อาการทางจิตคือภาวะความผิดปกติทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้จากการหลั่งสารของสมองที่ผิดพลาด จึงทำให้เกิดการคิด การพูด การทำ ที่ดูจะมากเกินไปหรือน้อยเกินไปถ้าเทียบกับคนปกติทั่วๆไป วันนี้เราจะมาดู MBTI 16 บุคลิกภาพ กับ อาการทางจิตที่จะเกิดขึ้นกันนะคะ1. ISFP -- Anorexia คืออาการของโรคคลั่งผอมจนไม่อยากทานข้าว กลัวอย่างมากว่าน้ำหนักจะขึ้น มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ลดน้ำหนัก ต้องการควบคุมรูปร่าง หรืออ่อนไหวง่ายมากเกินไปกับรูปร่งาของตัวเองแต่จะมากเกินกว่าคนปกติจนมีปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเอง เช่น ทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่นไม่ได้อีก เพราะ ISFP เป็นบุคลิกของนักผจญภัยที่มีนิสัยอ่อนไหวง่าย ชอบการแข่งขันและสนใจมากๆว่าคนอื่นจะคิดกับตัวเองยังไงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ยอมรับหรือไม่อยากยอมรับเรื่องนี้ก็ตาม2. ISTP -- Pyromania คืออาการของคนที่ชอบเล่นไฟมากจะรู้สึกมีความสุขหรือผ่อนคลายเมื่อได้จุดไฟและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จนเป็นคดีของการวางเพลิงในที่สุด เพราะ ISTP เป็นบุคลิกของผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ซึ่งมีนิสัยมองโลกตามความจริงชอบลงมือทำ ไวต่อสถานการณ์ปัจจุบัน มีความอยากรู้อยากเห็น แล้วถนัดในการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการรับรู้ข้อมูล และเรียนรู้สิ่งต่างๆจึงมีแนวโน้มที่จะมีอาการยึดติดกับไฟหรือวัตถุสิ่งของใกล้มือที่ทำให้ตัวเองสบายใจได้3. INTP -- Catatonia ร่างกายได้ตามปกตินอกจากมีสภาวะมึนงงแทรกซ้อนและคนป่วยที่อยู่ในอาการนี้จะสามารถนั่งได้นานๆถึง 10 วันติดต่อกันโดยไม่เปลี่ยนท่าเลย เพราะ INTP เป็นบุคลิกของนักตรรกะซึ่งมีนิสัยนิ่งๆเงียบๆ โลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียว ชอบเรียนรู้สิ่งต่างๆในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเข้าขั้นหมกมุ่นได้เลยและจมหายไปได้เป็นเวลาเป็นนานถึงเดือนๆหรือปีๆโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเพื่อน INTP ทำอะไรอยู่ ซึ่งคล้ายกับคนที่มีสภาวะเป็นโรค Catatonia ที่อยู่นิ่งๆนานๆได้เป็นเวลาติดต่อกันโดยที่ไม่ขยับตัวหรือเคลื่อนที่ไปไหนเลย INTP ก็มีความหมกมุ่นในข้อมูลที่ตัวเองสนใจประมาณนั้นเหมือนกัน4. INFP -- Enochlophobia การของคนที่หวาดระแวงเมื่อยท่ามกลางชุมชนและคิดไปเองว่าตัวเองจะได้รับอันตรายถ้าอยู่กับคนที่มีจำนวนมากๆจึงทำให้พวกเขาหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมให้มากที่สุด เพราะ INFP เป็นบุคลิกของนักไกล่เกลี่ยจึงทำให้เขามีความอ่อนไหวง่ายและมีความคิดมากอยู่ตลอดเวลา พวกเขาอาจจะกังวลใจได้ถ้าใช้เวลาอยู่กับผู้คนมากเกินไปจนไม่เป็นตัวของตัวเองและต้องกังวลว่าคนอื่นจะคิดหรือรู้สึกยังไงกับตัวพวกเขา พวกเขายังชอบหาความหมายกับสิ่งรอบๆตัวอยู่เกือบจะตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่เกิดขึ้นได้ที่พวกเขาจะเป็นโรคกลัวสังคมหรือหวาดระแวงชุมชน 5. ENFP -- Forgetting คืออาการหลงๆลืมๆซึ่งเกิดขึ้นในช่วงความทรงจำระยะสั้นอาจจะมีหลายสาเหตุอย่างเช่นมีสิ่งรอบรบกวนใจการอดนอนหรือความเครียดจากการทำงานเป็นต้น เพราะ ENFP เป็นบุคลิกของนักรณรงค์จึงทำให้เพื่อนไทป์นี้เป็นคนที่ชอบพูดชอบคุย ชอบเข้าสังคม และความสนุกสนาน ชอบได้เข้าร่วมกิจกรรมและได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองรู้สึกตื่นเต้นและมีความเปิดเผยเป็นอย่างมาก จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการหลงลืมบ้างว่าวันนี้เพิ่งเจอใครมาหรือว่าวันนี้เพิ่งทำอะไรมาหรือวันนี้เพิ่งไปที่ไหนมาแล้วพรุ่งนี้กำลังจะต้องไปเจอใครหรือไปที่ไหนอีก6. INTJ -- Autistic คือความผิดปกติทางอารมณ์ที่ทำให้มีปัญหาด้านการเข้าสังคมได้ เพราะ INTJ เป็นบุคลิกของนักออกแบบ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาด้านการเข้าสังคมในตอนเด็กๆได้ รวมไปถึงอาจจะไม่สบตาคนเวลาพูด และมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจหรือไม่รู้สึกในสิ่งที่คนอื่นสนใจ และแสดงออกเหมือนกับคนที่ไม่รู้สึกและไม่สนใจจะมีส่วนร่วมกับคนในสังคม ไม่ชอบการแตะเนื้อต้องตัว การสัมผัสร่างกาย แน่นอนว่าพวกเขามีความรู้สึก เพียงแต่พวกเขาไม่สนใจ หรือมีแนวโน้มที่จะสนใจและแสดงออกซึ่งอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองมากกว่าคนปกติ 7. ENTP -- Psychopath คืออาการทางจิตอย่างหนึ่งของคนที่ภายนอกนั้นดูปกติ แต่ภายในจิตใจนั้นไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเลย ซึ่งเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวและคิดแต่เรื่องที่เข้าข้างตัวเองเห็นผิดเป็นถูก เพราะ ENTP เป็นบุคลิกของนักโต้วาที พรุ่งนี้นิสัยฉันเหนียวฉลาดมีเหตุมีผลชอบวิเคราะห์สิ่งต่างๆตามความเป็นจริงและชอบแย่งทำตัวเป็นทนายความแห่งความรู้และข้อมูลเพื่อที่จะได้ถกเถียงกับคนอื่นบ่อยๆจนบางครั้งก็เกิดเรื่องดราม่าขึ้น8. INFJ -- Paranoia คืออาการหวาดระแวงอย่างไร้เหตุผลซึ่งสามารถกลายเป็นคนที่ย้ำคิดย้ำทำได้ เพราะ INFJ เป็นบุคลิกของผู้แนะนำ ผู้รักในความสมบูรณ์แบบ เป็นคนที่คิดมากและใช้ความรู้สึกในเวลาเดียวกัน ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย และมีความบั่นทอนความมั่นใจของตัวเองได้ง่ายๆอาจจะไม่ใช่คนที่หมดไฟตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำแต่ตอนที่ทำงานไปก็รู้สึกบั่นทอนไปจนเกิดเป็นอาการ paranoia ได้ 9. ISTJ -- PHD เป็นอาการของคนที่ยึดติดความสมบูรณ์แบบมากเกินไปในชีวิต ไม่ว่าเป็นในเรื่องงา เรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่การทำความสะอาดห้อง ซึ่งอาจจะกลายเป็นปัญหาทางอารมณ์และจิตใจได้เมื่อบางอย่างออกมาไม่เป็นเหมือนที่เราต้องการ เพราะ ISTJ เป็นบุคลิกของนักคำนวณซึ่งมีนิสัยว่าบ้าทำงาน เสพติดการทำงาน ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ค่อนข้างเนี้ยบ รักสะอาด และจุกจิกเรื่องกฎระเบียบ ข้อบังคับ ต่างๆนาๆ10. ESFJ -- Masochism เพื่อการเสพติดความทรมานหรือความเจ็บปวดซึ่งเป็นอย่างมีความสุขหรือความพึงพอใจที่ไม่ได้รับการเจ็บปวดหรือจินตนาการว่าถูกทำร้ายถูกเหยียดหยามถูกทรมาน เพราะ ESFJ เป็นบุคลิกของผู้ให้คำปรึกษา ซึ่งมีนิสัยชอบเข้าสังคม และอ่อนไหวง่าย แม้จะรับผิดชอบของชีวิตตัวเองได้ดี แต่ก็มีปัญหาในการตัดสินใจเมื่อมาเจอกับสถานการณ์ยากๆ อย่างเช่น Toxic Relationship และมีการมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก จึงเชื่อจากหัวใจว่าสักวันเขาจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อเราได้ อีกทั้งยังโรแมนติกและอินมากกับความรักอีกด้วย11. ENFJ -- Bipolar Disorder คืออารมณ์ของขั้วที่เกิดขึ้นเป็นอาการที่ทำให้คนป่วยนั้นมีความอารมณ์แปรปรวนมากๆอารมณ์ขึ้นก็ขึ้นสุดอารมณ์ลงก็ลงสุขและสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ในเวลาเพียงไม่นานจนทำให้คนที่อยู่ด้วยต้องอดทนกับเขาเป็นอย่างมากไม่รู้ว่าเขาจะระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อไหร่และมีความชอบของการอยู่ในตัว เพราะ ENFJ เป็นบุคลิกของตัวเอก ซึ่งมีนิสัยใจดี อ่อนโยน อบอุ่น ในยามปกติ แต่ก็มีด้านที่ manipulate และต้องการจะควบคุมอย่างรุนแรงด้วยความคิดและความรู้สึกที่ว่าปล่อยๆสิ่งๆนี้ให้ผ่านไปไม่ได้อยู่ จึงกลายเป็นอารมณ์สองขั้วที่ดีก็ดีสุด แย่ก็แย่สุดๆได้12. ENTJ -- Hypochondriasis เป็นอาการของคนที่ไม่ได้ป่วยอะไรแต่คิดไปเองว่าตัวเองป่วย ซึ่งบางครั้งคนที่เป็นก็ไปหาหมอแล้วและไปหาหมอและไปหาหมอเป็นครั้งแล้วซึ่งหมอก็ยืนยันว่าร่างกายปกติดีแต่คนไข้ก็ไม่เชื่อง่ายๆและคิดว่าตัวเองป่วยอยู่หรือตัวเองกำลังประสบกับโลกภัยอะไรสักอย่างอยู่ เพราะ ENTJ เป็นบุคลิกของผู้บัญชาการซึ่งรักในความสมบูรณ์แบบ และมีความคิดจะพิชิตโลก ต้องการตั้งตัวเองเป็นผู้นำของทุกสิ่งและทุกอย่าง อาจจะเกิดความกังวลใจแปลกๆและอ่อนไหวได้ พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับประสบารณ์การเจ็บป่วยของตัวเอง และอาจมีความหวาดกลัวอย่างมาก มากกว่าคนปกติ โดยบางคนก็อาจจะไม่มีเหตุผลอะไรเลย ซึ่งในเวลาปกติแล้ว ENTJ มักจะไม่กลัวอะไร เพราะใช้เหตุผลในการรับข้อมูลมากกว่าความรู้สึก แต่เมื่อความรู้สึกทำงานนำหน้าในส่วนฟังก์ชันของ Te ENTJ ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนไหวง่ายได้ 13.ISFJ -- Codependency หรืออาการของคนที่มีความขาดเธอเหมือนจะขาดใจเกิดจากคนที่มีนิสัยเอาใจคนอื่นมากเกินไปโหยหาความยอมรับจากอีกฝ่ายหนึ่งกลัวว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะทอดทิ้งตัวเองไปเมื่อขัดใจ เพราะ ISFJ เป็นบุคลิกของผู้ตั้งรับ ซึ่งมีนิสัยอบอุ่น อ่อนโยน ชอบดูแลคนทุกๆคนรอบๆตัวเหมือนสมาชิกในครอบครัว จะทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่ตัวเองรักรู้สึกสบายใจ แม้วาในชีวิตจริงแล้ว เขาจะเป็นคนที่เพื่อนๆเดอะแก็งของชาว ISFJ ไม่ชอบก็ตาม14. ESFP -- Shopaholic เป็นอาการทางจิตของคนที่เสพติดการช้อปปิ้งมากเกินไป แม้ว่าตัวเองจะไม่มีเงินหรือมีเงินไม่พอใช้ก็ตาม ก็จะขอแค่ได้ช้อปปิ้งเพื่อให้ตัวเองนั้นสบายใจหรือมีความสุขก็พอแล้ว เพราะ ESFP เป็นบุคลิกของผู้มอบความบันเทิง ผู้รักในความสนุกสนาน รักในเสียงดนตรี เสียงเพลง และเรื่องตื่นเต้นตื่นๆ ได้รับพลังงานจากโลกภายนอกและชอบเข้าสังคม อาจจะรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ตอนที่เสพติดเรื่องบันเทิงใจอะไรสักอย่าง และการช้อปปิ้งก็เป็นหนึ่งในนั้น15. ESTP -- PTSD เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นในสงครามของทหารที่เพิ่งผ่านศึกสงครามมาซึ่งเกิดจากจุดใดที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นและไม่สามารถผ่านมันไปได้จึงเกิดอาการคิดซ้ำไปซ้ำมาเราก็พิการมาเมื่อวานวินาทีที่แล้วทั้งที่บางครั้งอาจจะทำมาเป็นปีจริงๆปี 20 ปีมาแล้วก็ตาม เพราะ ESTP เป็นบุคลิกของผู้ประกอบการซึ่งในเวลาปกตินั้นจะไม่ค่อยเป็นคนที่เครียด คิดมาก หรือว่ากังวลใจเรื่องอะไร ติดจะชิลๆง่ายๆสบายๆ แต่ถ้าเจอประสบการณ์ที่แย่มากจนลืมไม่ได้ก็อาจจะมีกระบวนการคิดซ้ำรู้สึกซ้ำเหมือนคนที่เป็น PSTD ได้16. ESTJ -- OCD คืออาการของคนที่มีความย้ำคิดย้ำทำ พูดย้ำซ้ำๆจนทำให้เกิดความกังวลใจและมีการตอบสนองต่อความคิดด้วยพฤติกรรมซ้ำไปซ้ำมาเพื่อลดทอนความกังวลใจหรือความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นภายในของเขา เพราะ ESTJ คือบุคลิกของนักผู้บริหารผู้รัหในความสมบูรณ์แบบ จริงจังในการทำงาน ขยันและมุ่งมั่นมากๆในการที่จะได้เป็นผู้นำ เป็นหัวหน้า ได้เลื่อนเป็นที่หนึ่ง จึลอาจจะมีอาการย้ำคิดย้ำพูดย้ำทำได้ ผู้เขียนเป็น INFP นะ สมัยที่เรียนอยู่ในรุ่นของผู้เขียนคนที่เป็นออทิสติก หรือมีอากาารทางจิต จะถูกเพื่อนๆรุมแกล้งและถูกหัวเราะเยาะใส่ทั้งต่อหน้าและลับหลังอย่างน่าสงสารเลย อย่างตอนที่เรียนอยู่ ก็มีเพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นพี่ที่เรียนที่เดียวกันที่เป็นออทิสติกและคนในสังคมยุคนั้นปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนไม่ใช่คนหรือมนุษย์คนหนึ่งที่ยืนอยู่ในสังคมเดียวกันเลยและเริ่มแกล้งพวกเขา ไม่สนใจพวกเขา เพิกเฉยพวกเขา ซึ่งคนบางคนก็ไม่ได้มีปัญหาทางจิตอะไรหรอก พวกเขาใช้ชีวิตของตัวเองปกติ กินข้าว เรียนหนังสือ มีหนังสือการ์ตูนที่ชอบ อ่านนิยาย มีคนที่แอบปลื้ม มีคนที่อยากเป็นเพื่อน และมีคนที่ทำให้รู้สึกน้อยใจหรือไม่พอใจ แต่หลังจากที่เพื่อนที่สนิทกับเพื่อนคนนี้ย้ายโรงเรียนไป เพื่อนทุกๆคนในห้องก็ไม่มีใครเข้ามาคุยหรือเล่นกับเพื่อนคนนี้อีกเลย ทั้งๆที่ทุกคนก็เคยอยู่กลุ่มเดียวกันมาก่อน และเพื่อนคนนี้ก็ต้องนั่งคนเดียว ทำงานคนเดียว กินข้าวคนเดียว ไปเรียนคนเดียวตลอดทั้งเทอมนั้น ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสงสารมากเลย แต่เรื่องตลกร้ายก็คือหลังจากที่มีนักเรียนเข้ามาและเพื่อนคนนี้ตีสนิทกับนักเรียนใหม่หรือหาเพื่อนใหม่เมคเฟรนด์สนิทกับคนใหม่แล้วพวกเขาก็เข้ากับเพื่อนๆทุกคนในห้องได้ดีเหมือนเดิมและเผลอๆจะสนิทกว่าเดิมด้วย โดยที่ผู้เขียนไม่แน่ใจเลยว่าเราจะเป็นเพื่อนหรือสามารถสนิทกับคนที่เคยแกล้งเราได้มั้ยแบบ พวกเขาอาจจะใช้ชีวิตต่อไปโดยหลงลืมและไม่เคยจดจำเรื่องพวกนี้ราวกับเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย หรือพวกเขาเคยรู้สึกเสียใจบ้างมั้ยที่ทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่งต้องอยู่คนเดียว หรืออยู่ในความรู้สึกหวาดกลัว และต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวกับการร้องไห้คนเดียวโดยไม่มีใครรู้ จริงๆสังคมโรงเรียนมันก็คับแคบมากๆ และโรงเรียนมันก็เป็นแค่ตึกๆหนึ่งเท่านั้น ที่ๆมีเด็กใหม่เข้ามาก็มีเด็กเก่าออกไป มีอาจารย์คนใหม่เข้ามา ก็มีอาจารย์คนเก่าออกไป และสักวันก็อาจจะเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนสถานที่เป็นอย่างอื่นโดยไม่มีใครจำได้อีกว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นอะไรมาก่อน ซึ่งผู้เขียนเคยโดนเพื่อนแกล้งที่โรงเรียนมาก่อนค่ะ เพราะติดนิสัยที่คิดช้า พูดช้า เดินช้าบางอย่างอยู่ จึงทำให้เพื่อนๆรำคาญและโดนเพื่อนแกล้ง ซึ่งมันคงจะดีถ้าอยู่กับคนที่ยอมรับและเข้าใจรวมถึงเคารพตัวตนของเราเพียงอย่างเดียวและโฟกัสแค่เรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว แต่สังคมมัธยมมันผิวเผินมากเลยสำหรับผู้เขียน และอาการทางจิตก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทุกๆคนเหมือนกับความเศร้าและความผิดหวังรวมถึงความเสียใจที่เกิดขึ้นสำหรับคนปกติ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายที่เราจะไปหาจิตแพทย์และบอกว่าเราเครียด โลกนี้ไม่ใช่โลกเมื่อ 60-70 ปีที่แล้ว ที่ผู้คนจะปฏิบัติกับผู้ป่วยทางจิตเหมือนพลเมืองจากโลกที่สาม หรือคนที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วยกัน แต่ต้องขอยอมรับเลยว่าสมัยนี้ยังมีคนที่มีสายตาที่เต็มไปด้วยอคติต่อผู้ป่วยอยู่ เพียงเพราะพวกเขาไม่รู้และพวกเขาไม่เข้าใจ ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ เพราะถ้าถามผู้เขียนว่าผู้เขียนสามารถเข้าใจความรู้สึกและจิตใจของคนป่วย ติดเตียง ใกล้ตายขนาดนั้นมั้ย ผู้เขียนก็ต้องขอบอกว่าเข้าใจนะแต่ไม่สามารถรู้สึกหรือรับรู้ได้ 100% เหมือนกับคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความตายอยู่ตรงนั้น เพราะเราไม่ใช่คนที่ไปอยู่ในจุดเดียวกับเขา เราเป็นแค่คนดูเฉยๆ อีกทั้งมนุษย์โฮโมเซเปียนส์ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอดทนได้ต่ำต่อสถานการณ์การณ์หรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวที่แตกต่างจากตัวเองอีก ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยถ้าจะมีเหตุการณ์คนอ้วนจนลุกไม่ได้แล้วคนในสังคมจะหยิบมือถือมาถ่ายแทนที่จะยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือหรือโทรหารถพยาบาล นอกจากคนใกล้ชิด หรือคนที่สนิทด้วยที่จะโทรเรียกรถพยาบาลหรือเข้ามาช่วยเหลือจริงๆแหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมที่ 16personalities.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : MBTI 16 บุคลิกภาพ กับ บุคลิกที่จับคู่ Match กันแล้ว เข้ากันได้ดีสุด ๆMBTI 16 บุคลิกภาพ กับ การปลอบใจคน MBTI 16 บุคลิกภาพ แต่งชุดอะไรในวันฮัลโลวีนMBTI 16 ไทป์ เมื่อเป็นแมวจะทำอะไรMBTI 16 ไทป์ กับ ระดับความโรแมนติกในใจ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย mohamed_hassan/ pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !