Master Chef รายการแข่งทำอาหารระดับโลกที่บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท เฮลิโคเนีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด) บริษัทที่ได้สิทธิ์จัดทำและเผยแพร่ Iron Chef Thailand หรือ เซฟกระทะเหล็กประเทศไทย นำเข้ามาจัดทำและค้นหาเซฟหน้าใหม่ของประเทศไทยเรา โดย Season นี้ เดินทางมาถึง Season ที่ 5 ซึ่งตอนนี้ก็มายังสู่รอบ Final ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย ซึ่งดูจาก Teaser แล้ว รอบ Final น่าจะเป็นการแข่งขันทีละรอบ และคัดคนแพ้ออกไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้แข่งขันที่เหลือทั้ง 4 คน น่าจะกดดันพอสมควรทีเดียวก่อนที่ผมจะไปวิเคราะห์ผู้เข้าแข่งขันใน Season 5 ทั้ง 4 คนในรอบ Final ผมขอพูดถึงผู้ชนะทั้ง 4 Season ที่ผ่านมา และ ผู้เข้าแข่งขัน Season 5 ซักเล็กน้อยนะครับSeason ที่ 1 ผู้ชนะคือเซฟแก้ว ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร ผู้เข้าแข่งขันที่ดูเหมือนจะบอบบางตั้งแต่รอบคัดเลือกสำหรับกรรมการทั้ง 3 ท่าน โดยเฉพาะเซฟเอียน และแก้วเองก็เกือบจะไม่เข้ารอบ เพราะเสียงโหวดเป็น 1-1 เสียง แต่เซฟเอียนพอได้ยินคำพูดจากแก้ว ที่พูดว่า "มันสำคัญมากจริงๆนะคะ" เซฟเอียนก็ไปหยิบปลาตัวใหญ่มาให้แก้ว และโชว์การแล่ปลาให้ดูเป็นแบบ และให้แก้ได้ลองทำ และต้องบอกว่าในที่สุดความมุ่งมั่นและความตั้งใจของแก้ว เอาชนะใจเซฟเอียนได้ และแก้วก็ได้ผ้ากันเปื้อนมาในวันนี้ และต้องบอกว่าใน Season นั้น รอบแรกๆ แก้วไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก ส่วนมากซีนจะอยู่ที่ ลิซ่า คู่แข่งคนสำคัญของแก้ว แต่แล้วแก้วก็พาตัวเองเข้มแข็งขึ้นในทุกๆการแข่งขัน และก็ได้เป็นแชมป์ใน Season แรก ต้องบอกว่าแก้วเข้ามาด้วยการที่บอกว่าที่บ้านไม่ได้อยากให้เป็นเซฟ เพราะที่บ้านก็มองว่าการเป็นเซฟมันลำบาก ผมว่าแก้วนี่แหละครับ ที่เป็นตัวอย่างอย่างดีในการพิสูจน์ว่าหากเราพยายาม ไม่มีอะไรที่มาหยุดเราได้ หากเราตั้งใจจริงๆคืออยู่กับอาหารแล้วเรามีความสุขมาก เรารู้ - แก้ว ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตรSeason 2 ผู้ชนะคือเซฟเฟิส ธนภัทร สุยาว เซฟที่อายุน้อยที่สุดใน Season ซึ่งต้องบอกว่า Season นี้ เซฟเฟิสถูกจับตามองในฐานะเซฟที่อายุน้อย (เท่ากับ แพร ณิชชา รุ่งโรจน์ธนกุล - ถูกคัดออกใน EP.5 รอบทดสอบความละเอียดและแม่นยำด้วยการทำไข่ 3 อย่าง) และเฟิสเองก็ออกมายืนปากเหวถึง 2 รอบ คือใน EP.7 การทำอาหารที่ให้พลังงานและอิ่มท้อง และทีมเฟิสแพ้ไป และต้องมาแข่งความละเอียดและแม่นยำจากการทำขนมเบื้องญวนสูตรชาววัง และเป็นเฟิสที่ทำไส้ไหม้ แต่ยังโชคดีที่ผึ้ง ปุญญเนตร ธนัพประภัศร์ ที่มีปัญหาเรื่องความสะอาดของการทำอาหาร และอีกรอบก็คือการแข่งทำอาหารเพื่อสุขภาพ ทีมของเฟิสก็แพ้ไป และในรอบแข่งความละเอียดและแม่นยำที่ต้องทำ ลาวาเค้กสังขยาใบเตย ก็พลาด แต่ก็ยังมีกะปอม อิศรา ดรลีเคน ที่พลาดมากกว่าเพราะรสชาติไม่ได้ และในที่สุดเฟิสก็เข้าไปแข่งรอบชิงชนะเลิศกับ ลัท นลัท จิรวีรกูล (รภัสสรณ์ จิรจุรีย์ชัย) ซึ่งเป็นตัวเต็งแชมป์อีกคนนึง และก็ชนะไปได้ในที่สุดSeason 3 ผู้ชนะคือเซฟแมกซ์ นันทวัฒน์ จรรยาลิขิต ผู้ซึ่งได้ฉายาว่าเจ้าพ่อแห่งขนมหวาน อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งเก่งด้านขนมหวานสุดๆ และเป็นตัวเต็งด้านการทำขนมประจำ Season นี้เลยด้วยซ้ำ และต้องบอกว่า Season นี้มีคนเก่งๆมากมาย แถมมีเทพเควส ชานิน จีมะ ซึ่งทำอาหารได้เกือบทุกชนิด ในทุกตอนของ Season นี้ และเป็นตัวเต็งแชมป์ และแมกซ์ต้องมาเข้าชิงแบบ 3 คนกับเควส และเตย พัดชา กัลยาณมิตร แต่ท้ายที่สุดกรรมการทั้ง 3 ท่านที่วิเคราะห์อาหารแนว Street Food ของแมกซ์ทั้ง 3 จานโดยมีแนวคิดจานแรกมาจากกุ้งเผาน้ำจิ้มซีฟู๊ด และจานที่ 2 เป็นแนวคิดของข้าวแกง แกงเผ็ด และจานปิดท้ายขนมหวานจากข้าวเหนียวมะม่วงที่ดูแล้วไม่เหมือนข้าวเหนียวมะม่วงเลยซักนิด และทำให้แมกซ์เฉือนชนะเตยและเควสไปได้Season 4 ผู้ชนะคือเซฟลี่ พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ สาวหมวยผ้าโพกหัว ดีกรีนักเรียนนอก และ Season นี้ต้องถ่ายทำท่ามกลางภาวะ Covid - 19 กำลังแพร่ระบาด แต่จากผู้เข้าแข่งขัน 24 คนในรอบแรก (รอบ Audition) ซึ่งรอบ Audition มีการคัดตัวแบบเอาความถนัดของแต่ละคนเข้ามาแข่งกันแบบแบ่งกลุ่มแข่ง และเอาคนที่ชนะเข้ารอบ ในการทำขนมหวานมีแข่ง 3 คน คือ ลี่ เซฟ ฐณะวัฒน์ ชูประเสริฐโชค และแก้มยุ้ย ธนพร ตีรณะวาณิช แต่มีคนเข้ารอบแค่ 2 คนคือ เซฟ และ แก้มยุ้ย แต่คนตกรอบอีก 11 คนถูกเลือกขึ้นมาอีก 6 คน ซึ่งลี่เป็น 1 ในนั้น และต้องแข่งกันเพื่อชิงผ้ากันเปื้อน 3 ผืน และลี่เป็นคนแรกที่ได้ผ้ากันเปื้อนมา และฝ่าฟันจนผ่านไปเป็นแชมป์ใน Season นี้จนได้และใน Season นี้ Season ที่ 5 เปิดมาด้วยการเปิด Concept ด้วย Home Cook ผู้ที่ทำอาหารอยู่ที่บ้าน และต้องการเป็น Master Chef และมีผู้เข้าแข่งขันในรอบแรกถึง 60 คน และต้องแสดงทักษะในครัวขั้นพื้นฐาน ด้วยการทอดไข่ดาว จำนวน 24 ฟอง ภายในเวลา 15 นาที โดยผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะได้รับไข่คนละ 1 แผง จำนวน 25 ฟอง ไข่ดาวที่ต้องการคือ ไข่ขาวต้องไม่ดิบ ไข่ดาวต้องไม่ไหม้ และไข่แดงต้องไม่แตก โดยหมายความว่าทุกคนพลาดได้แค่ 1 ฟองเท่านั้น โดยคัดเอาผู้เข้ารอบ 30 คน เข้ารอบไปต่อหลังจากนั้นผู้ผ่านเข้ารอบต้องมาเลือกสีของ Station ที่ทำอาหาร โดยสีของ Station เป็นตัวกำหนดโจทย์ โดยต้องทำพริกแกงตามสีของ Station ที่ตัวเองเลือก คือสีเขียว ทำพริกแกงเขียวหวาน, สีเหลือง ทำพริกแกงเหลือ และสีแดง ต้องทำพริกแกงฉู่ฉี่ และในที่สุดก็มีผู้ผ่านเข้ารอบ 12 คน และในต่อมากรรมการมีการเรียกตัวผู้แข่งขันที่เคยตกรอบในรอบ Audition ไปแล้วกลับเข้ามาแข่งอีกครั้งจำนวน 24 คน จากผลงานการแข่งขันที่ผ่านมา และให้แบ่งทีมแข่งกันและในที่สุดอาหารที่ออกไปเสริฟของทั้ง 2 ทีมยังไม่ดีพอ ทำให้กรรมการให้ทีมที่ชนะ เลือก 7 คนจากในทีมให้เข้ารอบ และที่เหลือต้องมาแข่งกันต่อกับทีมที่แพ้ และในที่สุดก็มีแค่ 8 คนที่ผ่านโจทย์หอยขมผ่านเข้ารอบแข่งจริงไปได้ถึงตอนนี้ผมขออนุญาติข้ามในส่วนของรอบต่างๆที่เป็นการแข่งขันของ Season 5 พาทุกท่านวาปไปยังวัน Semi-Final สำหรับ Top 6 หรือ 6 คนสุดท้ายก่อนรอบ Final ที่ผ่านมากว่า 15 สัปดาห์ โดยมี แบรด แบรด ชื่นสมทรง, ยุพ ยุพดี สัตตะรุจาวงษ์, อังกฤษ อังศ์กฤษฏิ์ เชื้ออ่ำ, แหม่ม ชนิดาภา พรพินิต, แดง ประเสริฐ ทองบริสุทธิ์ และเจ๊ก จิรายุ เจษฎากรชัย เข้ามาแข่งเป็น 6 คนสุดท้าย และเปิดกล่องมาเป็นการแข่งขันเพื่อเดิมพันตำแหน่งที่ 1 เพื่อเข้ารอบ Final แบบอัตโนมัติ และอีก 5 คนต้องแข่งเพื่อหาคนเข้ารอบชิงต่อในเวลาที่เหลือจากรอบแรก โดยมีเวลารวมทั้ง 2 รอบคือ 80 นาที และเป็นอังกฤษที่ทำเมนูเค้กตับแบบอังกฤษ ซึ่งชนะใจคณะกรรมการและเข้ารอบ Final เป็นคนแรก ส่วนที่เหลือต้องมาใช้เวลาของตัวเองกันต่อในเมนูจากไข่นานาชนิด และเป็นเจ๊ก และแดง ที่พลาดมากที่สุดและตกรอบไป ดังนั้นตอนนี้มีผู้เข้าชิงใน Final ทั้งหมด 4 คน คือ อังกฤษ, แบรด, ยุพ และ แหม่มมาดูกันทีละคนนะครับ เริ่มจากอังกฤษ ส่วนตัวผม ผมต้องบอกเลยว่าสัปดาห์หลังๆ อังกฤษ ค่อนข้างจะโดดเด่นมากๆ และยังไม่เคยต้องไปยืนอยู่ที่ก้นเหวเลยแม้แต่ครั้งเดียว และแม้ว่าจะเป็นผู้ที่กลับมาจากการกักตัว และมีประเด็นอยู่บ้างในช่วงนั้น อังกฤษ ก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้คณะกรรมการ และแฟนๆของรายการ เห็นว่าเค้ามีศักยภาพพอในการเข้ารอบ Final และยังเป็นผู้ที่ผ่านเข้ารอบตั้งแต่เมนูแรกของรอบ Semi-Final อีกด้วยป้ายุพ ขวัญใจคนคิดบวก ต้องบอกว่าผมนั่งดูป้ายุพและติดตามเชียร์เป็นพิเศษ เพราะแกเป็นคนที่ใจเย็น และแสดงให้ทุกคนได้เห็น ว่าแกนิ่งมากพอในการรับมือกับอุปสรรคมากแค่ไหน อีกทั้งด้วยความที่ป้ายุพร่าเริง มองโลกในแง่ดี จริงมีคนเชียร์แกค่อนข้างเยอะมากคนนึง แม้ว่าป้ายุพดูจะเป็นเหมือนตัวเต็งในสัปดาห์แรกๆ แต่หลังๆก็มีหลุดให้เห็นอยู่บ้าง ทำให้บางทีเล่นเอาแฟนคลับใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ พอสมควรเลยกับการไปยืนปากเหวของแกแบรด หนุ่มผู้มีความสามารถด้านการออกแบบ แม้จะเกือบตกรอบ Audition และมีอีก 1 ครั้งที่แบรดต้องยืนออกไปเป็น 1 ใน 3 จานที่แย่ที่สุดจากศึกชิงวัตถุดิบ โดยต้องเลือกวัตถุดิบหลัก 1 อย่าง จาก 6 อย่าง อย่างละ 3 ชุด ได้แก่ แคนาเดียนล็อบสเตอร์ หมึกกระดอง พอร์คชอป เห็ดพอร์โทเบลโล ขาแกะ และตีนห่าน ซึ่งแบรดได้พอร์คชอป และตกเรื่องไม่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังทำวัตถุดิบหลักได้ดี และรักษามาตรฐานได้ดีขึ้นจนเข้ามาถึงรอบชิงได้ในที่สุดและแหม่ม ผู้ที่หลังจากกลับมาจากกักตัวจาก Covid ก็ไม่ได้โดดเด่นมากมาย แต่ด้วยความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ ก็ทำให้แหม่มทำได้ดีมาตลอด และไม่เคยไปยืนเป็นจากที่ไม่ดีที่สุดเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะยังไม่ได้จานที่ดีที่สุด แต่แหม่มก็เคยไปยืนอยู่ใน 1 ใน 3 ของอาหารที่ดีที่สุด 3 จานมาแล้ว ในกล่องปริศนาขนมหวานกับกาแฟ แม้จะแพ้อังกฤษไปแต่ก็ถือว่าเป็นคนที่รักษามาตรฐานได้คงเส้นคงวาคนนึงเลยทีเดียวสำหรับผม ผมชอบการทำอาหารของทั้ง 4 คนนี้พอๆกัน และผมเชียร์ป้ายุพมาตั้งแต่ต้น เพราะแกเป็นคนมองโลกในแง่ดีตลอด ไม่เคยทำร้ายหรือพูดจาเสียดสีใครเลยในรายการ แถมต้องบอกว่าอาหารแต่ละจานของแก เป็นจานที่ดูดีมากๆทีเดียว และด้วยอายุที่มากพอสมควร อาจทำให้แกใช้ความเก๋า ประสบการณ์มาทำเป็นจานหลักสุดแสน Surprise ต่อไปให้เราได้เห็นกัน แต่ว่าจากการดูการแข่งขันมาจนถึงสัปดาห์นี้ อังกฤษ น่าจะเป็นผู้ที่ตอบโจทย์ของคณะกรรมการได้ดีที่สุด ถ้าดูจากจานหลังๆที่เค้าได้ทำออกมา มักจะเป็นจานที่ได้รับคำชม แถมยังดูมีพัฒนาการอย่างชัดเจนจากเดิมขึ้นเรื่อยๆ อีกคนที่น่าจับตามองคือแหม่ม ที่หลังๆดูจะทำอาหารออกมาได้รับคำชมมาตลอด แถมยังดูเหมือนจะรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้เรื่อยๆ รวมถึงแบรดที่ต้องบอกว่าช่วงแรกๆ ทำได้ดีมาก ได้ 1 ใน 3 จานที่ดีที่สุดถึง 3 ครั้ง (EP.3 กล่องปริศนา - วัตถุดิบสีดำ, EP.5 การทำอาหารจากขาหมู และ EP.11 การทำอาหารจากน้ำปลาร้า) และแม้จะมีพลาดบ้าง แต่แบรดก็แสดงให้เห็นว่าเค้าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ จนเข้ามาในรอบ Final จนได้และถ้าให้ผมวิเคราะห์ ต้องบอกว่าทั้ง 4 คนนี้ก็มีสไตล์การทำอาหารเป็นของตัวเอง อังกฤษน่าจะใช้ความนิ่งและความคิดสร้างสรรค์ทำเมนูที่น่าทึ่งออกมาในรอบนี้อย่างแน่นอน ส่วนป้ายุพ ต้องบอกว่าคนนี้นิ่งจริง และน่าจะทำอย่างใจเย็น อีกทั้งน่าจะใช้อาหารไทยที่แกโดดเด่น เข้ามาสร้างสรรค์เป็นเมนูแปลกใหม่ให้เราได้เห็นก็เป็นได้ ด้านของแหม่ม ต้องบอกว่าเธอมาพร้อมความคิดสร้างสรรค์ และรสชาติที่มีมิติ น่าจะทำให้เธอทำอาหารออกมาได้อย่างน่าสนใจ สุดท้ายที่แบรด ที่มุ่งมั่น และตั้งใจในการทำอาหาร และมักจะทำวัตถุดิบหลักได้ดีมากๆ รวมถึงการสร้างสรรค์อาหารในรูปแบบใหม่ๆ จึงเป็นศึกสุดท้ายที่น่าจะสนุกมากๆ Season นึงเลยทีเดียวไม่ว่าใครจะติดตามใคร จะเชียร์ใคร ทั้ง 4 คนที่เข้ามายังรอบ Final สำหรับผมต้องบอกเลยว่า เก่งๆกันทุกคน และถ้าต้องยกตัวเต็งขึ้นมาซักคนนึง คนที่ผมคิดว่าจะได้แชมป์ก็คือ "อังกฤษ" แม้ผมจะเชียร์ป้ายุพ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการทำอาหารของอังกฤษดูดี และดูน่าสนใจในทุกๆ EP เลยทีเดียว ยังไงก็เอาใจช่วยทั้ง 4 ท่านนะครับ ผมว่าไม่ว่าใครจะได้แชมป์ ทั้ง 4 ท่านนี้เป็นผู้ที่มีฝีมือพอที่จะไปคว้า Masterchef Tro phy ด้วยกันทั้งนั้นแหละครับอ้างอิงรูปภาพหน้าปกจาก Facebook Masterchef Thailand Official และตกแต่งโดยผู้เขียน : Facebookอ้างอิงรูปประกอบจาก Facebook Masterchef Thailand Official : ภาพที่ 1 เซฟแก้ว ปวีณ์นุช, ภาพที่ 2 เซฟเฟิส ธนภัทร, ภาพที่ 3 เซฟแมกซ์ นันทวัฒน์, ภาพที่ 4 เซฟลี่ พรชนัน, ภาพที่ 5 ผู้เข้าแข่งขัน Season 5, ภาพที่ 6 อังกฤษผ่านเข้ารอบ Final เป็นคนแรก, ภาพที่ 7 ผู้เข้าแข่งขันรอบ Final, ภาพที่ 8 เมนูไข่ เมนูสุดท้ายของรอบ Semi-Final, ภาพที่ 8 ภาพ 4 คนสุดท้ายที่ได้เข้ารอบ Finalข้อมูลประกอบจากการดูรายการ Masterchef Thailand Season 5 ของผู้เขียนเอง (ทุก Episode) ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป