส-พีทจะมีอยู่ในชีวิตจริงไหม เพราะความรู้สึกเพรงพรรณโดยส่วนตัวมองว่ามันเป็นเคสที่สุดโต่งเหลือเกิน (ดูไปก็ตะโกนใส่จอไปว่า "หนูยอมเขาได้อย่างไรลูกพีท เขาทำร้ายหนูมาก่อนนะลูก") แต่อย่างไรก็ดี ทั้งหมดทั้งมวลเพรงพรรณขอยกตำแหน่ง "Perfect Match" แห่ง Ep.12 ไปให้กับคู่ขมปนเผ็ดคู่นี้เลยค่า3. คิม-ปอร์เช่ ตัวแทนแห่งความขมปี๋ (ขอเข็ดขยาดกับรักครั้งแรก)ความขมปี๋ของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากการที่ปอร์เช่รู้ว่าแท้จริงแล้ว "คิม" คนที่ตนรักและเป็นรักแรก เป็นลูกชายคนสุดท้องแห่งตระกูลใหญ่ ทำให้ปอร์เช่เกิดความคลางแคลงใจว่าแท้จริงแล้วคิมรักตนบ้างหรือไม่ หรือเพียงเห็นแค่ตนเป็นหมากตัวหนึ่งที่ให้ประโยชน์ได้ ทำให้ปอร์เช่รู้สึกหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมออกนอกลู่นอกทางมากขึ้นเพื่อประชดชีวิต และเพราะท่าทีแบบนี้จึงยิ่งเป็นตัวเร่งทำให้ทะเลาะกับคิมจนคิมไม่อยากจะง้อและปล่อยให้ปอร์เช่ทำตามใจที่อยาก ซึ่งเสมือนกับประหนึ่งเหมือนจะไม่สนใจไยดีกลาย ๆ อีกต่อไป ทำให้ปอร์เช่ยิ่งรู้สึกเศร้าและเหมือนตนเองด้อยค่ามากยิ่งกว่าเดิมที่เคยรู้สึก ซึ่งความรู้สึกของปอร์เช่สะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจนว่า "นี่คืออาการของคนช้ำรักและไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำอย่างไรต่อไปหรือควรจะเดินต่อไปทางไหนดี" และเพราะแบบนี้เพรงพรรณจึงขอยกให้คิมและปอร์เช่เป็นตัวแทนคู่แห่งความขมปี๋ใน Ep.12 ไปเต็ม ๆ เลยค่ะโดยสรุป หากใครที่ได้ดู KinnPorsche the Series Ep.12 และติดตามคู่ตัวละครหลักทั้งสามคู่ซึ่งปรากฏตัวใน Ep. เดียวกันในเวลาแทบจะไล่เลี่ยกัน ก็คงต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เหมือนได้นั่งรถไฟเหาะโรลเลอร์โคสเตอร์" อย่างไรอย่างนั้น เพราะเดี๋ยวก็จะยิ้มไปกับคู่ของคินน์และพอร์ช เศร้าไปกับคู่ของคิมและปอร์เช่ และอีกประเดี๋ยวก็อู้หูกับคู่ของเวกัสและพีท เรียกได้ว่าดูซีรีส์จบแล้วก็คงรู้สึกมวนท้องกันหลายตลบทีเดียว เพราะปรับอารมณ์ตามกันไม่ถูก ซึ่งในอีกสองตอนสุดท้ายที่เหลือเรื่องราวจะดำเนินอย่างไรต่อไปนั้น อย่าลืมติดตามกันจนสุดทางนะคะ เพราะแฟนคลับ KinnPorsche the Series อย่างพวกเรา "ต้องไปให้สุดค่ะ" ใช่ไหมทุกคนเครดิตรูปภาพ:Be on Cloud (Official Twitter) : ภาพปก / ภาพ 1 / ภาพ 2 / ภาพ 3 / ภาพ 4 / ภาพ 5 / ภาพ 6เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565