ร้านที่เห็นในเฟสแล้วอยากไปมากค่ะ ใบบัวใหญ่ ๆ สวย ๆ ริมบึง เราไปมาแล้ว 2 รอบค่ะ โดยรอบแรกไปช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ที่ร้านคนเยอะมากค่ะ แดดแรงมากด้วยค่ะ รูปก็เลยสวย ไม่รู้เกี่ยวกันไหม ที่ร้านเป็น Open Air นะคะ ตอนไปตอนนั้นพี่พนักงานบอกว่า อีก 3 เดือน ช่วงหน้าฝนใบบัวโตเต็มที่ รากบัวแข็งแรง สามารถขึ้นไปยืนบนบัวได้ด้วยค่ะ แต่น้ำหนักตัวต้องไม่เกิน 65 กิโลกรัมนะคะ อาหารแนะนำก็เป็นรากบัวทอดค่ะ อร่อยดีนะคะ จานละร้อยกว่าบาทค่ะ มุมถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ปลายเดือนธันวาคมก็ได้ฤกษ์ไปอีกรอบค่ะ คราวนี้ตั้งใจไปยืนบนใบบัวค่ะ แต่ด้วยความที่ป่วย ชุดเลยดูน้อยกว่าครั้งแรกค่ะ แอบเสียใจ เกือบจะไม่ได้ยืนบนบัวไปค่ะ เพราะเพื่อน ๆ ที่น่ารักเป็นห่วงมาก กลัวจะตกใบบัวลงไปในบึงค่ะ ท่านใดที่จะไปยืนบนใบบัวต้องไปวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะคะ ค่าบริการคนละ 350 บาทค่ะ โดยแจ้งพี่เจ้าหน้าที่ที่หน้าร้าน ก่อนเข้าร้านจะมีโต๊ะวางอยู่ค่ะ เมื่อชำระเงินจะได้ขนมรากบัว 1 กล่อง กับน้ำ 1 แก้วมาทานระหว่างรอยืนบนใบบัวค่ะ สามารถยืนถ่ายรูปบนใบบัวได้จนกว่าจะพอใจเลยค่ะ ตอนยืนบนใบบัวเราจะยืนบนอะคริลิควงกลมที่วางอยู่บนใบบัวค่ะ โดยวางเท้าตามจุดที่กำหนด เท้าห่างกันเล็กน้อยค่ะ แต่ห้ามพ้อยเท้านะคะ เพราะเดี๋ยวจะเกิดความไม่สมดุลขึ้นแล้วอาจจะตกใบบัวลงไปในบึงได้ค่ะ คุณลุงกับคุณป้าที่ค่อยจับตอนลงไปในบัวน่ารักมากเลยค่ะ คุณลุงเป็นคอยเลี้ยงใบบัวจนโตค่ะ มีถ่ายรูปบนเรือกับโดรนด้วยนะคะ ราคาถ่ายบนเรือ 1 คน 500 บาท ถ่าย 2 คนพร้อมกัน 800 บาท ถ่ายกับเพื่อน 3 คน 1200 บาทค่ะ ได้ภาพเป็นไฟล์ด้วยนะคะ เรือที่อยู่ด้ายหลังนั่นแหละค่ะ เสร็จแล้วก็มาถ่ายรูปรอบ ๆ ร้านต่อค่ะ ที่นี่คนยังเยอะเช่นเดิมค่ะ ต่อคิวถ่ายกันค่ะ แดดก็ยังร้อนเช่นเดิมค่ะ อิอิ แนะนำเลยนะคะ ถ้ามาภูเก็ต อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปสวย ๆ กันที่นี่นะคะ การเดินทาง ถ้ามาจากในตัวเมืองภูเก็ต ขับรถออกนอกเมืองไปทางอำเภอถลางค่ะ ผ่านอนุสาวรีท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทรมา เลยสี่แยกโลตัสถลางมานะคะ ก็จะเจอสี่แยก ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวซ้ายเลยค่ะ ขับมาประมาณกิโลเมตรกว่า ๆ จะมีป้ายบอกค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ