Photo Credit : cromaconceptovisual / Pixabay ย้อนไปประมาณ 1 ปีที่แล้ว ความทรงจำของฉันกับโควิด 19 ครั้งแรกคงเป็นปีสุดท้ายที่ฉันใกล้จะสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากต่างประเทศ ตอนแรกๆก็รู้สึก งงๆน่ะ ว่ามันคือโรคอะไร เชื้อมาจากไหน ทำไมถึงได้เกิดการแพร่ระบาด และฉันเชื่อว่า ณ เวลานั้นไม่มีใครไม่สงสัยหรอก ว่าอยู่ดีๆทำไมถึงได้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นมา ในฐานะนักศึกษาคนหนึ่ง คิดแค่ว่าทุกโรคที่เกิดขึ้นสามารถหายได้ ไม่ช้าก็เร็ว แต่มันจะไม่อยู่กับเราตลอดไปแน่นอน ฉันเชื่อแบบนั้น... Photo Credit : 12222786 / Pixabay ช่วงเวลาของการเกิดโรคระบาดของโรคนี้ ไม่มีใครปฏิเสธเลยน่ะว่าในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจะไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย แต่ฉันเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออกในตัวของมันเสมอ ขอแค่เราอดทนและปฏิบัติตามมาตรการที่ทางรัฐบาลได้ออกคำสั่งไว้ เพราะถ้าเราทำตาม สิ่งที่จะส่งผลดีก็คือต่อตัวเราและคนรอบข้าง ยอมรับน่ะว่าแรกๆ ประชาชนประเทศเขาไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลสักเท่าไหร่ เพราะบางคนยังขาดความรู้เรื่องการแพร่ระบาดของโรคนี้อีกมาก คิดว่าไม่เป็นไร พอประชาชนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมาตรการ การแพร่เชื้อของประเทศเขายิ่งเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นจนรัฐบาลออกมาตรการใหม่ คือให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้านหรือคำที่พวกเราพูดติดปากในวันนี้คือ stay at home นั้นเอง ส่วนนักศึกษาต่างประเทศอย่างฉันและเพื่อนๆไม่กล้าออกไปไหนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะคิดและรู้สึกว่าการบริหารจัดการประเทศเขามันดีอยู่แล้ว ดังนั้นการไม่แหกกฎถือเป็นเรื่องที่ควรทำมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงวิกฤติแบบนี้ Photo Credit : ElisaRiva / Pixabay แรกๆการเรียนการสอนก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างน่ะ แต่ที่เพิ่มเติมคือให้ทุกคนสวมหน้ากาก ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล และอยู่กันห่างๆ แต่พออยู่กันสักพักก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น คือได้ยินข่าวคราวของมหาวิทยาลัยใกล้เคียงว่ามีนักศึกษาติดเชื้อโควิด 19 และมหาลัยทุกแห่งที่มีคนที่ติดเชื้อนี้เขาจะปิดมหาลัยทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่กว้างขึ้น ในฐานะคนที่มีการศึกษาเขาจะรู้ดีว่าการป้องกันดีกว่าการแก้ไขเสมอ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ประชาชนประเทศเขาบางคนยังดื้อรั้นไม่ยอมทำตามมาตรการ Photo Credit : mohamed_hassan / Pixabay ท้ายที่สุดแล้วมหาลัยที่ฉันเรียนอยู่ก็ต้องปิดการสอนแบบปกติ แต่จะมีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ที่เจอกันแค่บนหน้าจอมือถือหรือแท็บเล็ตหรือหน้าคอมพิวเตอร์ แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่จะแสวงหาความรู้ เพราะเรายังสามารถหาความรู้ได้แม้จะไม่ได้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ก็ตามที่เห็นน่ะว่าเทคโนโลยีสมัยนี้มันล้ำหน้าขนาดไหน แต่สิ่งที่ไม่ง่าย ณ ตอนนั้น สำหรับคนที่เป็นนักศึกษาก็ดี ประชาชนธรรมดาก็ดี คือทุกคนจะต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตแต่ก่อนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากและดีที่สุด เพราะถ้าทุกคนไม่ช่วยกัน เราทุกคนก็ไม่สามารถผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ ดังนั้นบทเรียนครั้งแรกของฉันกับโควิดคือการทำให้ฉันฉุดคิดได้ว่า บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นการยอมรับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวเข้ากับมันคือทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นๆ โปรดติดตามตอนต่อไป... บทความโดย : Hope ขอบคุณภาพจาก pixabay.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !